Header-sellsuki.webp
S E L L S U K I
mdi_eye : 97 ph_share-bold : 0 charm_sound-down
อ่าน

เจาะลึก Insight “มัทฉะ” พร้อมเคล็ดลับสร้างแบรนด์ร้านมัทฉะให้ปังไม่ซ้ำใคร

เจาะลึกธุรกิจ มัทฉะ.png

ขึ้นชื่อว่าคนไทยแล้ว เวลาที่ต่างประเทศฮิตอะไร หรือมีเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้น ก็มักจะถูกหยิบยกมาพูดถึงและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในไทย เช่นเดียวกับกระแส “มัทฉะ” ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่วงนี้ 

จุดเริ่มต้นความนิยมมัทฉะในไทยรอบนี้ มาจากกระแสในโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram และ TikTok ที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์เกี่ยวกับมัทฉะ ไม่ว่าจะเป็นสูตรชงมัทฉะ การรีวิวมัทฉะจากร้านดัง หรือแม้แต่การเปรียบเทียบมัทฉะเกรดพรีเมียมจากหลากหลายแหล่ง นอกจากนี้ กระแส มัทฉะลาเต้ และ มัทฉะโฮมเมด ก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักสุขภาพ ที่มองว่ามัทฉะเป็นทางเลือกที่ดีต่อร่างกาย ทั้งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มพลังงาน และมีคาเฟอีนที่ดูดซึมช้ากว่าเมื่อเทียบกับกาแฟ

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มัทฉะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว คือภาพลักษณ์ของ มัทฉะพรีเมียม ที่เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ รักการดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ และชื่นชอบการแชร์ไลฟ์สไตล์ผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้มัทฉะไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของคนรักสุขภาพและคนที่มีสไตล์

ด้วยกระแสที่มาแรงแบบนี้ ทาง Sellsuki ขอพาคุณมาค้นหาคำตอบผ่าน เครื่องมือ Social Listening ให้เห็นเทรนด์และความคิดเห็นของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ว่ากระแสความสนใจในมัทฉะนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง

5 ขั้นตอนการทำ Data Blueprint ด้วยเครื่องมือ Social Listening

มัทฉะ.png

Step 1 - Crack โจทย์ไหนที่อยากรู้ 

ในขั้นตอนแรกสุดของเรานั้น เราจะต้องมีตีโจทย์ให้แตกว่าเราอยากรู้หรือศึกษาเรื่องอะไรที่คนพูดถึงกันในโซเชียลมีเดีย ในบทความนี้เราจะศึกษาคำว่า “มัทฉะ” และ “Matcha” นั่นเอง โดยเราจะเอาคำเหล่านี้มาดูว่าเทรนด์เป็นยังไง

Step 2 - Set Keyword & Data Gathering

3.png

ขั้นตอนต่อมาคือ กำหนด Keyword ให้สอดคล้องกับหัวข้อที่เราต้องการศึกษา เพื่อทำการเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Gathering) ซึ่งหัวข้อนี้เราใช้คำว่า “มัทฉะ” และ “Matcha

ผลจากเครื่องมือ Social Listening (Social Listening Tool) ในช่วง 24 พฤศจิกายน 2024 ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2025 หรือเป็นระยะเวลา 3 เดือน รวบรวมข้อมูลบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook, X (Twitter), Instagram และ YouTube เป็นต้น พบว่า “มัทฉะ” และ “Matcha” มีการกล่าวถึงกว่า 49,007 ครั้ง โดยข้อมูลที่ Sellsuki รวบรวมได้นั้น เป็นข้อมูลจากโพสต์สาธารณะ ภายใต้นโยบาย Policy ของแพลตฟอร์ม

Step 3 - Data Analyst & Visualize

ในขั้นตอนที่สาม เราจะต้องนำข้อมูลที่ได้จากแพลตฟอร์มต่างๆ มาทำการวิเคราะห์ (Data Analysis) แต่อย่าลืมตรวจสอบ และคัดกรองข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Keyword ออกก่อน เพื่อให้การวิเคราะห์ของเรานั้นมีความแม่นยำและชัดเจนมากที่สุด

4.png

จากรูป จะเห็นได้ว่าตัว Facebook มีการกล่าวถึงเป็นอันดับหนึ่งที่ราวๆ 63% หรือ 25,811 ครั้ง ในขณะที่ Instagram อยู่ที่อันดับสองที่ 20.5% จำนวน 10,060 ครั้ง และ X หรือ Twitter เป็นแพลตฟอร์มอันดับสามที่ 14.7% จำนวน 7,191 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่มีการพูดถึงอย่าง TikTok 9.0% จำนวน 4,406 ครั้ง, Youtube 1.7% จำนวน 850 ครั้ง และ Forum 1.4% จำนวน 659 ครั้ง

ซึ่งลำดับความนิยมของแต่ละแพลตฟอร์มสะท้อนให้เห็นถึง ลักษณะการใช้งานที่ตอบโจทย์ จากการวิเคราะห์พบว่า Facebook ได้มีการพูดถึงมัทฉะมากที่สุดเนื่องจากหลายปัจจัยที่สอดคล้องกับลักษณะการใช้งานของแพลตฟอร์มเหล่านี้และพฤติกรรมของผู้ใช้งาน โดยแบ่งออกเป็น

1. มัทฉะเป็นกระแสที่คนสนใจ และ Facebook คือแพลตฟอร์มหลักของการแชร์ข้อมูล

Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่มีคนไทยใช้งานมากที่สุด ทำให้ทุกกระแสที่ได้รับความนิยม เช่น มัทฉะ ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการแชร์รีวิว แนะนำสูตรชง หรือการเปรียบเทียบแบรนด์มัทฉะ

2.คอนเทนต์มัทฉะถูกแชร์ได้ง่าย ทั้งรีวิว สูตร และเทรนด์สุขภาพ

บน Facebook มีการแชร์คอนเทนต์เกี่ยวกับมัทฉะในหลายรูปแบบ เช่น

  • รีวิวมัทฉะแบรนด์ต่างๆ ซึ่งคนมักแชร์ประสบการณ์ดื่มมัทฉะ พร้อมรูปถ่ายสวยๆ 
  • สูตรชงมัทฉะ  โดยจะเป็นวิธีทำมัทฉะลาเต้ มัทฉะน้ำผึ้งมะนาว หรือมัทฉะโซดา 
  • ประโยชน์ของมัทฉะ ที่เน้นเรื่องสุขภาพ เช่น ต้านอนุมูลอิสระ ดีต่อสมาธิ 

3.Facebook Groups เกี่ยวกับสุขภาพและอาหารช่วยขยายกระแสมัทฉะ

บน Facebook มีกลุ่มเกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารคลีน คาเฟ่ และชาเขียว ที่พูดถึงมัทฉะเป็นประจำ เช่น

  • กลุ่ม “รีวิวคาเฟ่” แชร์เมนูมัทฉะจากร้านดัง
  • กลุ่ม “สายเฮลตี้” แชร์ประโยชน์ของมัทฉะและสูตรชงที่ดีต่อสุขภาพ

4.แบรนด์เครื่องดื่มและคาเฟ่ใช้ Facebook เป็นช่องทางหลักในการทำการตลาด

ในส่วนของร้านกาแฟและคาเฟ่ใช้ Facebook ในการโปรโมตเมนูมัทฉะ เช่น

  • โพสต์รูปมัทฉะลาเต้พร้อมแคปชั่นดึงดูด
  • ยิงโฆษณา Facebook Ads กระตุ้นให้คนมาลองเมนูมัทฉะ

5.อัลกอริทึมของ Facebook ดันกระแสมัทฉะให้คนเห็นมากขึ้น

เมื่อผู้ยิ่งคนแชร์ พูดถึง หรือกดไลก์โพสต์เกี่ยวกับมัทฉะมากขึ้น Facebook ก็จะยิ่งแสดงโพสต์เหล่านี้ให้ผู้ใช้คนอื่นเห็นมากขึ้น ทำให้มัทฉะกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง

Social Data Stat Overview

5.png

จากข้อมูล Social Data Stat Overview พบว่า แพลตฟอร์มที่มียอด Engagement สูงสุดในกรณีของการโปรโมตหรือสร้างกระแสเกี่ยวกับ มัทฉะ คือ TikTok โดยลักษณะของคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดมักจะอยู่ในรูปแบบของคลิปที่เป็นการชงมัทฉะ และรีวิวมัทฉะแบรนด์ต่างๆ ซึ่ง TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ขึ้นชื่อเรื่อง ไวรัลคอนเทนต์และการมีส่วนร่วมสูง ซึ่งเมื่อพูดถึง “มัทฉะ” ก็กลายเป็นหนึ่งในกระแสที่ได้รับความนิยมมากกว่าช่องทางอื่นๆ เช่น Facebook หรือ Instagram 

Social Data Stat by Hashtag Cloud

Sellsuki ใช้ Hashtag Cloud ฟีเจอร์ที่ช่วยค้นพบแฮชแท็กน่าสนใจ รวมไปถึงภาพรวมของข้อมูลและเทรนด์ที่สอดคล้องกับ Keyword ของเรา

12.png

หากต้องการจะหา Hashtag ที่เกี่ยวข้องกับ workshop เราก็ต้องไม่ลืมที่จะวิเคราะห์ข้อมูลจากที่ Hashtag Cloud ด้วยเช่นเดียวกัน

แต่ก่อนที่จะลงลึกไปในส่วนของรายละเอียด วันนี้ Sellsuki จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจคร่าวๆ กันว่า แฮชแท็กสำคัญกับการตลาดออนไลน์อย่างไร โดยแฮชแท็กไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ธรรมดา แต่เป็น เครื่องมือทรงพลัง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการตลาดออนไลน์ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น

  • เพิ่มการเข้าถึง (Reach): ช่วยให้โพสต์ของคุณไปไกลกว่าเดิม
  • สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ (Brand Awareness): ให้คนจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
  • ส่งเสริมแคมเปญ (Campaign Promotion): กระตุ้นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ
  • วิเคราะห์เทรนด์ (Trend Analysis): เกาะติดกระแสที่ผู้บริโภคสนใจ
  • เสริม SEO: เพิ่มโอกาสให้แบรนด์ถูกค้นพบในโลกออนไลน์

จากข้อมูล Hashtag Cloud บนโซเชียลมีเดีย พบว่า #matcha นั้นครองแชมป์แฮชแท็กที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยการติดแฮชแท็กนี้บนโซเชี่ยลมีเดียมากถึง 4,571 ข้อความ หรือคิดเป็น 23.65% ในขณะที่อันดับ 2 คือ #มัทฉะ มีการติดแฮชแท็กนี้ 4,214 ข้อความ หรือคิดเป็น 21.81% ตามมาด้วย #matchalover มีการติดแฮชแท็กนี้ 2,027 ข้อความ หรือคิดเป็น 10.49% นอกจากนี้ยังมีการติดแฮชแท็กอื่นๆ อีก เช่น #ชาเขียว #coffee #อร่อยบอกต่อ #matchalatte #ชาเขียวมัทฉะ #มัทฉะลาเต้

13.png

สืบเนื่องจาก Hashtag Cloud ทาง Sellsuki ได้ค้นหา Keyword มัทฉะ ด้วยเครื่องมือในการค้นหา Keyword เพื่อทำ SEO สำหรับเว็บไซต์อย่าง Ubersuggest พบว่า Keyword มัทฉะ มีคำที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

  • ความแตกต่างระหว่างชาเขียว กับ มัทฉะ
  • ข้อดีของการกินมัทฉะ
  • ความแตกต่างระหว่างชาเขียว กับ มัทฉะ 

Categories Overall

14.png

หลังจากที่เรารวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเสร็จแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการจัดกลุ่มข้อมูลเหล่านี้เป็นประเภท (Categories) เพื่อช่วยในการกำหนดหัวข้อหรือประเด็นเชิงลึก (Insights) ที่จะทำให้การศึกษาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มาดูกันว่า ข้อมูลกว่า 49,000 Mentions สามารถแบ่งประเภทได้อย่างไรบ้าง 

