Header-sellsuki.webp
S E L L S U K I
mdi_eye : 1466 ph_share-bold : 0 charm_sound-down
อ่าน

อยากทำ Web Application บนเว็บไซต์ รู้ไว้ไม่ Out!!

Web_Application

ทุกวันนี้เราอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังใช้งาน Web Application กันอยู่บ่อย ๆ เพราะผู้คนส่วนใหญ่จะรู้จักแต่แอปพลิเคชันที่เราใช้งานและคุ้นเคยกันดีบนมือถือ…แล้วเว็บแอปพลิเคชันนั้นคืออะไร แตกต่างจากเว็บไซต์ธรรมดาทั่วไปยังไง และแบบไหนที่เรียกว่าเว็บแอปฯ วันนี้เราหาคำตอบกัน!!

Web Application คืออะไร

เว็บแอปพลิเคชัน คือการเขียนเว็บขึ้นมาเพื่อใช้ในการเปิดผ่านเว็บเว็บบราวเซอร์ได้เลย โดยที่เราไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันลงมือถือ ทำให้สะดวกสบายต่อผู้ใช้งาน และยังกินทรัพยากรในการทำงานของเครื่องได้น้อยกว่าเดิมอีกด้วย

Web Application แตกต่างจากเว็บไซต์ทั่วไปอย่างไร

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเว็บไซต์กับเว็บแอปพลิเคชันนั้นคืออันเดียวกัน เพราะ 2 อย่างนี้มีจุดเริ่มต้นในการใช้งานจากจุดเดียวกันจึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจในตรงนี้ ซึ่งความแตกต่างหลัก ๆ จะมีดังนี้

เว็บไซต์

จะเป็นหน้าเพจที่สร้างขึ้นมาเพื่อแสดงข้อมูล และมีการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเว็บหรือหน้าเพจอื่น ๆ ตามแต่ละรูปแบบที่ผู้สร้างกำหนดเซ็ตไว้โดยเป็นการเน้นยอดวิวของคนเข้ามาดู

เว็บแอปพลิเคชัน

ตรงนี้จะมีหน้าที่คล้ายกับเว็บไซต์ แต่จะเน้นไปในส่วนของการใช้งานจากผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม เช่น เว็บสำหรับสุ่มตัวเลข เว็บสำหรับคำนวณค่าตัวเลขต่าง ๆ

Web Application แตกต่างจากแอปพลิเคชันอย่างไร

เว็บแอปพลิเคชันจะเป็นการทำงานผ่านเซิร์ฟเวอร์ของโปรแกรมโดยใช้งานที่อยู่ของ URL ทำให้ประหยัดเวลาในการเข้าถึงเพราะสามารถเข้าใช้งานผ่านได้ทุกแพลตฟอร์ม แต่แอปพลิเคชั่นจะเป็นการทำงานที่อยู่บนระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ ต้องดาวน์โหลดจากสโตร์นั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น App Store หรือ Google Play Store เป็นต้น

Web Application มีประโยชน์มากแค่ไหน

แน่นอนว่าเว็บแอปฯ มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือการใช้งานได้สะดวก และง่าย ไม่วาจะอยู่ที่ไหน ขอแค่มีอุปกรณ์ที่เชื่อมกับอินเตอร์เน็ต ก็จะสามารถเข้าไปใช้งานได้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาติดตั้ง ไม่เปลืองทรัพยากรอื่น ๆ อีกด้วย

Web Application มีวิธีการทำงานอย่างไร

การที่ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าไปใช้งานในหน้าเว็บได้ง่าย ๆ รู้หรือไม่ว่าคนเบื่องหลังนั้นทำงานไม่ง่ายเลย โดยหลัก ๆ จะแบ่งเป็น 4 ส่วน ตามนี้

Web Application

เป็นลำดับแรกสุดในการรับข้อมูลจาก User ซึ่งจะมีปรับเปลี่ยนการใช้งานไปได้หลากหลายรูปแบบตามที่เราได้กำหนดไว้ เช่น

  • ระบบเก็บข้อมูล CRM
  • ระบบ Membership
  • การคำนวณค่าต่างๆ
  • ระบบซื้อขายแบบ eCommerce
  • ระบบ Payment (การชำระเงิน)
    และอื่น ๆ

Web Browser

ในส่วนนี้จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเปิดเว็บแอปฯ ซึ่งมีหลายตัวเลือกไม่ว่าจะเป็น Google Chrome Microsoft Edge หรือ Firefox โดยปัจจุบันเบราเซอร์เหล่านี้ใช้งานได้ทั้งบนสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์แล้ว

Web Server

ระบบเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการเว็บไซต์และเว็บแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ทำหน้าที่รับส่งข้อมูลจากผู้ใช้งานและฝั่ง เว็บแอปฯ

Database

ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของฝั่งที่เข้ามาใช้งาน โดยบางครั้งมีการทำ Database Server แยกต่างหาก เพื่อการควบคุมดูแลที่ง่าย และความปลอดภัยของตัวเว็บแอปฯ เอง

ถึงแม้เว็บแอปพลิเคชันจะอยู่กับเรามาเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับใครบางคน ฉะนั้นแล้วอย่าลืมแชร์หรือส่งต่อให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน จะได้รู้ว่าเว็บที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ เป็นเว็บแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ทั่วไปกันนะ และรู้หรือไม่ว่าปัจจุบันเว็บแอปฯ นั้นได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานสูงกว่าแบบเก่า เนื่องจากมีความสะดวกสบายในการเข้ามาใช้งาน แถมมาพร้อมกับความสวยงามของการออกแบบดีไซน์อีกด้วย

ขอขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามข่าวสารบทความใหม่ ๆ มาเสมอ และก็อย่าลืมไปกดติดตามน้องสุกิผ่านช่องทางอื่น ๆ อย่างช่องทาง Facebook และ Youtube กันด้วยน้า

แท็ก Websitee-CommerceOnline Business

แชร์

บทความนี้มีประโยชน์กดชอบเป็นกำลังใจให้เราได้
Like this article