คลินิกทำฟัน หรือคลินิกทันตกรรม คือสถานพยาบาลที่ให้บริการเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน โดยมีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาเป็นผู้ตรวจรักษา รวมถึงถึงการให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ เช่น การขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน จัดฟัน ฟอกฟันขาว หรือผ่าฟันคุด
จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ของทางทันตแพทยสภา พบว่าในประเทศไทยมีจำนวนคลินิกทันตกรรมรวมทั้งหมด 6,639 แห่ง แบ่งออกเป็นกรุงเทพมหานคร 1,871 แห่ง และภูมิภาค 4,768 แห่ง ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2557 แล้วที่มีจำนวนคลินิกทำฟันอยู่ที่ 2,538 แห่ง พบว่าคลินิกทำฟันมีการเติบโตเพิ่มขึ้นสูงถึง 161% ในยุคที่จำนวนคลินิกหมอฟันมีจำนวนมากขนาดนี้การสร้างแบรนด์คลินิกทำฟัน ให้แตกต่างและโดดเด่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ในช่วงหลายปีมานี้เหตุที่ส่งผลให้คลินิกทำฟันมีจำนวนเยอะขึ้นมาจากหลายปัจจัยที่สะท้อนทั้งด้านความต้องการของผู้บริโภค และเทรนด์ของธุรกิจสายสุขภาพ/ความงาม ซึ่งสาเหตุหลักๆ คือ
แต่อย่างไรก็ตามการที่มีคลินิกทำฟันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยู่ทุกปี หากคิดจะเปิดคลินิกทำฟันใหม่ของตัวเอง รวมถึงการพัฒนาคลินิกทำฟันของตัวเองให้ยังเป็นที่ต้องการของลูกค้าจะต้องทำอย่างไร “การสร้างแบรนด์คลินิกทำฟัน” ให้โตไวและติดตลาดคือคำตอบ!! แล้วเราสามารถสร้างแบรนด์ได้อย่างไร ตามมาอ่านบทความต่อกันได้เลย
ในยุคที่คลินิกทำฟันเปิดกันแทบทุกมุมถนน แค่เป็นหมอฟันที่เก่งอย่างเดียวคงไม่พอ! "แบรนด์" คือสิ่งที่ทำให้คนเลือกเรา ท่ามกลางตัวเลือกมากมาย บทความนี้ขอมัดรวม 5 เคล็ดลับเด็ด ที่จะช่วยให้คลินิกทำฟันโตไว เป็นที่จดจำ และติดตลาด แบบยั่งยืนเอง
การตั้งคาแรคเตอร์คลินิกทำฟันให้ชัดเจน คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ให้ แตกต่าง จำง่าย และน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในยุคที่คลินิกทำฟันเปิดกันเยอะมาก การที่ลูกค้าจำเราได้จาก "ความรู้สึก" หรือ "บุคลิก" ของแบรนด์ จะช่วยให้เขาตัดสินใจเลือกง่ายขึ้นซึ่งวิธีการกำหนดคาแรคเตอร์สามารถทำได้โดย
สำหรับคลินิกทำฟัน คือการกำหนด "ตัวตน" และ "ภาพจำ" ของคลินิกให้ชัดเจน ว่าอยากให้ลูกค้ามองเราเป็นแบบไหน รู้สึกยังไงเมื่อมาใช้บริการ เพื่อสร้างแบรนด์ให้แตกต่างและน่าจดจำ เช่น คลินิกทำฟันสายอบอุ่นเป็นกันเอง, คลินิกทำฟันพรีเมียมน่าเชื่อถือ หรือเป็นคลินิกทำฟันที่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
การใช้ Mood & Tone ที่ไปในทางเดียวกันสำหรับคลินิกทำฟัน หมายถึงการทำให้ “บุคลิกแบรนด์” สื่อออกมาอย่างสอดคล้องกันในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของภาพลักษณ์และการสื่อสาร เช่น สี โลโก้ ภาษา หรือบรรยากาศในคลินิกนั่นเอง
สำหรับการสื่อสารคาแรคเตอร์ของคลินิกทำฟันของเรานั้น คือการทำให้ลูกค้ารับรู้ตัวตนของคลินิกอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเจอเราผ่านช่องทางไหนก็ตาม เช่น ถ้าเป็นคลินิกทำฟันสายอบอุ่น คอนเทนต์หรือสิ่งที่นำเสนอออกไปก็จะมีการใช้คำพูดแบบเป็นกันเองในโพสต์, มีรูปหมอทักทายด้วยรอยยิ้ม หรือคลินิกตกแต่งร้านโทนพรีเมียม หรือโทนพาสเทลที่น่ารัก