หากจะพูดถึงเรื่องมัทฉะพบว่า 4 ประเด็นที่กลายมาเป็นประเด็นในการสนทนาบนโซเชียลมีเดียมากที่สุดคือ “Key Factors” สูงถึง 56.3% ส่วนอันดับที่ 2 คือ “เมนูจากมัทฉะ” โดยมีการกล่าวถึงบนโซเชียลมีเดียอยู่ที่ 11.1% ในส่วนของอันดับที่ 3 คือเรื่อง “แบรนด์เครื่องดื่มมัทฉะ” ซึ่งคิดเป็น 11.1% ของการกล่าวถึงบนโซเชียลมีเดีย ส่วนอันดับสุดท้ายที่ถูกกล่าวถึงคือ “ประเภทของมัทฉะ” ซึ่งคิดเป็นเพียง 4.7% 

ประเภทของมัทฉะ

15.png

หลังจากที่ทีมงาน Sellsuki ได้ทำการสืบค้นและวิเคราะห์ข้อมูลผ่าน Social Listening พบว่า ประเภทของมัทฉะที่ค้นหาจะแบ่งออกเป็น

  • Ceremonial Grade คิดเป็นสัดส่วน 87.8% ซึ่ง Ceremonial Grade มัทฉะสำหรับพิธีการ เป็นมัทฉะที่มีคุณภาพสูง ใช้ในพิธีชงชาแบบดั้งเดิม ทำจากยอดอ่อนของใบชา ให้รสชาติหวานละมุน ไม่มีรสขม สีเขียวอ่อน เนื้อละเอียด ละลายน้ำได้ดี นิยมดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาลหรือนม
  • Cooking Grade คิดเป็นสัดส่วน 12.2% ซึ่ง Cooking Grade หรือ มัทฉะสำหรับทำอาหาร เป็นใบชาที่คุณภาพรองลงมาเพราะใช้ใบชาที่แก่ขึ้น สีเขียวออกเข้มไปทางเขียวหม่น สีไม่สดเหมือนเกรดพิธีการ ใช้สำหรับทำอาหารและขนม เพราะมีรสขมและฝาดมากกว่าชนิดอื่น

แบรนด์เครื่องดื่มมัทฉะ

17.png

จากกระแสที่มัทฉะเริ่มกลับมาฮิตในประเทศไทย ทำให้ผงมัทฉะขาดตลาด มีการซื้อจากต่างประเทศมาเพื่อขายต่ออีกทอด แบรนด์ต่างๆ เห็นช่องว่างตรงที่คนหาซื้อผงมัทฉะไม่ได้ เริ่มโปรโมทเมนูที่ทำจากมัทฉะทำให้หาซื้อง่ายกว่า โดยแบรนด์ที่มีการพูดถึงมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ

  • Cafe Amazon: มีความนิยมสูงสุดอยู่ที่ 17.4% เนื่องจาก Cafe Amazon มีสาขาทั่วประเทศ ทำให้คนเข้าถึงได้ง่าย ราคาถูก และเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเครื่องดื่มมัทฉะแบบสะดวกซื้อ และยังมีการทำ แคมเปญการตลาด และโปรโมชั่นที่ช่วยกระตุ้นการพูดถึงบนโซเชียล
  • Mini: มีความนิยมรองลงมาอยู่ที่ 16.4% เพราะเป็นแบรนด์ลูกของ Peace Oriental Teahouse ที่ต้องการนำเสนอเครื่องดื่มชาคุณภาพดีให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ทุกเมนูราคา 65 บาท ทำให้เป็นที่นิยมของคนวัยทำงาน และกลุ่มคนรุ่นใหม่
  • พันธุ์ไทย: ได้รับความนิยม 14.1% โดยพันธุ์ไทยเป็นแบรนด์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ มีเมนูมัทฉะที่เลือกใช้ใบชาคุณภาพดีจากญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ราคาไม่แพง นอกจากนี้ยังมีการใช้พรีเซนเตอร์ที่มือชื่อเสียง ทำให้มีการพูลถึงบน social media ที่ค่อนข้างกว้าง

