Header-sellsuki.webp
S E L L S U K I
mdi_eye : 31 ph_share-bold : 0 charm_sound-down
อ่าน

ที่ปรึกษาธุรกิจ vs ที่ปรึกษาการตลาด ต่างกันอย่างไร และควรเลือกอะไร

ในยุคที่การแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายแบรนด์จึงต้องการความช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าอย่างมั่นคง แต่เมื่อเจอกับคำว่า “ที่ปรึกษาธุรกิจ” และ “ที่ปรึกษาการตลาด” หลายคนอาจสับสนว่า ควรเลือกแบบไหน? ในบทความนี้ ทาง WizeMoves Consult จะช่วยชี้แจงความแตกต่างระหว่าง 2 คำนี้ และให้แนวทางในการเลือกที่เหมาะกับสถานการณ์ธุรกิจของคุณ

wizemoves-consult-ที่ปรึกษาธุรกิจ-และ-ที่ปรึกษาธุรกิจ-คืออะไร.jpg

ที่ปรึกษาธุรกิจและที่ปรึกษาการตลาด คืออะไร?

ปัจจุบัน “ที่ปรึกษา” มักเป็นตัวเลือกสำหรับธุรกิจมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านใดด้านหนึ่งขององค์กร อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษานั้นไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว ในวันนี้ เราจะมาเจาะลึกเฉพาะ “ที่ปรึกษาธุรกิจ” และ “ที่ปรึกษาการตลาด” ที่เป็นที่นิยม แม้หลายคนอาจจะคิดว่าเหมือนกัน แต่บทบาทหน้าที่และเป้าหมายนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง มาดูกันว่าแต่ละประเภทคืออะไร และที่ปรึกษาธุรกิจหรือที่ปรึกษาการตลาดนั้น แบบไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณ

ที่ปรึกษาธุรกิจ (Business Consultant) ทำหน้าที่อะไร?

“ที่ปรึกษาธุรกิจคือผู้เชี่ยวชาญที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ภาพรวมของธุรกิจและวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน”

หน้าที่หลักของที่ปรึกษาธุรกิจประกอบด้วย

  1. วิเคราะห์ภาพรวมองค์กร
    • ใช้เครื่องมือต่างๆมาวิเคราะห์ในเชิงภาพรวมขององค์กรเพื่อหาจุดแข็ง จุดอ่อน รวมถึงโอกาสและความเสี่ยง เช่น Business Model Canvas หรือ SWOT Analysis ในการกลยุทธ์ระยะยาว
  2. วางกลยุทธ์
    • ร่วมกำหนดทิศทางธุรกิจระยะกลางถึงระยะยาว โดยอ้างอิงจากข้อมูลภายในและภายนอก เช่น แนวโน้มอุตสาหกรรม, พฤติกรรมผู้บริโภค, และศักยภาพของทีม โดยครอบคลุมทั้งการออกแบบโครงสร้างองค์กรใหม่ (Re-organization), การสร้างระบบเพื่อเพิ่ม Productivity ในทุกฝ่าย และการวางแผนหาแหล่งทุนเพื่อเติบโต เช่น การ Joint Venture, Franchise หรือการระดมทุน (Fundraising)
  3. ปรับปรุงการบริหารจัดการ
    • วางระบบภายในให้ธุรกิจทำงานได้คล่องตัวและวัดผลได้จริง เช่น การสร้างแผนการเงินที่คาดการณ์รายรับรายจ่าย (Financial Forecasting) การออกแบบ KPI ที่เชื่อมโยงเป้าหมายองค์กรกับทีม Operation ผ่าน Balanced Scorecard และปรับ Workflow ให้รองรับการเติบโตโดยไม่เกิดความซ้ำซ้อนหรือสูญเสียทรัพยากร
  4. ช่วยในการเติบโตอย่างยั่งยืน
    • ช่วยออกแบบกลยุทธ์ธุรกิจที่สร้าง “กำไร” ควบคู่กับ “ความมั่นคง” เช่น การวาง Roadmap ระยะสั้น กลาง และยาวที่ชัดเจน การทบทวน Product-Market Fit อย่างสม่ำเสมอ และการติดตั้งระบบวัดผลลัพธ์ เช่น Dashboard เพื่อให้ธุรกิจปรับตัวได้อย่างแม่นยำตามสภาวะตลาด

นี่เป็นหน้าที่หลักของที่ปรึกษาธุรกิจที่เราเจอหรือพบเห็นได้ทั่วไป อย่างไรก็ตามแต่ละหน้าที่ที่ได้ถูกพูดถึงไปมีรายละเอียดที่เฉพาะลงไปอีกตามแต่ที่องค์กรกับที่ปรึกษาธุรกิจได้ตกลงกัน อีกทั้งยังมีหน้าที่อื่นๆอีกมากมา

ที่ปรึกษาการตลาด (Marketing Consultant) ทำหน้าที่อะไร?