ซึ่งประโยชน์ของการตั้งคาแรคเตอร์คลินิกทำฟันให้ชัดเจนจะส่งผลให้ลูกค้าจำแบรนด์ได้เร็ว, ลูกค้ารู้สึกคลิกกับคลินิกเรา, ช่วยสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ และช่วยให้การทำการตลาดสื่อสารได้ตรงเป้า
สำหรับคลินิกทำฟันการมีจุดขายที่ชัดเจน คือการบอกให้ลูกค้ารู้ว่า “ทำไมต้องเลือกคลินิกนี้” เพราะจุดขายที่ดีจะช่วยให้คลินิกโดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง และน่าเชื่อถือในสายตาคนไข้ ซึ่งจะสร้างแบรนด์คลินิกทำฟันด้วยการสร้างจุดขายสามารถทำได้ทั้งในเรื่องของ
การสร้างความแตกต่างสำหรับคลินิกทำฟัน คือการมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ลูกค้าจำเราได้ และรู้สึกว่าคลินิกเรามีอะไรพิเศษกว่าคลินิกอื่น เช่น คลินิกตกแต่งสไตล์คาเฟ่ ถ่ายรูปสวย, หมอสายคอนเทนต์ อธิบายเข้าใจง่ายใน TikTok หรือ คลินิกทำฟันที่บริการเร็ว ไม่ต้องรอนาน เพราะใช้ระบบจองอัตโนมัติ
สำหรับคลินิกทำฟันคำว่าตรงใจลูกค้า คือการเข้าใจความต้องการของคนไข้ และออกแบบบริการหรือประสบการณ์ให้ตอบโจทย์แบบตรงจุด ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคลินิกทำฟันที่นี่แหละ คือคลินิกทำฟันที่ใช่สำหรับฉัน!! ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคลินิกทำฟันที่เปิดทุกวันไม่ต้องลางานมาหาหมอ, เจ็บน้อย หายเร็ว เพราะมีการใช้เทคโนโลยีทันสมัย และมีโปรผ่อน 0% สำหรับวัยทำงานที่อยากจัดฟัน ยิ่งเข้าใจลูกค้าได้มากเท่าไรก็จะยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าคลินิกนี้เข้าใจเราและพร้อมกลับมาใช้บริการซ้ำอย่างแน่นอน
การใช้คำพูดและภาพที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ไม่ใช้ศัพท์เฉพาะทางเยอะ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนเข้าถึงข้อมูลและบริการของคลินิกได้ทันที ไม่ต้องแปลหรือเดาให้ยุ่งยากจะทำให้ผู้ใช้บริการคลินิกทำฟันของเราเป็นมิตร และไม่ใช่หมอฟันที่น่ากลัว
คลินิกทำฟันการสร้างความน่าเชื่อถือ คือการทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าได้รับการรักษาที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และดูแลโดยมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นหมอ วัสดุที่ใช้ หรือบรรยากาศของคลินิก ซึ่งสำหรับการสร้างแบรนด์คลินิกทำฟันนั้นสามารถทำได้โดยการที่มีทันตแพทย์เฉพาะทางประจำทุกเคส, มีรีวิวจากคนไข้จริงพร้อมเปรียบเทียบ Before - After รวมถึงคลินิกมีชื่อเสียงบนแพลตฟอร์มออนไลน์หรือเคยออกสื่อ
การสร้างตัวตนออนไลน์ให้ครบทุกช่องทาง คือการที่เราพาแบรนด์คลินิกทำฟันไปอยู่ในทุกที่ที่ลูกค้าอยู่ ทั้ง Facebook, Instagram, TikTok, LINE OA, Google Maps หรือแม้แต่เว็บไซต์หากเป็นคลินิกขนาดใหญ่หรือมีบริการที่ครอบคลุม เพื่อให้ลูกค้าเห็นเราบ่อยๆ และเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ซึ่งช่องทางที่ควรมีคือ
Facebook Page สำหรับคลินิกทำฟัน คือหน้าร้านออนไลน์ที่ช่วยให้ลูกค้าเจอเราง่าย เราสามารถอัปเดตข้อมูลได้ไว และใช้สื่อสารกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชัน รีวิว หรือจองคิว
Instagram สำหรับคลินิกทำฟัน คือพื้นที่โชว์ภาพสวย ๆ ของคลินิกและผลลัพธ์การรักษา ที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และดึงดูดสายตาคนรุ่นใหม่ที่ชอบดูภาพก่อนตัดสินใจ โดยสิ่งที่ควรโพสต์ลง IG คือ รูป Before - After การจัดฟัน หรือฟอกฟันขาว, บรรยากาศคลินิกที่ดูสะอาดมีความทันสมัย หรือจะเป็น Stories เพื่ออัปเดตโปรโมชันก็ได้
