Header-sellsuki.webp
S E L L S U K I
mdi_eye : 95 ph_share-bold : 0 charm_sound-down
อ่าน

Data Research Insight ชาไทยแบบไหน ครองใจคนทั้งประเทศ

Data Research Insight ชาไทย ผ่าน Social Listening by Sellsuki

data-research-thai-tea.webp

ถึงแม้ว่ายุคสมัยและเวลาจะเปลี่ยนผ่านไปแค่ไหน “ชาไทย” ก็ยังคงยืนหยัดอยู่ในใจคนไทยทุกกลุ่มทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นที่ผ่านหน้าบ้าน ร้านน้ำชงที่มีอยู่ทุกที่ ไปจนถึงคาเฟ่สุดพรีเมียมหรือร้าน Specialty จากกินร้อนสู่เย็น จากกินเปล่า ๆ สู่การเติมชีส หรือจากการกินจากถุงจนใส่แก้ว เป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีว่าชาไทยไม่เคยถูกลดความนิยมลงเลย กลับยิ่งถูกพูดถึงมากขึ้นซะอีกในหลาย ๆ บริบท และล่าสุดก็เป็นไวรัลสำหรับ “ชาไทยไม่ใส่สี”

วันนี้ Sellsuki จะพาทุกคนมาเจาะลึกไปยิ่งกว่าความอร่อย หอม มัน ของเจ้าเครื่องดื่มสีส้มแก้วนี้ โดยใช้ Social Listening Tools (ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัว) เพื่อนำมาวิเคราะห์เป็นข้อมูลเชิงลึก (Data Research Insight) เกี่ยวกับเทรนด์ต่าง ๆ ของชาไทยว่าปัจจุบันถูกพูดถึงและมีแนวโน้มเป็นอย่างไร

5 ขั้นตอนการทำ Data Blueprint ด้วยเครื่องมือ Social Listening

data-research-insights-process-thai-tea.webp

Step 1 - Crack โจทย์ไหนที่อยากรู้

สำหรับขั้นตอนแรก เราต้องตีโจทย์ให้แตกว่าเราอยากรู้หรือศึกษาเรื่องอะไรที่คนพูดถึงกันในโซเชียลมีเดีย ในบทความนี้จะเป็น “ชาไทย” และ “ชาเย็น” 

Step 2 - Set Keyword & Data Gathering

ขั้นตอนต่อมาคือ กำหนด Keyword ให้สอดคล้องกับหัวข้อที่เราต้องการศึกษา เพื่อทำการเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Gathering) ซึ่งสำหรับหัวข้อชาไทยจะมี 2 คำที่เหมาะคือ ชาไทยและชาเย็น

thai-tea-social-media-mention.webp

จากการใช้เครื่องมือ Social Listening (Social Listening Tool) ในช่วง 1 มีนาคม 2024 ถึง 30 มิถุนายน 2024 หรือเป็นระยะร่วม 4 เดือน รวบรวมข้อมูลบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Facebook, X (Twitter), Instagram และ YouTube เป็นต้น พบว่ามีการกล่าวถึงประมาณ 18,000 ครั้ง โดยข้อมูลที่ Sellsuki รวบรวมได้นั้น เป็นข้อมูลจากโพสต์สาธารณะ ภายใต้นโยบาย Policy ของแพลตฟอร์ม

Step 3 - Data Analyst & Visualize

ในขั้นตอนที่สาม เราจะต้องนำข้อมูลที่ได้จากแพลตฟอร์มต่างๆ มาทำการวิเคราะห์ (Data Analysis) แต่อย่าลืมตรวจสอบ และคัดกรองข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Keyword ออกก่อน เพื่อให้การวิเคราะห์ของเรานั้นมีความแม่นยำและชัดเจนมากที่สุด

thai-tea-mention-by-platform.webp

โดยหากเรามองจากกราฟจะเห็นได้ว่ามี 3 แพลตฟอร์มที่มีสัดส่วนใกล้กัน โดย Facebook มาเป็นอันดับแรกที่ 34.2% ห่างจากจากอันดับสองอย่าง X ราว 4% และอันดับที่สามอย่าง Instagram ที่มีสัดส่วนการกล่าวถึง 24% อีกหนึ่งแพลตฟอร์มยอดฮิตและน่าสนใจอย่าง TikTok ก็มีการพูดถึงชาไทยพอสมควรที่ 9.4%

โดยทาง Sellsuki วิเคราะห์เหตุผลในการเลือกใช้ช่องทางต่างๆ ของผู้บริโภค ดังนี้

Facebook ยังคงเป็นที่นิยมด้านคอมมูนิตี้และการรีวิว

อย่างที่ทราบกันดีว่า Facebook เป็นที่นิยมในประเทศไทยมานาน แล้วจากข้อมูลที่เราได้มา มันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะกลุ่มคอมมูนิตี้ที่เป็นจุดเด่นที่หาใครมาเทียบยาก ผสมกับคอนเทนต์การรีวิวที่เป็นที่นิยิมอย่างมากในไทย

X มาแรงในหมู่คนรุ่นใหม่

แพลตฟอร์ม X หรือ Twitter เก่า เป็นอีกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทางเลือกของคนรุ่นใหม่ ผู้คนหันมารับข่าวสารหรือเทรนด์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ ผ่าน X มากขึ้น เลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่พอมีเทรนด์ “ชาไทยไม่ใส่สี” X ก็ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ

Instagram และ TikTok ความเหมือนที่แตกต่าง

คอนเทนต์วิดีโอสั้น หรือ Short-form video เป็นที่นิยมอย่างมากในหลายปีมานี้ ซึ่ง TikTok เป็นผู้นำอย่างไม่ต้องสงสัย โดยมี Instagram (รวมถึง Facebook) ที่เหมือนจะผันตัวจะแพลตฟอร์มที่เอาไว้ลงแค่ภาพนิ่งเป็นหลักหันมาดูโฟกัสด้านนี้เช่นกัน การที่รีวิวแบบมีเสียงหรือเป็นวิดีโอย่อมดีกว่าสำหรับหากมองในมุมมองรีวิวอาหารหรือเครื่องดื่มในรูปแบบที่หลากหลาย โดยความแตกต่างระหว่าง 2 แพลตฟอร์มนี้ จะเป็น TikTok ที่อาจจะเน้นข่าวสารหรือความบันเทิง ในขณะที่ Instagram อาจจะเน้นที่ไลฟ์สไตล์มากกว่า

Social Data Stat by Hashtag Cloud

Sellsuki ใช้ Hashtag Cloud ฟีเจอร์ที่ช่วยค้นพบแฮชแท็กน่าสนใจ รวมไปถึงภาพรวมของข้อมูลและเทรนด์ที่สอดคล้องกับ Keyword ของเรา

thai-tea-in-hashtag-cloud.webp

จากข้อมูลที่ Hashtag Cloud พบบนโซเชียลมีเดีย จะเห็นได้ว่าเทรนด์เกี่ยวกับชาไทยส่วนใหญ่ จะเป็นชื่อเรียกเมนูที่ติดอันดับต้น ๆ นอกจากนี้จะมีแฮชแท็กแคมเปญจากสินค้าของแบรนด์เช่นกัน แต่ที่น่าสนใจคือมี #LINEMAN ทำให้เราเห็นชัดยิ่งขึ้นถึงพฤติกรรมคนไทยที่ใช้แอปพลิเคชันส่งอาหาร เป็นอีกตัวเลือกนึงในการหาอาหารหรือเครื่องดื่ม

Categories Overall

หลังจากที่เรารวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราต้องทำการแยกข้อมูลเหล่านี้ออกเป็นประเภทข้อมูล (Categories) เพื่อให้เราสามารถกำหนดหัวข้อหรือประเด็นเชิงลึก (Insights) ของหัวข้อที่เราต้องการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

thai-tea-categories-overall.webp

โดยเราจะเห็นว่าเวลาผู้บริโภคพูดถึงชาไทย จะพูดถึงหรือรีวิวปัจจัยในการตัดสินใจซื้อเกือบครึ่งหนึ่งที่ 48.8% จะเป็นการพูดถึงปัจจัยทั่วไปอย่าง รสชาติ กลิ่นและคุณภาพของชา ราคา และความแปลกใหม่ ความแปลกใหม่ที่ว่าทำให้เมนูชาไทยธรรมดากลายมาเป็นจุดขายของหลาย ๆ ร้านได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ชาไทยผสมกับโกโก ชาไทยใส่ครีมชีส หรือชาไทยสลัชชี่

