mdi_eye : 10 ph_share-bold : 0 charm_sound-down
อ่าน

7 เทรนด์อีคอมเมิร์ซที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจกดซื้อจริง! อัปเดตเทรนด์ปีที่ผ่านมาเพื่อเตรียมพร้อมปีหน้า

อีคอมเมิร์ซไทยยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด! ปีที่ผ่านมา มูลค่าตลาดพุ่งแตะกว่า 1.07 ล้านล้านบาท โตขึ้นกว่า 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่าพฤติกรรมผู้บริโภคไทยยังพร้อมซื้อ พร้อมช้อป และพร้อมลองแบรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ

ในบทความนี้เรารวบรวม 7 เทรนด์อีคอมเมิร์ซที่ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจกดซื้อของลูกค้า มาช่วยให้แบรนด์พร้อมวางกลยุทธ์ให้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด


1. Social Commerce & Live Commerce ยังพุ่งแรง โดยเฉพาะ TikTok Shop

ปีที่ผ่านมา Social Commerce มาแรงที่สุด โดยเฉพาะ TikTok Shop ที่ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 20% ทำให้แบรนด์ต้องปรับตัวเข้าสู่การขายแบบไลฟ์และคอนเทนต์สั้นมากขึ้น
การผสาน ความบันเทิง + คอนเทนต์ + การซื้อขาย ในที่เดียว ส่งผลให้ Conversion Rates สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

กลยุทธ์สำหรับแบรนด์:

  • ทำ Live อย่างสม่ำเสมอ
  • ใช้ Creator/Influencer ช่วยปิดการขาย
  • ทำคอนเทนต์รีวิวสินค้าแบบ “หาที่ไหนไม่ได้”
     

2. Free Shipping และคูปองส่วนลด คือจุดตัดสินใจ

กว่า 60% ของผู้บริโภคบอกว่า “ค่าส่งฟรี” และ “คูปองลดราคา” คือเหตุผลหลักที่ตัดสินใจซื้อ
สิ่งนี้พิสูจน์ว่า “แรงจูงใจเล็กๆ” ส่งผลใหญ่กับ Conversion

กลยุทธ์สำหรับแบรนด์:

  • ตั้งค่าส่งฟรีขั้นต่ำ
  • แจกคูปองในช่วง Flash Sale
  • ทำแคมเปญ “ของมันต้องมี เพราะค่าส่งฟรี!”

     

3. การเก็บเงินปลายทาง (COD) ยังจำเป็นมาก

แม้ตลาดจะเข้าสู่ยุค Digital Payment แต่ลูกค้ากลุ่ม Mass ก็ยังเลือก เก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery)
เพราะรู้สึก “ปลอดภัยกว่า” และ “มั่นใจว่าไม่โดนโกง”

กลยุทธ์สำหรับแบรนด์:

  • เปิด COD ทุกแพลตฟอร์ม
  • ทำระบบเช็คสต็อก/ที่อยู่ให้แม่นเพื่อลดออเดอร์ยกเลิก

     

4. Trust & Review คือเหตุผลที่ทำให้คนกดซื้อ

คนไทยกว่า 83% ตัดสินใจซื้อหลังจากเห็น Influencer รีวิว หรือจากรีวิวผู้ใช้จริง
ความน่าเชื่อถือ คือกุญแจสำคัญของทุกธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

กลยุทธ์สำหรับแบรนด์:

  • สร้างรีวิวคุณภาพ
  • ใช้ Micro Influencer เพื่อความเข้าถึงจริง
  • เน้น Before–After, UGC และรีวิววิดีโอ

     

5. Same-day Delivery กลายเป็นมาตรฐานใหม่

ยุคนี้ลูกค้าคาดหวังว่า “สั่งวันนี้ต้องได้วันนี้”
โดยเฉพาะสินค้าใช้ในชีวิตประจำวัน สกินแคร์ อาหาร เครื่องใช้ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ

กลยุทธ์สำหรับแบรนด์:

  • เชื่อมคลังสินค้าใกล้บ้าน
  • ใช้บริการขนส่งที่รองรับแบบ Same-day

     

6. Personalization & AI Suggestion เพิ่มยอดขายแบบเงียบๆ แต่ทรงพลัง

AI กลายเป็นผู้ช่วยขายคนสำคัญ ทั้งการแนะนำสินค้า การจัดชุดสินค้า Bundle ที่ลูกค้าน่าจะชอบ และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่ม
ร้านค้าที่ใช้ AI มักมีอัตราการซื้อซ้ำสูงขึ้น

กลยุทธ์สำหรับแบรนด์:

  • ใช้ระบบแนะนำสินค้า (Recommendation Engine)
  • ทำ Retargeting Ads จากข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า
  • ใช้ Chatbot AI ช่วยตอบคำถามเร็วขึ้น

     

7. Short Video Content คืออาวุธปิดการขาย

คอนเทนต์สั้นยุคนี้ไม่ใช่แค่การสร้าง Awareness แต่คือ “เครื่องมือปิดการขาย”
วิดีโอ 10–30 วินาทีช่วยให้ลูกค้า “เห็นจริง เข้าใจง่าย และตัดสินใจเร็ว”

กลยุทธ์สำหรับแบรนด์:

  • ทำคลิปสาธิตสินค้า
  • รีวิวสั้น 10 วินาที
  • คอนเทนต์ Before-After
  • คลิปแนวเรื่องเล่า/ปัญหาของลูกค้า (Problem-solution)
     

สรุป: ใครที่ขายออนไลน์อยู่ ต้องปรับตัวให้เร็วและแม่นขึ้น

ปีต่อไป อีคอมเมิร์ซจะแข่งกันที่ “ความเร็ว” “ความน่าเชื่อถือ” และ “ความแม่นยำ”
แบรนด์ที่รู้จักใช้เทรนด์เหล่านี้ จะชนะใจลูกค้าได้ง่ายกว่าเดิม และเพิ่มยอดขายได้แบบยั่งยืน

แท็ก e-Commerce

แชร์

บทความนี้มีประโยชน์กดชอบเป็นกำลังใจให้เราได้
Like this article