
ในงาน LINE Agency Day ล่าสุด มีประโยคหนึ่งที่น่าสนใจมากครับ คือ "Mass marketing talked to crowds, AI marketing speaks to minds" หรือแปลง่ายๆ ว่า การตลาดแบบหว่านแหจบไปแล้ว ยุคนี้ต้องเป็นการตลาดที่ใช้ AI เข้าไปนั่งในใจลูกค้า
วันนี้ LINE By Sellsuki สรุปประเด็นสำคัญจากงานในพาร์ทของ "Smart Efficiency" มาฝากกันครับ ว่าทำไมนักการตลาดถึงต้องรีบปรับตัวมาใช้ Data และ AI บน LINE ทันที
เราผ่านยุคของการยิงโฆษณาแบบกว้างๆ เพื่อหวังผลลัพธ์เพียงเล็กน้อยมาแล้ว ทาง LINE ได้ชี้ให้เห็นชัดเจนครับว่า ทิศทางในปี 2025 คือการเคลื่อนตัวเข้าสู่ AI Marketing เต็มรูปแบบ

คำบรรยายภาพ: การเปลี่ยนผ่านจาก Mass Marketing สู่ AI Marketing
หลายคนอาจกังวลว่า AI จะมาแย่งงาน แต่จริงๆ แล้วมันคือผู้ช่วยที่ทรงพลังครับ สถิติจาก LINE โชว์ให้เห็นว่า เมื่อเปลี่ยนมาใช้ฟีเจอร์ Auto-Targeting แทนการเลือกกลุ่มเป้าหมายเอง (Manual) ผลลัพธ์ที่ได้คือ CTR (Click-Through Rate) เพิ่มขึ้นถึง 22%
นอกจากนี้ LINE ยังเปิดตัว LINE Ads AI Projects ที่ AI จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาเราใน 3 ขั้นตอน:

คำบรรยายภาพ: สถิติ CTR ที่เพิ่มขึ้น 22% จากการใช้ Auto-Targeting
ไฮไลท์สำคัญของงานคือเรื่อง Business Manager ครับ เดิมทีเรามักแยกกันทำระหว่าง LINE OA (เก็บลูกค้าเก่า) กับ LINE Ads (หาลูกค้าใหม่) แต่เครื่องมือนี้จะเชื่อมข้อมูลทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน
เราสามารถทำ Cross-Targeting หรือการแชร์กลุ่มเป้าหมาย (Audience Sharing) ได้ เช่น เอาคนที่เคยทักแชท OA ไปทำเป็นกลุ่มเป้าหมายยิง Ads หรือเอา Data ลูกค้าจริงไปทำ Lookalike

คำบรรยายภาพ: แผนภาพการทำงานของ Business Manager เชื่อม OA และ Ads
ขอยกตัวอย่างเคสจริงของ AES Class Clinic ที่ใช้ Business Manager เชื่อมข้อมูล ผลลัพธ์คือกราฟพุ่งทุกตัวครับ CTR เพิ่ม 4 เท่า, ต้นทุนการเพิ่มเพื่อน (CPF) ลดลง 40% และยอดทักแชทเพิ่มขึ้นถึง 100% ตัวเลขนี้พิสูจน์แล้วว่า Data ที่แม่นยำ สำคัญกว่างบประมาณที่มหาศาล

คำบรรยายภาพ: Success Story ของ AES Class Clinic
LINE By Sellsuki ขออัพเดทความเจ๋งของ LINE Ads ที่เพิ่มมาคือ LINE รู้จักผู้ใช้ลึกมากครับ ไม่ใช่แค่รู้ว่าเราคลิกอะไร แต่รู้ว่าเราอ่านข่าวอะไรบน LINE Today หรือคุยเรื่องอะไรใน OpenChat ทำให้ตอนนี้ระบบสามารถแบ่งความสนใจได้ละเอียดถึง 222 กลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่เรื่องรถ การเงิน ไปจนถึงกลุ่มแฟนคลับ

คำบรรยายภาพ: ความแม่นยำของการระบุกลุ่มเป้าหมายบน LINE Ads
สุดท้าย ถ้าถามว่าย้ายมาโฟกัสที่ LINE Ads แล้วคุ้มไหม? ตัวเลขปีล่าสุดบอกเราว่า แพลตฟอร์มสามารถทำ ROAS (ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา) ได้สูงสุดถึง 20 เท่า และช่วยลดต้นทุนต่อการกระทำ (CPA) ลงได้ 25% ครับ

คำบรรยายภาพ: สรุปตัวเลข Performance การเติบโตของ LINE Ads
นี่เป็นแค่พาร์ทแรกเรื่อง Data และ Ads เท่านั้นครับ ในบทความตอนต่อไป LINE By Sellsuki จะพาไปดู "ลูกเล่นใหม่ๆ" ทั้ง LINE Mini App, การขายของบน MyShop แบบใหม่ และพื้นที่โฆษณาใน "แท็บดูดวง" ที่คนไทยต้องกรี๊ด ติดตามต่อใน Part 2 ครับ!
หากชอบบทความดี ๆ แบบนี้ อย่าลืมกดแชร์ด้วยนะ และเพื่อน ๆ ยังสามารถติดตามน้องสุกิผ่านช่องทาง Facebook และ Youtube ได้ด้วยน้า