Header-sellsuki.webp
S E L L S U K I
mdi_eye : 8 ph_share-bold : 0 charm_sound-down
อ่าน

Content Marketing คืออะไร? เทคนิคทำคอนเทนต์ให้โดนใจและไม่หลงทางในยุคดิจิทัล

Content Marketing คืออะไร? กลยุทธ์การทำคอนเทนต์ที่แบรนด์ยุคดิจิทัลต้องมี

รับทำคอนเท้นต์marketing.png

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารล้นโลกออนไลน์ การที่แบรนด์จะโดดเด่นและเข้าถึงลูกค้าได้นั้น การทำ Content Marketing หรือการตลาดด้วยเนื้อหาที่มีคุณค่า คือหัวใจสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ นี่ไม่ใช่แค่การทำคอนเทนต์ไปวันๆ แต่เป็นการสร้างเรื่องราวที่มีคุณค่าเพื่อดึงดูดและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างยั่งยืน

Content Marketing VS Digital Marketing ต่างกันยังไง?

หลายคนอาจสับสนระหว่างสองคำนี้ เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นการตลาดในโลกออนไลน์ แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างที่ชัดเจน

ความหมายของ Content Marketing

Contentmarketing คือ การทำคอนเทนต์และเผยแพร่คอนเทนต์ (content) ที่มีคุณค่า ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ความน่าเชื่อถือ และกระตุ้นให้เกิดการซื้อหรือการมีส่วนร่วม

ความหมายของ Digital Marketing

Digital Marketing คือ ภาพรวมของการทำการตลาดทั้งหมดผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น SEO, SEM, Social Media, Email Marketing หรือ Influencer Marketing ซึ่ง Content Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ถูกใช้ภายใต้ Digital Marketing 

ความสัมพันธ์และความแตกต่างของทั้งสอง

Content Mkt เป็น “ส่วนหนึ่ง” ของ Digital Marketing โดยเน้นสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดและให้คุณค่า ในขณะที่ Digital Marketing ครอบคลุมทุกเครื่องมือและเทคนิคทางออนไลน์

ทำไมทั้งสองต้องไปด้วยกัน

เมื่อคุณทำคอนเทนต์ดี แต่ไม่มีการโปรโมตบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ผลลัพธ์ก็ไปไม่ถึงเป้า และถ้าการตลาดดิจิทัลไม่มีคอนเทนต์คุณภาพ ก็จะขาดพลังในการดึงดูดผู้ชม

ประเภทของ Content Marketing ที่แบรนด์ต้องรู้

การ ทํา คอน เท น ต์ มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายและแพลตฟอร์มที่ต้องการสื่อสาร

  • บทความและบล็อก 
    : ช่วยสร้าง SEO และทำให้แบรนด์เป็นผู้เชี่ยวชาญในสายงาน
  • วิดีโอ (Video Content) 
    : ดึงดูดความสนใจได้รวดเร็ว สร้างการมีส่วนร่วมสูง
  • อินโฟกราฟิก (Infographic) 
    : เล่าเรื่องซับซ้อนให้เข้าใจง่ายในไม่กี่วินาที
  • User-Generated Content (UGC) 
    : รีวิวหรือโพสต์จากลูกค้าจริง เพิ่มความน่าเชื่อถือ
  • Podcast และ Webinar 
    : สื่อสารเชิงลึก สร้างความสัมพันธ์กับผู้ฟังและผู้ชมที่สนใจจริง

Content Marketing แบบไหนที่ยังเวิร์กในปี 2025

เทรนด์คอนเทนต์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากต้องการทำ Content Marketing ให้ได้ผล ควรเลือกรูปแบบที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน

  • Short-Form Video (TikTok, Reels)
    : วิดีโอสั้นยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง เพราะตอบโจทย์การเสพคอนเทนต์แบบรวดเร็ว เข้าถึงง่าย และสร้าง engagement สูง
  • Personalized Content
    การปรับคอนเทนต์ให้ตรงกับความสนใจของลูกค้าแต่ละคน เช่น การส่งอีเมลโปรโมชั่นที่เหมาะกับพฤติกรรมการซื้อ หรือการแนะนำสินค้าที่เคยค้นหา
  • Interactive Content (Polls, Quizzes)
    :การทำคอนเทนต์ที่ให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วม เช่น การทำโพลล์สำรวจความเห็น หรือควิซสนุกๆ เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมและเก็บข้อมูลลูกค้า
  • Storytelling ที่เข้าถึงอารมณ์
    การเล่าเรื่องราวของแบรนด์ที่น่าสนใจและสร้างแรงบันดาลใจ จะช่วยสร้างความผูกพันทางอารมณ์และทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ
  • Content ที่สร้างความเชื่อมั่นและคุณค่า
    : การทำคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลเชิงลึก, เผยแพร่เบื้องหลังการทำงาน, หรือแสดงความเชี่ยวชาญของแบรนด์ในด้านนั้นๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

อยากอัปเดตกลยุทธ์ให้ทันเทรนด์และใช้ได้จริง?  ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก WizeMoves Consult ช่วยวางแผนและสร้างคอนเทนต์ที่เข้าถึงลูกค้าในยุคดิจิทัล 

ทำไม Content Marketing ถึงเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การตลาดออนไลน์

  • สร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือ
    : คอนเทนต์ที่ดีจะช่วยให้ลูกค้าได้รู้จักแบรนด์มากขึ้น และเมื่อคอนเทนต์นั้นมีคุณภาพและให้ประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ แบรนด์จะถูกมองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายนั้นๆ
  • เชื่อมต่อกับลูกค้าแบบตรงจุด
    : คอนเทนต์ช่วยให้คุณสื่อสารกับลูกค้าได้ในทุกขั้นตอนของ Customer Journey ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อ
  • ช่วยเพิ่ม Conversion และยอดขาย
    : เมื่อลูกค้าได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์และมีความเชื่อมั่นในแบรนด์แล้ว การตัดสินใจซื้อจะเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น
  • วัดผลได้จริงด้วยข้อมูล (Data-driven content marketing
    : ทุกๆ การทำคอนเทนต์สามารถวัดผลได้ด้วยเครื่องมือต่างๆ ทำให้สามารถนำข้อมูลมาปรับปรุงกลยุทธ์ในครั้งต่อไปได้อย่างแม่นยำ

เริ่มต้นทำ Content Marketing ยังไงให้ไม่หลงทาง

1.รู้จักกลุ่มเป้าหมาย (Buyer Persona)
การรู้จักกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่แค่การรู้ว่าเขาคือใคร แต่อยู่ที่ว่าเราเข้าใจ "ความรู้สึก" และ "ปัญหา" ของเขามากแค่ไหน การสร้าง Buyer Persona ที่ละเอียดจะช่วยให้คุณสร้าง คอนเทนต์ ที่ตรงใจและแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้จริง

  • วิธีการสร้าง Buyer Persona:
    • เก็บข้อมูลเชิงลึก
      : ทำแบบสำรวจ สอบถามลูกค้าตรงๆ หรือดูพฤติกรรมบนโซเชียลมีเดีย
    • ตั้งชื่อและสร้างเรื่องราว
      : ตั้งชื่อสมมติให้ตัวตนของลูกค้า เช่น "น้องแก้ว สาวออฟฟิศผู้รักสุขภาพ"
    • ระบุรายละเอียด:
    • ข้อมูลพื้นฐาน (Demographic)
       : อายุ, เพศ, ที่อยู่, อาชีพ, รายได้
    • ความสนใจ
      : ออกกำลังกาย, อาหารคลีน, ติดตามบล็อกเกอร์สายสุขภา
    • พฤติกรรม (Behavior)
      : ใช้แพลตฟอร์มไหน, ซื้อสินค้าด้วยเหตุผลอะไร, ช่วงเวลาออนไลน์
    • ปัญหา (Pain Points)
      : ไม่มีเวลาเตรียมอาหาร, หลงกลกับขนมที่มีน้ำตาลสูง, ไม่รู้จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างไร
    • เป้าหมาย
      : อยากมีรูปร่างที่ดีขึ้น, ต้องการกินอาหารอร่อยแต่สุขภาพดี

เมื่อคุณมี Persona ที่ชัดเจนแล้ว คุณจะรู้ว่าควรสร้าง คอนเทนต์ อะไร เช่น "5 เมนูอาหารคลีนง่ายๆ สำหรับสาวออฟฟิศ" เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของ "น้องแก้ว" ได้โดยตรง

Tip: ลองสัมภาษณ์ลูกค้าจริง 5–10 คน เพื่อให้เข้าใจ Insight ลึก ๆ มากกว่าการเดา

2. การวางเป้าหมายและ KPI (Key Performance Indicators)
ขั้นตอนนี้คือการกำหนดทิศทางให้ชัดเจนว่าคุณทำ Content Marketing ไปเพื่ออะไร การตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้จะช่วยให้คุณรู้ว่าคอนเทนต์ของคุณ "ได้ผล" หรือไม่

ตัวอย่างเป้าหมาย:

  • เพิ่มการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness)
    : เป้าหมายนี้จะเน้นการทำให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น
    • KPI ที่ใช้วัด
      : จำนวนผู้ติดตาม (Followers), ยอดไลก์และแชร์ (Likes & Shares), จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Website Traffic
  • เพิ่มยอดขาย (Sales)
    : เป้าหมายนี้จะเน้นการสร้างรายได้โดยตรง
    • KPI ที่ใช้วัด
      : อัตราการคลิกเข้าชมสินค้า (Click-Through Rate - CTR), จำนวนการสั่งซื้อ (Orders), มูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ย (Average Order Value - AOV)
  • สร้างความน่าเชื่อถือ (Trust & Credibility)
    : เป้าหมายนี้จะเน้นการสร้างภาพลักษณ์ผู้เชี่ยวชาญ
    • KPI ที่ใช้วัด
      : จำนวนการดาวน์โหลด E-book, ยอดชมวิดีโอให้ความรู้, จำนวนผู้สมัครเข้าร่วม Webinar

3.การเข้าใจเส้นทางการตัดสินใจของลูกค้า (Customer Journey)
หลายแบรนด์กระโดดลงมาทำ Content Marketing แบบไม่รู้ว่าลูกค้าอยู่ในขั้นไหน สุดท้ายคอนเทนต์ก็ไม่ตอบโจทย์ และไม่พาไปสู่ยอดขายจริง การเข้าใจ Customer Journey จะช่วยให้คุณเลือกใช้ “คอนเทนต์ที่ถูกต้อง” ใน “จังหวะที่ใช่” เช่น

  • Awareness → บทความ / คลิปที่ให้ความรู้
  • Consideration → รีวิว / เปรียบเทียบ / วิธีเลือก
  • Purchase → โปรแรง รีวิว Before/After
  • Retention → เทคนิคใช้สินค้า สิทธิพิเศษ
  • Advocacy → เรื่องราวลูกค้า Loyalty Program

 อ่านต่อ: Content ที่ใช่ ช่วยธุรกิจโตเร็วได้อย่างไร?

4. การวางแผนเนื้อหา (Content Calendar)
การวางแผนล่วงหน้าช่วยให้คุณทำงานอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ ไม่ใช่การทำคอนเทนต์แบบวันต่อวัน

สิ่งที่ควรมีใน Content Calendar:

  • หัวข้อคอนเทนต์
    : ระบุหัวข้อที่จะทำ ให้สัมพันธ์กับทั้งเทรนด์, ฤดูกาล, และปัญหาที่ลูกค้ากำลังเจอ
  • กำหนดรูปแบบ (Format) 
    :  เช่น ภาพ, วิดีโอ, บทความ, อินโฟกราฟิก
  • ช่องทาง
    : ระบุว่าจะเผยแพร่บนแพลตฟอร์มไหนบ้าง
  • วันและเวลาโพสต์
    : กำหนดวันและเวลาที่เหมาะสมในการเผยแพร่คอนเทนต์
  • สถานะ
    : ติดตามความคืบหน้าของงาน เช่น กำลังเขียน, อยู่ระหว่างการตรวจสอบ, โพสต์แล้ว

5. เลือกช่องทางที่ใช่
การเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับ คอนเทนต์ และกลุ่มเป้าหมายจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการ ตลาดออนไลน์ ของคุณ

  • Facebook — เหมาะสำหรับสร้างคอมมูนิตี้, ทำคอนเทนต์ให้ข้อมูลยาว, และใช้ Reels เพื่อเพิ่ม Reach
     
  • YouTube — เหมาะกับคอนเทนต์เชิงลึก, How-to, รีวิว หรือวิดีโอยาว 5–10 นาที
     
  • TikTok — วิดีโอสั้น ความยาว 15–60 วินาที เน้นความไวและความบันเทิง
     
  • LINE OA — เหมาะสำหรับการรักษาฐานลูกค้าเดิม ส่งโปรโมชั่นหรือคอนเทนต์พิเศษให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจจริง

Tip: เริ่มจาก 1–2 ช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายใช้เยอะที่สุด แล้วค่อยขยาย

7. การติดตามและปรับปรุงผลงาน
: เมื่อเผยแพร่ คอนเทนต์ ไปแล้ว งานของคุณยังไม่จบ คุณต้องกลับมาตรวจสอบผลลัพธ์เพื่อนำมาพัฒนาในครั้งต่อไป

  • วิเคราะห์สถิติ 
    : ใช้เครื่องมืออย่าง Facebook Insights, Google Analytics, หรือ TikTok Analytics
     
  • เช็คว่าอะไรเวิร์ก 
    : ดูโพสต์ที่ Engagement สูง แล้วผลิตเพิ่มในแนวนั้น
     
  • ปรับเนื้อหา 
    :  ลองเปลี่ยนรูปแบบ, โทน, หรือเวลาโพสต์ เพื่อทดสอบว่าอะไรให้ผลดีกว่า
     
  • สรุปบทเรียนรายเดือน 
    : เพื่อให้รอบต่อไปแม่นยำขึ้นเรื่อย ๆ

Tip: ใช้หลัก “Test → Learn → Optimize” คือ ทดลอง → เรียนรู้ → ปรับให้ดีขึ้นเสมอ

อย่าปล่อยให้คอนเทนต์ของคุณหลงทาง ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก WizeMoves ช่วยวางกลยุทธ์และปรับคอนเทนต์ของคุณให้ถูกจังหวะ เพื่อให้ทุกโพสต์พาลูกค้าเข้าใกล้การซื้อ และเพิ่มยอดขายได้จริง 

สรุป — ทำ Content Marketing อย่างไรให้ “ได้ผล” ในยุคดิจิทัล

Content Marketing ไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นรากฐานสำคัญของการ การตลาดออนไลน์ ในยุคปัจจุบัน การลงทุนกับการทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการวางแผนและวัดผลอย่างเป็นระบบ คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

อยากให้คอนเทนต์ของคุณสร้างยอดขายได้จริง?ให้เราช่วยวางแผนและผลิตคอนเทนต์ที่ตรงใจลูกค้า วัดผลได้ และต่อยอดแบรนด์ของคุณอย่างยั่งยืน ปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญจาก WizeMoves Consult  เพื่อเริ่มต้นกลยุทธ์ Content Marketing ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ

หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจที่เชี่ยวชาญต้องนึกถึง Sellsuki ผู้ช่วยธุรกิจออนไลน์ที่ครบเครื่องมากที่สุด ผู้ช่วยมองหาทางที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ

หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจติดต่อ Sellsuki ได้เลย เพราะเรามีบริการครบวงจรบนโลกธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น บริการที่ปรึกษาธุรกิจการตลาดแบบครบวงจร หรือ WizeMoves Consult ผู้ช่วยจัดจำหน่ายออนไลน์ครบวงจร ดูแลครอบคลุมทุกขั้นตอนการขาย หรือ WizeMoves e-Dis บริการโฆษณาออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม (WizeMoves Ads) บริการดูแล LINE Official Account ครบวงจร ที่มีลูกค้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ กว่า 9,000 บัญชี พร้อมด้วย Akita Fulfillment บริการคลังสินค้าครบวงจร และบริการด้านอื่นๆ อีกมากมายที่ Sellsuki มีพร้อมให้คุณ 

 

 

 

 

แท็ก Content Marketing

แชร์

บทความนี้มีประโยชน์กดชอบเป็นกำลังใจให้เราได้
Like this article