“ที่ปรึกษาการตลาดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและการวางแผนการตลาดที่เน้นเพิ่มยอดขายและสร้างการรับรู้แบรนด์

หน้าที่หลักของที่ปรึกษาการตลาดประกอบด้วย

  1. วิเคราะห์ตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค
    • ใช้เครื่องมืออย่าง Customer Persona, Marketing Funnel หรือ Social Listening เพื่อให้เข้าใจ Insight ของลูกค้า วิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์ (GA4) และทำ A/B Testing เพื่อปรับแคมเปญให้แม่นยำตามพฤติกรรมผู้บริโภคจริง
  2. วางกลยุทธ์การสื่อสาร
    • วางแผนการสื่อสารในทุกช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายใช้งาน ทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ พร้อมกำหนด ตำแหน่งทางการตลาด (Positioning) และ กลยุทธ์การตั้งราคา ให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์และความคาดหวังของลูกค้า
  3. ดำเนินการและวัดผลแคมเปญ
    • ใช้ Marketing Automation, CRM, และ Dashboard Analytics เพื่อติดตามผลแบบเรียลไทม์ วัดผลด้วยตัวชี้วัด เช่น ROAS, CTR และ Conversion Rate พร้อมปรับกลยุทธ์ต่อเนื่องตามข้อมูลจริง
  4. เพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์
    • สร้างคอนเทนต์ที่ตอบ Pain Point ของลูกค้า เสริมด้วยรีวิวจากผู้ใช้จริง (UGC) และใช้ Influencer หรือ KOL เพื่อสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติและเพิ่มความไว้วางใจในกลุ่มเป้าหมาย

wizemoves-consult-ที่ปรึกษาธุรกิจ-และ-ที่ปรึกษาธุรกิจ-ความแตกต่าง.jpg

ความแตกต่างระหว่างที่ปรึกษาธุรกิจและที่ปรึกษาการตลาด

โฟกัสหลัก

  • ที่ปรึกษาธุรกิจ
    • เน้นการวางแผนองค์กร ระบบการบริหารจัดการ
    • ส่งเสริมการเติบโตในระยะยาว ผ่านการปรับปรุงทุกด้านในองค์กร
  • ที่ปรึกษาการตลาด
    • เน้นเพิ่มยอดขายและการรับรู้แบรนด์
    • ใช้กลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปเร็ว

เครื่องมือและกระบวนการที่ใช้แตกต่างกันอย่างไร?

ที่ปรึกษาธุรกิจจะใช้เครื่องมือที่เน้นวิเคราะห์ภาพรวมองค์กร เช่น SWOT Analysis, Business Model Canvas, และ PESTEL Analysis เพื่อวางแผนโครงสร้างและกลยุทธ์องค์กรระยะยาว พร้อมวัดผลผ่าน Balanced Scorecard, OKRs และ Financial Modeling เพื่อดูความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงแนะนำระบบภายในอย่าง Enterprise Resource Planning (ERP), CRM ระดับองค์กร, และการจัดการทีมด้วย Dashboard ที่วัดผลได้จริง

ในขณะที่ที่ปรึกษาการตลาดจะใช้เครื่องมือที่เข้าใจลูกค้าและตลาดมากขึ้น เช่น Customer Persona, Marketing Funnel, และ Social Listening เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ พร้อมวางแผนแคมเปญผ่าน GA4, A/B Testing, และเครื่องมืออย่าง Marketing Automation, CRM (ex. LINE OA / HubSpot) และ Ads Manager จากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์ยอดขายโดยตรง

“ที่ปรึกษาธุรกิจเน้นวางระบบให้แข็งแรงจากภายใน… 
…ส่วนที่ปรึกษาการตลาดเน้นเชื่อมโยงแบรนด์กับลูกค้าให้แม่นและเร็ว”

 

เครื่องมือ / กระบวนการที่ปรึกษาธุรกิจ 
(Business Consultant)
ที่ปรึกษาการตลาด
(Marketing Consultant)
การวิเคราะห์

-Business Model Canvas

-SWOT Analysis

-PESTEL Analysis

-Customer Persona

-Marketing Funnel

-Social Listening

การวางแผน / วัดผล

-OKRs

-Financial Modeling

-Balanced Scorecard

-Break-even Analysis

-Digital Analysis (GA4)

-A/B Testing

-Conversion Optimization

ระบบ / ซอฟแวร์

-ERP Systems (ex. SAP, Oracle)

-CRM

-Dashboard

-Marketing Automation 

-CRM

-Meta Business Suite / TikTok / Google Ads

เป้าหมายหลัก

-พัฒนาโครงสร้างองค์กรให้แข็งแรง 

-วางแผนเติบโตระยะยาว

-สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย

-เพิ่มยอดขายและสร้างการรับรู้





 

*เป็นเพียงเครื่องมือบางส่วนเท่านั้น*


ที่ปรึกษาธุรกิจช่วยให้ธุรกิจ “เติบโตอย่างมีระบบ” จากภายใน
ส่วนที่ปรึกษาการตลาดช่วยให้แบรนด์ “เข้าถึงลูกค้า” และ “ขายได้” อย่างแม่นยำ

wizemoves-consult-ที่ปรึกษาแบบไหน-เหมาะกับ-ธุรกิจของคุณ.jpg

ธุรกิจของคุณควรเลือกที่ปรึกษาแบบไหน?

เลือกที่ปรึกษาตามความต้องการของธุรกิจ

การเลือกที่ปรึกษาที่เหมาะสม เริ่มจากการประเมิน “เป้าหมาย” และ “ปัญหาหลัก” ของธุรกิจในช่วงเวลานั้น หากธุรกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการบริหารจัดการ เช่น โครงสร้างองค์กรไม่ชัด ระบบภายในไม่รองรับการเติบโต หรือมีแผนขยายกิจการในอนาคต ที่ปรึกษาธุรกิจ คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะจะช่วยวางรากฐานให้ธุรกิจแข็งแรงจากภายใน

ในทางกลับกัน หากเป้าหมายหลักคือ เพิ่มยอดขาย, สร้างแบรนด์, หรือเข้าถึงลูกค้าได้แม่นยำขึ้น ที่ปรึกษาการตลาดจะเข้ามาช่วยวางกลยุทธ์การสื่อสาร วางแผนแคมเปญ และเลือกช่องทางให้ตรงกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่สุด พร้อมวัดผลและปรับแผนให้เกิดผลลัพธ์ทางยอดขายอย่างเป็นรูปธรรม

สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณต้องการที่ปรึกษา

  1. ยอดขายไม่เติบโตตามคาด: แม้จะใช้งบประมาณการตลาดสูง แต่ไม่มีการวัดผลที่ชัดเจน
  2. โครงสร้างการบริหารจัดการยุ่งเหยิง: ทีมงานและระบบภายในองค์กรไม่สามารถรองรับการเติบโตได้
  3. ความไม่ชัดเจนของกลยุทธ์: ขาดแผนการที่มุ่งเน้นทั้งระยะสั้นและระยะยาว ทำให้แข่งขันกับคู่แข่งได้ยาก
  4. การตอบสนองกับลูกค้าไม่เป็นรูปธรรม: การรับฟังความคิดเห็นของลูกค้ามีน้อย เกิด Feedback ที่ล่าช้า และไม่มีการปรับปรุงทันที
  5. พบปัญหาการจัดการช่องทางการตลาด: เช่น ยอด Conversion ต่ำ หรือประสิทธิภาพของแคมเปญออนไลน์ลดลง

การรู้จักสัญญาณเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจได้ว่าเมื่อใดควรเข้ามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเปลี่ยนแปลงทิศทางและขับเคลื่อนธุรกิจไปในทิศทางที่ถูกต้อง

wizemoves-consult-ที่ปรึกษาธุรกิจ-และ-ที่ปรึกษาธุรกิจ-ความสำคัญ.jpg
ความสำคัญของการเลือกที่ปรึกษาธุรกิจและที่ปรึกษาการตลาดให้ตรงตามสถานการณ์

การจ้างที่ปรึกษาไม่ใช่แค่ “มีงบแล้วจ้าง” แต่ต้องเลือกให้สอดคล้องกับ “ปัญหาหลัก” และ “เป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนแปลง” ในช่วงเวลานั้น เพราะการเลือกผิดอาจทำให้ใช้ทรัพยากรเกินจำเป็น และยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ธุรกิจคาดหวัง

เมื่อธุรกิจต้องการที่ปรึกษาธุรกิจ (Business Consultant)

หากธุรกิจของคุณกำลังเติบโตแต่ระบบภายในยังตามไม่ทัน เช่น

  • โครงสร้างองค์กรยังไม่มีความชัดเจน
  • การบริหารจัดการทรัพยากรไม่มีประสิทธิภาพ
  • กำลังวางแผนขยายสาขา เพิ่มสายผลิตภัณฑ์ หรือเตรียมระดมทุน

“ที่ปรึกษาธุรกิจ” จะช่วยวางรากฐาน ทั้งในเชิงโครงสร้าง การเงิน การบริหาร และโมเดลธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

เมื่อธุรกิจต้องการที่ปรึกษาการตลาด (Marketing Consultant)

หากธุรกิจของคุณมีสินค้าหรือบริการอยู่แล้ว แต่พบว่า

  • ยอดขายไม่เติบโตเท่าที่ควร
  • แคมเปญการตลาดไม่ตรงกลุ่ม หรือวัดผลไม่ได้
  • ต้องการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

“ที่ปรึกษาการตลาด”จะเข้ามาช่วย วางแผนการสื่อสาร วางโครงสร้าง Funnel การตลาด และเลือกช่องทางให้ตรงกับพฤติกรรมลูกค้า พร้อมติดตามและปรับกลยุทธ์เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ด้านยอดขายและการรับรู้แบรนด์อย่างเป็นรูปธรรม

การเลือกที่ปรึกษาที่เหมาะสมตามสภาพธุรกิจ

ธุรกิจในแต่ละช่วงอาจมี Pain Point ไม่เหมือนกัน บางครั้งคุณอาจต้องการเพียง “ปรับกลยุทธ์การตลาด” แต่บางกรณีอาจต้อง “วางระบบองค์กรใหม่ทั้งหมด” ดังนั้นการเลือกที่ปรึกษาจึงควรอิงกับ ลักษณะปัญหา, เป้าหมายใน 6–12 เดือนข้างหน้า, และ ความพร้อมของทีมภายใน เป็นหลัก

ที่ปรึกษาธุรกิจและการตลาดไม่จำเป็นต้องเลือกแค่หนึ่ง หากทำงานร่วมกันในเวลาที่เหมาะสม จะยิ่งช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้ทั้งจาก “ภายใน” และ “ภายนอก”

ตัวอย่างเคสการใช้ที่ปรึกษาธุรกิจและที่ปรึกษาการตลาด

หลังจากที่เราได้ทำความเข้าใจถึงความแตกต่างของที่ปรึกษาทั้งสองประเภทไปแล้ว หลายคนอาจยังไม่มั่นใจว่าธุรกิจของตัวเองควรเริ่มจากที่ปรึกษาประเภทไหน ลองมาดูตัวอย่างง่าย ๆ จากสถานการณ์ที่หลายธุรกิจอาจเคยเผชิญ เพื่อให้เห็นภาพว่าในชีวิตจริง ที่ปรึกษาแต่ละด้านสามารถ “เข้ามาเปลี่ยนอะไรได้บ้าง”

ตัวอย่างธุรกิจที่ปรับกลยุทธ์ด้วยที่ปรึกษาธุรกิจ

ธุรกิจแฟชั่น SME ที่ต้องการเปิดสาขาใหม่และขยายช่องทางออนไลน์ แต่ขาดระบบการบริหารจัดการภายในที่เป็นระบบ ที่ปรึกษาธุรกิจได้เข้ามาช่วยวางแผนการจัดการสต็อก ติดตั้งระบบ ERP และออกแบบกระบวนการภายใน ทำให้ธุรกิจสามารถขยายกิจการได้อย่างเป็นระบบและลดต้นทุนลงได้อย่างเห็นผล

ตัวอย่างธุรกิจที่เพิ่มยอดขายด้วยที่ปรึกษาการตลาด

ธุรกิจอาหารเสริมที่เดิมมียอดขายนิ่งอยู่แค่ระดับหนึ่ง ด้วยการที่ที่ปรึกษาการตลาดเข้ามาช่วยวิเคราะห์ Funnel การตลาดโดยละเอียด วางแผนแคมเปญ Reels บน Facebook และ TikTok ร่วมกับ KOL ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ผลลัพธ์ที่ได้คือยอดขายเพิ่มขึ้นที่ชัดเจน และมีการพูดถึงจากลูกค้าเป็นวงกว้างที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของสินค้าจากแคมเปญใหม่

สรุป

ทั้งที่ปรึกษาธุรกิจและที่ปรึกษาการตลาดต่างมีบทบาทเฉพาะที่นำไปสู่ความสำเร็จในธุรกิจ แต่การเลือกใช้อย่างถูกจังหวะและเหมาะสมกับสภาพปัญหาของธุรกิจนั้นเป็นกุญแจสำคัญ ถ้าคุณเข้าใจปัญหาภายในและความต้องการของตลาดดีแล้ว การเลือกที่ปรึกษาที่ตรงกับเป้าหมายจะเปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็นโอกาส และผลักดันธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

หากคุณกำลังมองหาคำปรึกษาที่ทั้งเข้าใจภาพรวมธุรกิจและสามารถขับเคลื่อนยอดขายได้จริง อย่าลังเลที่จะปรึกษา WizeMoves Consult ที่พร้อมให้บริการทั้งด้าน Business Consulting และ Marketing Consulting อย่างครบวงจร

Call-to-action button featuring Wizemoves Consult's tagline, inviting users to engage with the service.

แท็ก MarketingOnline Business

แชร์

บทความนี้มีประโยชน์กดชอบเป็นกำลังใจให้เราได้
Like this article