อีกจุดนึงที่อยากเอามาย้ำตรงจุดนี้คือการสั่งซื้อ (13.1%) ที่มีทั้งการซื้อหน้าร้านและผ่าน Delivery App ชี้ให้เห็นว่าหากอยากทำร้านหรือแบรนด์เครื่องดื่มแบบชง ที่ถึงแม้จะมีค่า GP เข้ามาเป็นปัจจัยใหญ่ แต่ช่องทางนี้เป็นช่องทางที่ไม่ควรมองข้ามและควรวางแผนอย่างรอบคอบ

Menu ชาไทย

thai-tea-menu-indepth.webp

เราขอมาขยี้ในหัวข้อเมนูเพิ่มเติมกันบ้าง โดยหากเจาะลึกมาใน 26.4% ที่พูดถึงเมนูชาไทยแล้ว จะเห็นได้ว่ามีความหลากหลายซ่อนอยู่ ชาไทยไม่ได้จบแค่ดื่มเย็นหรือร้อน แต่เครื่องดื่มแก้วนี้เป็นได้หลากหลายกว่านั้น ไม่ว่าจะเอามาทำขนมไทยอย่าง สังขยา หรือจะเป็นเบเกอรี่อย่างพวก ชีสเค้กหรือเอแคลร์ ทางด้านเครื่องดื่มอาจจะไม่ได้มีลูกเล่นให้ปรับเยอะมาก แต่หากหาเจออาจทำให้กลายเป็นจุดขายที่ทำให้คนยอมรอต่อคิวเพื่อซื้อเลยก็ได้

สีของชา

thai-tea-key-takeaway.webp

เรื่องนี้คงไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเรื่องสีของชาไทยกำลังเป็นที่พูดถึงบนโซเชียลมีเดีย โดยราว ๆ 60% พูดถึงชาไทยไม่ใส่สี โดยมันเป็นการสร้างความคิดใหม่ ๆ ที่มีต่อชาไทยให้ผู้บริโภค เพราะชาไทยไม่ใส่สีนั้น จะไม่มีการเติมสีผสมอาหาร เช่น Sunset Yellow FCF ที่แม้จะไม่ส่งผลต่อร่างกายหากไม่ได้ทานในปริมาณมาก แต่คงจะดีกว่าถ้าไม่ใส่ ทำให้หลายแบรนด์นำจุดนี้มาเล่น และนำเสนอเมนูที่ “คลีน” กว่าออกมา

สัดส่วนของประชากรที่น่าสนใจ

thai-tea-mention-by-demographic.webp

โดยข้อมูลที่ทางเราได้มาก็ไม่ได้เป็นที่แปลกใจมากนัก หากเราสังเกตจากพฤติกรรมของคนไทยส่วนใหญ่ ที่ผู้หญิงมักจะเฟ้นหาคาเฟ่ เมนูน้ำหรือขนมมากกว่าผู้ชาย และช่วงอายุก็ไม่ได้ทำให้เราแปลกใจเช่นกัน โดยจะเป็น 25 - 34 ปี และ 18 - 24 ปี ช่วงอายุยอดฮิตที่มีทั้งกำลังซื้อและอำนาจตัดสินใจ

Step 4 - Summarize

data-research-insight-thai-tea-summary.webp

ปัจจุบัน ชาไทยยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยม ไม่เพียงแต่สำหรับคนไทยแต่ยังสำหรับชาวต่างชาติที่แวะมาเยี่ยมเยือนด้วย เมนูสุดคลาสสิคอย่าง “ชาไทยเย็น” ยังคงเป็นเซฟโซนสำหรับหลาย ๆ คน ในขณะที่เมนูฟิวชันใหม่ ๆ ก็พร้อมเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคได้ลอง หรือจะเป็นเมนูสุดคลีนอย่างชาไทยไม่ใส่สีที่กำลังได้รับความนิยม

สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่ายังมีโอกาสมากมายในธุรกิจชาสีส้มที่หลายคนอาจจะบอกว่ามีสิ่งใหม่ไม่ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ชาไทยไร้สีนี้ อาจทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมหรือการเซ็ต New Normal ขึ้นมาในหมู่ผู้บริโภคเลยก็ได้