การมี LINE OA (LINE Official Account) คือช่องทางแชทที่ลูกค้าสามารถใช้ติดต่อ สอบถาม จองคิว และรับข่าวสารได้อย่างสะดวก เพราะทุกคนมี LINE อยู่แล้ว ซึ่ง LINE OA เปรียบได้กับผู้ช่วยมือขวาของคลินิกทำฟันที่ทำให้การดูแลลูกค้าสะดวก และใกล้ชิดที่สุด
ในส่วนของการทำช่อง TikTok ของคลินิกทำฟัน จะเป็นช่องทางที่ใช้สร้างความสนุกสนานและให้ความรู้ผ่านคลิปสั้นๆ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบดูคอนเทนต์ที่เป็นแบบ “ไว” และ “น่าสนใจ” ซึ่งคลิปที่ลงอาจเป็นในเรื่องของวิธีดูแลฟันหรือการทำฟัน, รีวิวจากคนไข้แบบมีชีวิตชีวา หรือจะเป็นท่าทางและสไตล์ที่เป็นมิตร ทำให้คนไม่กลัวหมอฟันก็ได้เหมือนกัน
การที่คลินิกฟันของเรามีรีวิวจากลูกค้าจริงจะช่วยสร้างสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์คลินิกทำฟัน ซึ่งการนำคำติชมและประสบการณ์จากลูกค้าจริงมาแสดงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ารายใหม่ว่า คลินิกของคุณได้รับการยอมรับและมีผลลัพธ์ที่ดีจริง โดยรีวิวนั้นจะเป็นในเรื่องของ
การแชร์รีวิวจากลูกค้าที่บอกถึงความประทับใจ คือการนำความคิดเห็นจากลูกค้าที่พึงพอใจมาเผยแพร่ต่อ เพื่อให้ลูกค้ารายใหม่รู้สึกมั่นใจและเชื่อมั่นในบริการของคลินิกมากยิ่งขึ้น
การโพสต์ภาพหรือคลิป Before - After คือการแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจนต่อลูกค้า เพื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงก่อนและหลังการรักษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยยันคุณภาพและฝีมือของคลินิกได้ดีที่สุด
ประเภท | เหมาะกับแพลตฟอร์ม | จุดเด่น | ใช้เวลา | ผลลัพธ์ที่ได้ |
ภาพนิ่ง | Facebook, IG | เข้าใจง่าย ดูเร็ว | น้อย | สื่อผลลัพธ์ได้ชัด |
วิดีโอ | TikTok, Reels | สื่ออารมณ์ เล่าเรื่องได้ | มาก | ดึงดูดและสร้างการแชร์ได้ดี |
สำหรับการเปิดให้บริการคลินิกทำฟันหากเราดูแลลูกค้าให้เหมือนเราดูแลคนในบ้าน ซึ่งจะเป็นการให้บริการแบบอบอุ่นเป็นกันเอง และใส่ใจทุกรายละเอียดราวกับดูแลคนในครอบครัว จะทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ และอยากกลับมาใช้บริการอีก การดูแลลูกค้าให้เหมือนดูแลคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ
การสื่อสารพูดคุยกับลูกค้าด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ใช้ศัพท์เฉพาะเยอะ จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจขั้นตอนการรักษาและรู้สึกสบายใจ ไม่สับสนหรือเครียด จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคลินิกของเรานั้นเป็นมิตร และไม่ใช่แค่หมอฟัน แต่คือคนที่อธิบายเรื่องยากให้เข้าใจได้ง่าย
สำหรับความใส่ใจความรู้สึกของคนไข้ที่กลัวหรือกังวล คือการเข้าใจว่าหลายคนไม่ชอบหรือกลัวการทำฟัน ทางคลินิกจึงต้องดูแลด้วยความอ่อนโยน สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และสื่อสารให้คนไข้รู้สึกปลอดภัย ซึ่งจะช่วยให้คลินิกของเราต่างจากที่อื่น และกลายเป็นที่ประจำของคนกลัวหมอฟันได้
การทำคลินิกหมอฟันการที่เราแนะนำสิ่งที่เหมาะสมจริงไม่ขายเกินความจำเป็น คือการให้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ และยึดประโยชน์ของคนไข้เป็นหลัก ไม่เสนอคอร์สแพงหรือการรักษาที่ไม่จำเป็นเพื่อการสร้างยอดขายเพียงอย่างเดียว
การสร้างแบรนด์คลินิกทำฟันให้เติบโตและเป็นที่จดจำในยุคที่คู่แข่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นต้องเริ่มจากการวางคาแรคเตอร์ให้ชัดเจน มีจุดขายที่ตรงใจลูกค้าและแตกต่างจากคลินิกทั่วไป พร้อมสร้างตัวตนออนไลน์ให้ครบทุกแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Instagram, TikTok และ LINE OA เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รอบด้าน รวมถึงการมีรีวิวจากลูกค้าจริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และการให้บริการแบบอบอุ่น ใส่ใจทุกรายละเอียดเหมือนดูแลคนในบ้านซึ่งหากนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจคลินิกทำฟันของคุณ “โตไว ติดตลาด” และกลายเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเลือกใช้ซ้ำอย่างยั่งยืนแน่นอน
Q ต้องมีใบอนุญาตอะไรบ้างในการเปิดคลินิกทำฟัน?
A ต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข และใบประกอบวิชาชีพจากทันตแพทยสภา ซึ่งการเปิดคลินิกทำฟันจำเป็นต้องมีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง
Q การลงทุนในการเปิดคลินิกทำฟันมีค่าใช้จ่ายหลักๆ อะไรบ้าง?
A การลงทุนจะมีค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ได้แก่ ค่าจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ (เครื่องมือทันตกรรม), ค่าตกแต่งและจัดตั้งสถานที่, ค่าเช่า, ค่าแรงทันตแพทย์และพนักงาน, ค่าโฆษณาและการตลาด รวมไปถึงค่าใช้จ่ายทางด้านใบอนุญาตต่างๆ
Q จะเริ่มต้นการตลาดสำหรับคลินิกทำฟันอย่างไร?
A สามารถเริ่มต้นการตลาดด้วยการสร้างเว็บไซต์หรือ Facebook Page เพื่อเพิ่มการมองเห็น, ใช้รีวิวจากลูกค้าที่พอใจเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ, การโพสต์คอนเทนต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพฟัน และการทำโปรโมชั่นที่น่าสนใจดึงดูดลูกค้า
Q ควรเลือกทำเลที่ตั้งคลินิกทำฟันอย่างไร?
A เลือกทำเลที่ตั้งที่เข้าถึงง่ายและมีการเดินทางสะดวก เช่น ในย่านที่มีการอยู่อาศัยหนาแน่นหรือใกล้กับศูนย์การค้าหรือสถานีขนส่งสาธารณะ การเลือกทำเลที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการบริการฟันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้า
หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจติดต่อ Sellsuki ได้เลย เพราะเรามีบริการครบวงจรบนโลกธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น บริการที่ปรึกษาธุรกิจการตลาดแบบครบวงจร (WizeMoves Consult) ผู้ช่วยจัดจำหน่ายออนไลน์ครบวงจร ดูแลครอบคลุมทุกขั้นตอนการขาย (WizeMoves e-Dis) บริการโฆษณาออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม (WizeMoves Ads) บริการดูแล LINE Official Account ครบวงจร ที่มีลูกค้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ กว่า 9,000 บัญชี (LINE Agency) และอื่นๆ อีกมากมายที่ Sellsuki มีพร้อมให้คุณ
และเพื่อไม่ให้พลาดความรู้และสาระสำคัญแบบนี้ก่อนใคร อย่าลืมกดติดตามน้องสุกิบนช่องทาง Facebook, Youtube, Instagram และ TikTok
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมจาก Sellsuki ได้ที่ : บทความที่น่าสนใจ