เมนูจากมัทฉะ

19.png

เมื่อพูดถึงเมนูจากมัทฉะ พบว่าเมนูมัทฉะลาเต้ มีการพูดถึงมากที่สุดที่ครองสัดส่วน 26.8% ลำดับถัดมาคือเค้กมัทฉะที่มีสัดส่วน 25.2% ลำดับที่ 3 คือ เพียวมัทฉะ ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 12.6%

ลำดับที่ 4 จะเป็นคุกกี้ มีสัดส่วน 6.9% ลำดับที่ 5 ไอศครีม มีสัดส่วน 6.2% ลำดับที่ 6 มัทฉะร้อน มีสัดส่วน 9.4% ลำดับที่ 7 มัทฉะคอฟฟี่ มีสัดส่วน 5.8% ลำดับที่ 8 มัทฉะผลไม้ มีสัดส่วน 5.6%  และลำดับที่ 9 คือ มัทฉะน้ำผึ้งมะนาว มีสัดส่วน 1.5% 

Key Factors

21.png

เมื่อพิจารณาปัจจัยถึงปัจจัยที่ผู้บริโภคเลือกมัทฉะพบว่า 53% จะเลือกเพราะคุณภาพของมัทฉะ ลำดับที่ 2 คือในเรื่องของราคา ที่มีจำนวน 21.8% สำหรับลำดับที่ 3 คือ เรื่องของความตื่นตัวที่มีจำนวน 12.7% และเรื่องสุขภาพ 12.5% เป็นลำดับที่ 4 

สัดส่วนประชากรที่สนใจ

23.png

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องมือ Social Listening พบว่าสถิติที่ได้พบว่าสัดส่วนของผู้หญิงมีจำนวนที่สูงถึง 62% เมื่อเทียบกับผู้ชายที่มีสัดส่วน 38% หากพิจารณาข้อมูลชุดนี้ลึกลงไปอีกจะพบว่ามีการพูดถึงมากกว่า 15,000 Mentions ในกลุ่มประชากรในช่วงอายุ 25-34 ปี ที่เป็นเพศหญิง และราวๆ มากกว่า 10,000 Mentions เป็นเพศชายในช่วงอายุ 18-24 ปี

Step 4 - Summarize

มัทฉะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก เนื่องจากมีคุณประโยชน์มากมายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวอย่างมีสมดุล โดยไม่ทำให้ใจสั่นเหมือนคาเฟอีนในกาแฟ แต่ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพและชะลอวัย ความโดดเด่นของมัทฉะอยู่ที่ความสามารถในการนำไปใช้ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมในขนม อาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งทำให้มัทฉะกลายเป็นวัตถุดิบยอดฮิตที่ถูกนำมาสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

คุณภาพของมัทฉะถูกแบ่งออกเป็นเกรดต่างๆ ตามแหล่งที่มาและกระบวนการผลิต โดย Ceremonial Grade หรือ มัทฉะพิธีการ ถือเป็นเกรดที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากผ่านกระบวนการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน โดยเลือกใช้ยอดอ่อนของใบชาในการบดจนได้ผงมัทฉะเนื้อละเอียด ให้รสชาติที่กลมกล่อม นุ่มละมุน และปราศจากรสขมเมื่อนำไปชงเป็นเครื่องดื่ม จึงเป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนรักมัทฉะทั่วโลก โดยเฉพาะเมนูยอดฮิตอย่าง มัทฉะลาเต้ ซึ่งได้รับการพูดถึงมากที่สุด ตามมาด้วยเค้กมัทฉะ และล่าสุด Pure Matcha หรือมัทฉะแบบเข้มข้นที่ไม่มีการเติมน้ำตาลหรือนม เพื่อให้ได้สัมผัสรสชาติแท้ๆ ของมัทฉะ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพที่ต้องการดื่มด่ำกับรสชาติชาเขียวในแบบดั้งเดิม

