การขายของออนไลน์ในปี 2025 มีตัวเลือกแพลตฟอร์มมากมาย แต่ 3 แพลตฟอร์มหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย คือ Shopee, Lazada และ TikTok Shop แต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดีข้อเสียและความเหมาะสมกับผู้ขายแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจการเปรียบเทียบและวิธีการสมัครทั้ง 3 แพลตฟอร์ม เพื่อให้คุณเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ
การเลือกแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น กลุ่มเป้าหมาย ประเภทสินค้า และงบประมาณในการทำการตลาด
Shopee เหมาะสำหรับผู้ขายมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นง่าย มีฐานลูกค้าหลากหลายทุกกลุ่มอายุ และมีเครื่องมือการตลาดที่ครบครัน เช่น Shopee Live, Flash Sale และ Coin Cashback
Lazada เหมาะสำหรับผู้ขายที่มีสินค้าแบรนด์เนมหรือสินค้าคุณภาพสูง เนื่องจากลูกค้า Lazada มักมีกำลังซื้อสูงกว่าและให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า
TikTok Shop เหมาะสำหรับผู้ขายที่สามารถสร้างคอนเทนต์วิดีโอได้หรือมีสินค้าที่เหมาะกับการทำ Content Marketing เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้เน้นการขายผ่าน Video Content และ Live Streaming
หัวข้อเปรียบเทียบ | Shopee | Lazada | TikTok Shop |
ค่าคอมมิชชั่น | 5.35 - 9.63% (ไม่รวม Shopee Mall) | 5 - 9% (ไม่รวม LazMall) | 5.35 - 6.42% (ไม่รวม TikTok Shop Mall) |
กลุ่มผู้ใช้หลัก | ทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะ Gen Y และ Gen Z | กลุ่มมีกำลังซื้อสูง อายุ 25-45 ปี | Gen Z และ Millennials |
จุดเด่น | ง่ายต่อการใช้งาน, เครื่องมือการตลาดครบ | ลูกค้าคุณภาพสูง, เหมาะกับแบรนด์เนม | Content-driven, การเติบโตเร็ว |
ความท้าทาย | การแข่งขันสูง | สินค้าต้องมีคุณภาพสูง | ต้องสร้างคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง |
การสมัคร Shopee มี 2 รูปแบบหลัก คือ ร้านค้า Shopee ทั่วไปและ Shopee Mall สำหรับร้านค้าที่ต้องการสถานะทางการ
สำหรับบุคคลธรรมดาต้องใช้ บัตรประชาชน และใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 20) (ถ้ามี)
สำหรับนิติบุคคลต้องใช้ ชื่อบริษัท, เลขจดทะเบียนนิติบุคคล, ที่อยู่จดทะเบียนบริษัท, สำเนาหนังสือรับรองบริษัท และสำเนาบัตรประชาชน (ของกรรมการผู้ลงนามในเอกสารรับรองบริษัท)
สามารถไปอ่านรายละเอียด ข้อมูลเพิ่มเติมและกรอกข้อมูลเพื่อสมัคร Shopee Mall
*สำหรับร้านค้าที่มีการจดทะเบียนในรูปแบบบริษัท และเป็นเจ้าของแบรนด์หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
**มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า 30,000 บาท (ไม่รวม VAT)
การสมัคร Lazada มี 2 รูปแบบหลัก คือ ร้านค้า Lazada ทั่วไปและ LazMall สำหรับร้านค้าที่ต้องการสถานะทางการ
สำหรับบุคคลธรรมดาต้องใช้ บัตรประชาชน และสมุดบัญชีธนาคาร
สำหรับนิติบุคคลต้องใช้ หนังสือรับรองบริษัท และสมุดบัญชีธนาคาร
การที่จะสมัครเป็นผู้ขายบน LazMall ได้นั้น ร้านค้าจะต้องจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทเท่านั้น โดยสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมทั้งเอกสารที่ต้องใช้สมัคร LazMall ได้ที่นี่
TikTok Shop เป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตเร็วที่สุดในขณะนี้ เน้นการขายผ่านคอนเทนต์วิดีโอและการ Live Streaming
สำหรับบุคคลธรรมดาต้องใช้ เอกสารยืนยันตัวตนที่หน่วยงานราชการออกให้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง
สำหรับนิติบุคคลต้องใช้ เอกสารรับรองการจดทะเบียนประกอบธุรกิจ เช่น หนังสือรับรองบริษัท ใบจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 20)
สำหรับ TikTok Shop Mall นั้น จะแตกต่างจะแพลตฟอร์มอื่นๆ เพราะจะต้องได้รับการเชิญจากทาง TikTok Shop เท่านั้น และผ่านเกณฑ์ทั้งหมดที่ทาง TikTok กำหนด
สำหรับผู้ขายมือใหม่ การเลือกแพลตฟอร์มควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้:
แนะนำ Shopee สำหรับมือใหม่ หาก:
แนะนำ Lazada สำหรับมือใหม่ หาก:
แนะนำ TikTok Shop สำหรับมือใหม่ หาก:
การเลือกแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ในปี 2025 ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับธุรกิจของแต่ละคน
สำหรับผู้ขายมือใหม่ แนะนำให้เริ่มต้นด้วย Shopee เนื่องจากมีกระบวนการสมัครที่ง่าย เครื่องมือการขายที่ครบครัน และฐานลูกค้าที่หลากหลาย
สำหรับผู้ที่มีสินค้าคุณภาพสูง Lazada จะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะลูกค้ามีกำลังซื้อสูงและให้ความสำคัญกับคุณภาพ
สำหรับผู้ที่ต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว TikTok Shop เป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่กำลังเติบโตและมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หากคุณยังรู้สึกว่าการเริ่มต้นขายออนไลน์ด้วยตนเองนั้นซับซ้อนเกินไป หรือต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ WizeMoves e-Dis พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน