กฎใหม่ของ TikTok Shop ที่ร้านค้าต้องรู้ในปี 2026 ก่อนจะโดนแบนโดยไม่รู้ตัว

ในปีนี้ วงการ E-Commerce โดยเฉพาะ TikTok Shop มีการ “เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ทั้งฝั่งแพลตฟอร์มและฝั่งกฎหมายภาครัฐ ทำให้ร้านค้าต้องระวังมากขึ้นกว่าเดิม เพราะกฎหลายอย่างเริ่มเข้มงวด และมีหลายกรณีที่ร้านถูก แช่ยอดเงิน, ลบสินค้า, จำกัดการมองเห็น, หรือหนักที่สุดคือ ปิดร้านถาวร โดยร้านค้าไม่รู้ตัวล่วงหน้า

บทความนี้จึงรวบรวมกฎใหม่ก่อนปี 2026 ที่คุณต้องรู้ แบบเข้าใจง่าย เพื่อให้ร้านค้าปลอดภัยและลดความเสี่ยงโดนลงโทษกัน

1. ระบบยืนยันตัวตนร้านค้าเข้มงวดขึ้น (ภายใต้กฎหมาย DPS)

ปีนี้ TikTok Shop ถูกจัดให้อยู่ภายใต้กฎหมายกำกับ “Digital Platform Services (DPS)” ของ ETDA ทำให้แพลตฟอร์มต้องเพิ่มความโปร่งใส และร้านค้าต้องส่งข้อมูลที่ถูกต้องมากขึ้น เช่น

• ชื่อ–ที่อยู่จริง
• เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
• เอกสารจดทะเบียนบริษัท/ผู้ประกอบการ
• ข้อมูลแหล่งที่มาของสินค้า

ถ้าข้อมูลไม่ครบ / ไม่ตรงตามจริง → สมัครเปิดร้านไม่ผ่าน หรือถูกระงับได้ทันที

2. ค่าธรรมเนียมใหม่ Platform Fee ต่อคำสั่งซื้อ

TikTok Shop เริ่มเก็บค่าธรรมเนียมใหม่คือ “Platform Infrastructure Fee” ประมาณ 1 บาทต่อคำสั่งซื้อ สำหรับร้านค้าที่มียอดเกิน 100 ออเดอร์ต่อเดือน

ฟังดูน้อย แต่ถ้าร้านมีหลายพันออเดอร์ต่อเดือน ค่าธรรมเนียมนี้จะเพิ่มต้นทุนทันที

ผลกระทบ:

• กำไรต่อชิ้นน้อยลง
• ร้านต้องปรับราคา / ปรับแพ็กเกจให้คุ้มค่ามากขึ้น
• ต้องคิดต้นทุนละเอียดกว่าเดิมเวลาจัดโปร
  
   

3. กฎคุมของปลอม (Counterfeit) เข้มมาก เสี่ยงโดนแช่ยอด 180 วัน

ปีนี้ TikTok Shop ได้เข้มงวดกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และของปลอมที่สุดตั้งแต่เปิดระบบ โดยมีการใช้มาตรการ

• ตรวจสอบสินค้าอัตโนมัติ
• ตรวจสอบ Supplier
• แช่ยอดเงิน (Balance Hold) สูงสุด 180 วัน
• ปิดร้านค้าทันทีถ้าพบของปลอมแบบจงใจ
   

กลุ่มสินค้าที่เสี่ยงมาก:

• แบรนด์เนม
• เครื่องสำอาง
• อิเล็กทรอนิกส์
• ของใช้แฟชั่นที่ลอกแบบง่าย
• สินค้าที่อ้างสรรพคุณเกินจริง
   

ข้อควรทำ:
เก็บหลักฐานสินค้า (ใบเสร็จ, ใบรับรอง, แพ็คเกจจริง, สต็อกจริง)
ห้ามลงสินค้าแบบ “นำมาแปะรูป” โดยไม่มีของจริงอยู่ในมือเด็ดขาด

4. การคัดกรองสินค้าขึ้นขายเข้มขึ้นเป็นพิเศษ

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า TikTok Shopได้ บล็อกสินค้าไปมากกว่า 70 ล้านรายการ ภายในครึ่งปี และปฏิเสธร้านค้าสมัครใหม่มากกว่า ล้านร้านค้า แปลว่าระบบกำลังกวาดล้างสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

สิ่งที่ทำให้สินค้าโดนบล็อกง่ายมากในตอนนี้:

• ภาพสินค้าไม่ชัด / ไม่มีภาพจริง
• คำอธิบายไม่ครบ
• สินค้าเข้าข่ายผิดกฎหมาย
• สรรพคุณโอเวอร์เกินจริง

ใช้คำต้องห้าม เช่น รับประกันผลลัพธ์, ลดโรค, รักษาโรค เป็นต้น

 

5. ระบบตรวจสอบร้านค้าที่ส่งของช้า หรือคำสั่งซื้อยกเลิกเยอะ

ปีนี้ TikTok เน้นคุณภาพร้านมากขึ้น ถ้าร้านมีลักษณะเหมือนร้าน “ไม่น่าเชื่อถือ” เช่น:

• ส่งของช้าเกิน SLA
• แคนเซิลออเดอร์บ่อย
• ยัดของผิด / ของเสีย
• ลูกค้าร้องเรียนบ่อย
• แพลตฟอร์มจะลดการมองเห็นทันที และอาจเข้าสู่โหมดจำกัดการทำกิจกรรม เช่น:
• ไม่ให้ลง Flash Sale
• ตัดสิทธิ์เข้าร่วม Campaign
• ปิดระบบ Live Sellingหรือถึงขั้น “ระงับร้าน”
  
   

6. คอนเทนต์และไลฟ์เข้มงวดกว่าปีก่อน

เพราะมีปัญหาผู้ขายบางราย “ทำคอนเทนต์เกินจริง” TikTok เลยปรับกฎ:

ข้อห้าม:

• กล่าวอ้างผลลัพธ์เกินจริง
• Live แบบหลอกลวง เช่น ปั่นยอด / เปิด Live หลอกของหมด
• ใช้คำแรงเกินจริง เช่น “รับประกันหาย”, “รักษาได้ทุกโรค”

ใช้ภาพ Before–After ที่ชวนเข้าใจผิด

 

แล้วร้านค้าควรทำยังไง เพื่อไม่ให้โดนแบนโดยไม่รู้ตัว?

• เตรียมเอกสารร้านค้าให้ครบ รวมถึงข้อมูลภาษีและที่อยู่จริง
• เก็บหลักฐานแหล่งที่มาสินค้าเสมอ สำคัญสุดสำหรับร้านที่ขายสินค้าเสี่ยง ๆ
• ตรวจคำบรรยายสินค้าไม่ให้ใช้คำผิดกฎ โดยเฉพาะสินค้า หมวดอาหารเสริม ความงามและสุขภาพ
• ส่งของให้ตรงเวลา ลดการแคนเซิล เพราะอัตรา Cancel มีผลต่อ Trust Score
• อัปเดตนโยบาย TikTok Shop ทุกเดือน เพราะแพลตฟอร์มเปลี่ยนเงื่อนไขค่อนข้างบ่อย
• หลีกเลี่ยงการใช้ Supplier ที่ไม่มั่นใจ ถ้าส่งของปลอมสักครั้ง เสี่ยงโดนแบนทั้งบัญชีทันที

ปีนี้เป็นปีที่ TikTok Shop ควบคุมระบบเข้มที่สุด การไม่รู้กฎอาจทำให้ร้านโดนระงับแบบไม่รู้ตัว แต่ถ้าร้านเตรียมข้อมูลให้โปร่งใส ขายสินค้าที่ถูกต้อง และปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ก็สามารถขายได้อย่างปลอดภัย และสร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง

ถ้าหากคุณต้องการให้ร้านค้า Shopee, Lazada, TikTok Shop หรือ LINE MyShop เติบโตอย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องเหนื่อยจัดการเอง เรา Wizemoves e-Distributor ผู้ช่วยมืออาชีพในการดูแลและบริหารร้านค้าใน Marketplace และ Social Commerce พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่ช่วย

• แก้ปัญหาการขายออนไลน์อย่างตรงจุด
• วางกลยุทธ์เพิ่มยอดขายระยะยาว
• และต่อยอดโอกาสให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน