การขายของใน Shopee ปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก เนื่องจากร้านค้าหลายพันแห่งลงสินค้าแบบคล้ายกัน แต่มีเพียงไม่กี่ร้านที่ติดอันดับหน้าแรก และปิดยอดขายได้แบบต่อเนื่องซึ่งปัจจัยสำคัญคือ “รายละเอียดสินค้า” ในแพลตฟอร์ม Shopee ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้สินค้าของคุณถูกมองเห็น และแน่นอนว่าการเขียนรายละเอียดสินค้านั้นต้องเขียนอย่างมีเทคนิค!

บทความนี้จะพาคุณไปดู วิธีเขียนรายละเอียดสินค้า Shopee ให้ตรงใจลูกค้าและติดอันดับ Shopee Search พร้อมตัวอย่างจริง ใช้ได้กับทุกประเภทร้าน!

1. การใส่ “คีย์เวิร์ด” ใน Shopee อย่างแม่นยำ

การค้นหาใน Shopee อิงกับระบบ SEO เช่นเดียวกับ Google ดังนั้นคุณต้องรู้ว่า “ลูกค้าจะค้นคำว่าอะไรใน Shopee?” แล้วใส่คำเหล่านั้นลงในชื่อและคำอธิบายสินค้า

ตัวอย่าง: 

คำแนะนำในการเลือกใช้คีย์เวิร์ดในการตั้งชื่อสินค้าหรือรายละเอียดสินค้าสามารถดูได้ตามรายละเอียด ดังนี้

• พิมพ์ชื่อสินค้าคร่าว ๆ ใน Shopee แล้วดูคำที่ระบบแนะนำ
• ใช้เครื่องมือฟรีเช่น Shopee Keyword Tool หรือ Google Trends
• ดูจากคู่แข่งที่ขายดีใน Shopee แล้วสังเกตคำที่ใช้เบื้องต้น

2. เขียนชื่อสินค้าให้กระชั้น สั้น ๆ และมักเป็นคำที่คนค้นหา

ชื่อสินค้าคือสิ่งแรกที่ลูกค้าเห็นใน Shopee Search จึงควรมีทั้ง ประเภทสินค้า จุดเด่นสินค้า และคำค้นหา Shopee ที่คนส่วนใหญ่มักทำการค้นหา

ตัวอย่าง:

• หมวกเด็กปีกกว้าง Shopee รุ่นกันแดด พับได้ มีสายรัดคาง สำหรับ 6 เดือน – 2 ขวบ
• ข้อควรระวัง: ชื่อสินค้าบน Shopee ควรไม่เกิน 120 ตัวอักษร

3. จัดรูปแบบรายละเอียดสินค้าใน Shopee ให้อ่านง่าย

ลูกค้าบน Shopee ที่ค่อนข้าง เลื่อนเร็วและอ่านไว คุณจึงควรจัดรายละเอียดสินค้าแบบ อ่านง่ายและแยกหัวข้อชัดเจน

โครงสร้างที่เหมาะกับ Shopee:

• ใช้หัวข้อย่อย เช่น "คุณสมบัติ", "วิธีใช้", "คำเตือน"
• ใช้ Bullet Point
• มีการเว้นวรรค ไม่เรียงติดกันเป็นพารากราฟยาว

ตัวอย่างโครงสร้างสำหรับรายละเอียดสินค้า Shopee:
• ขนาด 250ml
• กลิ่นหอมติดผิวยาวนาน
• ปลอดภัย ไม่มีพาราเบน
• ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

4. ใส่ข้อมูลให้ครบถ้วนในรายละเอียดสินค้า Shopee

ยิ่งข้อมูลสินค้าใน Shopee ครบ ลูกค้ายิ่งตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น ซึ่งการไม่ต้องแชทเพื่อสอบถามทางร้านค้าสามารถเพิ่มโอกาสในปิดการขายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

รายละเอียดที่ควรมีใน Shopee:

• ประเภทสินค้า / ยี่ห้อ / ขนาด / สี
• จุดเด่น / ประโยชน์
• วิธีใช้
• เหมาะกับใคร
• ข้อควรระวัง
• นโยบายการคืนสินค้า Shopee / การจัดส่ง
  
   

5. ใช้ภาษาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายใน Shopee ของคุณ

ลูกค้าใน Shopee มีหลากหลายกลุ่ม เช่น แม่บ้าน นักเรียน วัยรุ่น หรือคนวัยทำงานคุณควรเลือกใช้ภาษาที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของสินค้าและตรงจุดเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้เพิ่มมากขึ้นและตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว

ตัวอย่าง:

6. หลีกเลี่ยงการใช้คำโฆษณาเกินจริง

แม้ลูกค้าใน Shopee จะชอบสินค้าดูน่าสนใจ แต่ก็ต้องระวังไม่โฆษณาเกินจริง เพราะใน Shopee มีระบบตรวจสอบคำ Overclaim และอาจลดอันดับสินค้าและร้านค้าของคุณได้

ประเภทคำที่ควรหลีกเลี่ยงใน Shopee:

• “ดีที่สุดในจักรวาล”
• “ขาวขึ้นใน 1 วัน”
• “เห็นผลทันที 100%”

ประเภทคำที่ควรใช้:

• “ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่อง”
• “ผ่านการทดสอบจากผู้ใช้จริงกว่า 1,000 รีวิวใน Shopee”

7. อัปเดตรายละเอียดสินค้า Shopee อย่างสม่ำเสมอ

Shopee ชอบร้านค้าที่มีการเคลื่อนไหว แค่แก้คำในรายละเอียด Shopee บ้างทุกเดือน Shopee ก็เห็นว่าร้านคุณยัง Active และอาจดันอันดับขึ้นได้ เช่น

• แก้ไขคำบรรยายเล็กน้อย
• เพิ่มรูปสินค้าใหม่
• ปรับคำค้น Shopee ให้ตรงกับเทรนด์
• เพิ่มวิดีโอสั้นสาธิตการใช้งาน

สรุปเช็กลิสต์: รายละเอียดสินค้า Shopee ที่ดีควรมี

• ชื่อสินค้ามีคีย์เวิร์ด Shopee
• คำบรรยายสินค้า Shopee อ่านง่าย ไม่ยาว
• มี Bullet Point / หัวข้อย่อยชัดเจน
• ใช้ภาษาตรงกลุ่มลูกค้า Shopee
• ข้อมูลครบ ชัดเจน ไม่เว่อร์
• อัปเดตสม่ำเสมอเพื่อให้ Shopee เห็นว่าเรายังขายอยู่

อยากให้ Shopee ดันสินค้า? เริ่มต้นที่รายละเอียดสินค้าให้ถูกต้องก่อน

อย่ามองข้ามรายละเอียดสินค้า เพราะมันคือ "เครื่องมือฟรี" ที่ช่วยให้สินค้าคุณ ค้นหาเจอใน Shopee ติดอันดับแบบไม่ต้องจ่ายโฆษณาเพิ่ม! 

และหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเติบโตในการขายของออนไลน์พวกเรา Wizemoves e - Distributor ผู้ช่วยมืออาชีพในการดูแลและบริหารร้านค้าใน Marketplace  และ Social Commerce พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่ช่วยแก้ปัญหา วางกลยุทธ์ และต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน