ไขกลยุทธ์ “ตู้เต่าบิน” คาเฟ่อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง ที่มาแรง

น้องสุกิต้องเกริ่นก่อนว่าเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ หรือ Vending Machine มีมานานมากแล้ว ซึ่งจะมีการพัฒนาเวอร์ชั่นให้ตู้มีความฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันจะพบเห็นตู้จำหน่ายสินค้าอัติโนมัติขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และยังมีตู้หลากหลายประเภท เช่น ตู้ขายเครื่องดื่ม ตู้ขายขนมขบเคี้ยว ตู้ขายอาหารพร้อมรับประทาน แและตู้ขายสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ เป็นต้น

ซึ่งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ หรือ Vending Machine ที่กำลังมาแรงอยู่ช่วงนี้ก็ คือ “ตู้เต่าบิน” (TAO BIN) โดยได้นิยายตัวเองว่าเป็น “Robotic Barista” และให้บริการ 24 ชั่วโมง โดยบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด

ปัจจุบันมีร้านกาแฟ คาเฟ่ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในประเทศไทยทั้งรายใหญ่และรายย่อย แต่ทำไมตู้เต่าบินถึงสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ และมียอดขายมากถึง 60 - 200 ต่อวัน ต่อตู้ วันนี้น้องสุกิจะชวนมาไขกลยุทธ์ตู้เต่าบินกัน

กลยุทธ์ “ตู้เต่าบิน” มีอะไรบ้าง?

1. นำ “ตู้บุญเติม” มาต่อยอดธุรกิจในเครือเดิม

โดยการพัฒนาตู้เต่าบินนั้น จะใช้พลังงาน Synergy ของบริษัทในเครือฟอร์ทคอร์ปอเรชั่น ซึ่งกลุ่มธุรกิจ EMS Business เป็นผู้ผลิตตู้เต่าบิน ในปัจจุบันจะผลิตอยู่ที่ 10 - 12 ตู้ และกำลังจะขยายจำนวนการผลิตเป็น 15 ตู้ต่อวัน ซึ่งการพัฒนาตู้เต่าบินนั้นมีความซับซ้อนอยู่มากเนื่องมาจากเป็นตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติที่มีเมนูให้เลือกมากกว่า 170 เมนู โดยให้ลูกค้าสามารถ Customize ได้เอง

2. มีเมนูมากกว่า 170 เมนู ให้ลูกค้าได้เลือกสรรค์

ความหลากหลายของเมนู เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของตู้เต่าบิน โดยมีเมนูในเครื่องทั้งหมด คือ หมวดกาแฟ หมวดโซดา นมและช็อคโกแลต ชา และอื่นๆ โดยมีเมนูรวมทั้งหมด 170 เมนู รวมไปถึงเมนูร้อน เย็น และปั่น โดยลูกค้าสามารถ customize เองได้ และในส่วนของเมนูที่ขายไม่ดี จะมีการปรับเปลี่ยนและนำเสนอเมนูใหม่ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ

3. คุณภาพและมาตฐานต้องดีเยี่ยมสม่ำเสมอ

สิ่งที่สำคัญของ Robotic Barista ที่จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่องคือ คุณภาพและมาตรฐานในทุก ๆ แก้วจะต้องสะอาดและรสชาติเหมือนกัน ซึ่งตู้เต่าบินนั้น จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม รวมไปถึงการใช้แขนกลในการชั่ง ตวง วัด เพื่อให้ได้คุณภาพเหมือนกันในทุกแก้ว และมีระบบทำความสะอาดหัวชงโดยใช้น้ำร้อนแรงดันสูงก่อนที่จะชงแก้วถัดไป

4. ราคาเข้าถึงง่าย

การทำราคาให้เข้าถึงง่าย เป็นปัจจัยสำคัญในการทำการตลาดของตู้เต่าบินเช่นกัน โดยราคาของเครื่องดื่มเฉลี่ยอยู่ที่แก้วละ 34 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และสามารถให้บริการได้ 24 ชั่วโมง

5. หาซื้อง่าย เข้าถึงทุกพื้นที่

นอกกราคา เมนูแล้ว ตู้เต่าบินยังมีการขยายจุดติดตั้ง เพื่อที่จะทำให้สามารถหาซื้อได้ง่าย โดยในจำนวน 800 ตู้ สามารถกระจายไปจุดต่าง ๆ คิดเป็นเปอร์เซ็น ดังนี้

• คอนโดมิเนียม 47%
• โรงงาน 20%
• ห้างสรรพสินค้า 12%
• อาคารสำนักงาน 12%
• โรงพยาบาล 7%
• ระบบขนส่งมวลชน 2%

ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลังจากตู้เต่าบิน Takeoff แล้ว สเต็ปต่อจากนี้ Forth Vending ต้องเร่งขยายตู้เต่าบิน เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

และหากกำลังมองหาผู้ช่วยทำธุรกิจออนไลน์ ที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของธุรกิจมากที่สุด Sellsuki เรายืนหนึ่งในการผลักดันการทำธุรกิจออนไลน์ พร้อมดูแลใส่ใจตลอดขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถก้าวเดินต่อ และเติบโตไปได้อย่างยั่งยืน สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารดี ๆ แบบนี้ก่อนใคร อย่าลืมติดตามกันได้ที่ Facebook และ YouTube ของน้องสุกิด้วยน้า!