ด้วยกระแสความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้น แบรนด์ต่างๆ จึงหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์จากมัทฉะคุณภาพสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ร้านกาแฟและคาเฟ่หลายแห่งเริ่มนำเสนอเมนูมัทฉะที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแบบคลาสสิก หรือเมนูฟิวชันที่ผสมผสานรสชาติใหม่ๆ โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมวดมัทฉะ ได้แก่ Café Amazon ซึ่งถูกพูดถึงมากที่สุดในฐานะร้านที่เข้าถึงง่ายและมีราคาย่อมเยา ขณะที่ Mini Oriental Speedbar กำลังมาแรงในหมู่คนรักมัทฉะตัวจริง ด้วยการนำเข้าผงมัทฉะคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น 100% เพื่อนำเสนอรสชาติที่แท้จริงของชาเขียว

มัทฉะในวันนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มทางเลือก แต่ได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของไลฟ์สไตล์ที่สมดุล ผสานทั้งสุขภาพ ความพิถีพิถัน และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สะท้อนถึงวัฒนธรรมการบริโภคของญี่ปุ่นที่ละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง ซึ่งแนวโน้มนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นโอกาสสำคัญของตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของสุขภาพและรสนิยมของผู้บริโภคยุคใหม่

Step 5 - Make Solution & Idea

เคล็ดลับสร้างแบรนด์ร้านมัทฉะให้ปังไม่ซ้ำใคร

มัทฉะไม่ได้เป็นแค่เครื่องดื่มทางเลือกอีกต่อไป แต่ถือเป็นวัฒนธรรมการดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเปิดร้านกาแฟที่เน้นมัทฉะเป็นเมนูหลักจึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจ แต่ต้องมีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งเพื่อดึงดูดลูกค้าและทำให้แบรนด์เติบโตอย่างยั่งยืน มาดูกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง 

1. ต้องสร้างจุดขายให้ร้านชัดเจน (Unique Selling Proposition): 
ร้านมัทฉะไม่ใช่แค่ “คาเฟ่ชาเขียว” ทั่วไป แต่ต้องมีเอกลักษณ์ที่ทำให้ลูกค้าอยากกลับมา เช่น 

  • มีการคัดสรรมัทฉะเกรดพรีเมียม หรือ นำเข้าจากฟาร์มชาที่มีชื่อเสียงจากญี่ปุ่น
  • สร้างประสบการณ์ใหม่ เช่น มีการชงสดแบบพิธีชงชา หรือเสิร์ฟในภาชนะสไตล์ญี่ปุ่นที่มีลวดลาย สวย เก๋ ไม่ซ้ำร้านอื่น
  • มีเมนูมัทฉะที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่มัทฉะลาเต้ แต่ต้องมีเมนูสร้างสรรค์ เช่น มัทฉะโซดา มัทฉะมะพร้าว มัทฉะครีมชีส หรือ มัทฉะอัฟโฟกาโต

2. ต้องออกแบบร้านให้เป็นมุมถ่ายรูป (Instagrammable Café) 

  • ควรตกแต่งร้านให้มีเอกลักษณ์ เช่น สไตล์มินิมอลแบบญี่ปุ่น หรือสไตล์โมเดิร์นที่เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
  • ควรมีจุดถ่ายรูปที่ดึงดูดสายโซเชียล เช่น โต๊ะไม้สวยๆ ฉากหลังเป็นกำแพงไม้ไผ่ หรือมุมที่มีแสงธรรมชาติสวยๆ
  • ควรออกแบบแพ็กเกจให้เป็นจุดเด่น แต่ก็ต้องใช้งานง่ายเช่นเดียวกัน เช่น แก้วมีโลโก้ที่ดูหรูหรา หรือใช้หลอดไม้ไผ่แทนหลอดพลาสติก

3. ต้องมีกลยุทธ์การตลาดออนไลน์เด็ดๆและแข็งแกร่งเพื่อเพิ่มยอดขายให้ปังๆ

3.1 ใช้ Social Media ให้เป็นเครื่องมือหลัก

  •  Facebook & Instagram
    • โพสต์ภาพเมนูมัทฉะที่น่ากิน พร้อมแคปชันที่กระตุ้นความอยากซื้อของผู้บริโภค
    • สร้างหรือแชร์โพสต์รีวิวจากลูกค้าจริงลงในเพจของทางร้าน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
    • ใช้ Reels และ Stories โปรโมตร้านแบบสั้นๆ
  • TikTok & YouTube Shorts
    • ทำคลิปที่มีเนื้อหาไปในแนวที่ผู้บริโภคอยากรู้ หรือ หาชมได้ยากจากร้านอื่นหรือแหล่งอื่น เช่น “วิธีชงมัทฉะให้ละมุนเหมือนบาริสต้า” หรือ “รีวิวเมนูมัทฉะยอดฮิตของร้าน”
    • คลิปเบื้องหลังต่างๆ ที่ถือเป็นคลิป unseen ที่แบรนด์อื่นไม่ค่อยเอามาเล่นกัน เช่น วิธีคัดเลือกมัทฉะ
  • LINE OA สำหรับปิดการขาย
    • ให้ลูกค้าแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชันพิเศษ
    • ส่งเมนูพิเศษและแจ้งโปรโมชันแบบ Personalized
    • ให้ลูกค้าสมัคร membership เพื่อนำข้อมูลไปออกเป็นโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้ายิ่งขึ้นและถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้าของทางร้าน 

3.2 ใช้ Influencer และ UGC (User-Generated Content) 

  • เชิญ Food Blogger หรือ Influencer สายสุขภาพ มาลองเมนูที่ร้าน
  • จัดแคมเปญ #มัทฉะที่ใช่ในแบบของคุณ ให้ลูกค้าโพสต์รูปพร้อมติดแฮชแท็ก

3.3 ถ้าอยากปังทางลัดก็ต้องยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

  • Facebook & Instagram Ads
    • ยิงโฆษณาไปยังคนที่สนใจชาเขียว สุขภาพ และคาเฟ่
    • ทดลองใช้โฆษณาแบบ Carousel ให้ลูกค้าเห็นหลายเมนู
  • Tiktok Ads
    • ยิงโฆษณาบน Tiktok เพื่อกระตุ้นการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ในวงกว้าง ซึ่งจะถือเป็นโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์แบรนด์เปิดใหม่
  • Google My Business & Google Ads
    • ลงทะเบียนร้านบน Google ให้ลูกค้าค้นหาเจอง่าย
    • ทำโฆษณา Google Maps ให้คนใกล้ร้านเห็นร้านของคุณ

สำหรับคนที่อยากได้ Data Research Insight เวอร์ชันเต็ม สามารถดาวน์โหลดฟรี เพียงลงทะเบียนด้านล่างได้เลย!

และเพื่อไม่ให้พลาดความรู้และสาระสำคัญแบบนี้ก่อนใคร อย่าลืมกดติดตามน้องสุกิบนช่องทาง Facebook, Youtube, Instagram และ TikTok 

สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการผู้ช่วยธุรกิจออนไลน์ และที่ปรึกษาธุรกิจมืออาชีพ ที่พร้อมพาธุรกิจของคุณเติบโตไปอีกขั้น Sellsuki เป็นมากกว่าเพื่อนคู่คิดที่คุณกำลังมองหา

เพราะเรามีบริการครบวงจรบนโลกธุรกิจออนไลน์ โดยสามารถตอบโจทย์ตรงจุดทุกความต้องการ เราพร้อมแล้วที่จะพาธุรกิจของคุณเติบโตไปกับเรานะ
 

แท็ก FacebookSocial ListeningTikTokSocial MediaInstagram

แชร์

บทความนี้มีประโยชน์กดชอบเป็นกำลังใจให้เราได้
Like this article
Unlock the Power of Data
ดาวน์โหลดฟรี! คู่มือการวิจัยข้อมูล
เรียนรู้กลยุทธ์ เครื่องมือ และเคล็ดลับ
Unlock the Power of Data
ดาวน์โหลดฟรี! คู่มือการวิจัยข้อมูล
เรียนรู้กลยุทธ์ เครื่องมือ และเคล็ดลับ