อีกกลยุทธ์หรือช่องทางการขายที่ใช้คำว่าห้ามมองข้ามได้เลยคือ แอปพลิเคชันส่งอาหาร หรือ Delivery App ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ เพราะมันเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า อีกทั้งยังให้สิทธิประโยชร์อื่น ๆ กว่าการจ่าย ดื่ม แล้วจบ

TIPS: ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยนิยมสั่งชาไทยผ่านแอปเพื่อใช้โค้ดส่วนลด แต่เลือกมารับสินค้าด้วยตัวเองหน้าร้านเพื่อลดค่าส่ง ร้านค้าจึงควรรองรับการรับหน้าร้าน และใช้โอกาสนี้ในการเสนอเมนูเพิ่มเติมหรือโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าใน Touch Point จริง

Step 5 - Make Solution & Idea

ถึงร้านชาไทยจะสามารถหาได้ทั่วบ้านทั่วเมือง แต่นั่นไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่สามารถเข้ามาในตลาดหรือทำให้แบรนด์แข็งแกร่งขึ้นได้ Sellsuki ขอนำเสนอการวิเคราะห์สำหรับท่านใดที่สนใจทำแบรนด์ชาไทยหรืออยากทำให้ธุรกิจที่มีอยู่ให้แข็งแกร่วและขายดียิ่งขึ้น โดยเราไฮไลท์มา 3 จุดหลัก ๆ ดังนี้

กำหนดตัวตนของแบรนด์ถ้ายังไม่มี
หากคุณยังไม่มีดีไซน์หรือคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ หรือมีแล้วแต่ยังไม่ชัดเท่าไหร่ การใช้เวลากับส่วนนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กับการพัฒนาคุณภาพของสินค้า เพราะต้องอย่าลืมว่าถึงแม้รสชาติจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ถ้าลูกค้าจำแบรนด์คุณไม่ได้ก็เท่านั้น การที่มีชื่อ สี แพ็กเกจ ตัวตน หรือเรื่องราวที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำและแตกต่าง

กลยุทธ์สินค้า
การที่มีสินค้าแบบเบสิค เช่น ชาไทยเย็น เป็นเรื่องที่ดี เพราะเข้าถึงผู้บริโภคหลายกลุ่มได้ง่าย อย่างไรก็ตาม หากเข้าถึงง่ายก็แปลว่าคนอื่นก็ทำได้ เพราะฉะนั้น การมีเมนูที่เป็นเอกลักษณ์เป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้คนอยากกลับมาหา เพราะหาที่ไหนไม่ได้ เมนูแปลกใหม่ไม่จำเป็นต้องแหวกตำรา อาจเป็นแค่การนำสิ่งนั้นมาผสมสิ่งนี้ เช่น นำใบเตยหรืออัญชีมาทำเป็นวุ้นใส่ลงไปในชาไทย เพิ่มสีสันและความหอม

ราคาที่ถูกและฮีลใจลูกค้าไปพร้อมกัน
เราอาจจะมีเครื่องดื่ม 2 ช่วงราคา เช่น ชาไทยธรรมดา และ ชาไทยพรีเมียม แต่การสร้างการเข้าถึงได้เป็นสิ่งที่ควรลองทำ หมายถึง อาจจะ การทำโปรโม ชาไทยธรรมดา 3 แก้ว 99 บาท (สมมติจากปกติแก้วละ 35 บาท) หรือจะเป็นการใส่สินค้าพรีเมียมเข้าไป เช่น ชาไทยพรีเมียม 1 + ชาไทยธรรมดา 1 กลยุทธ์นี้อาจทำให้ลูกค้าที่สั่งแต่ไลน์สินค้าธรรมดา อยากลองขยับขึ้นมาลองตัวพรีเมียมเพราะมันรู้สึกคุ้มค่า นอกจากนี้เขาอาจชวนเพื่อนมาหารหรือลองพร้อมกัน และร้านสามารถหากำไรเพิ่มเติมจากพวก Topping ด้วยก็ได้

นอกจากนั้นอาจจะแคมเปญที่ส่งเสริมความยั่งยืน เช่น นำแก้วมาเองลดราคาเครื่องดื่ม หรือใช้แก้วจากทางร้านมีส่วนลดในการซื้อซ้ำ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าแต่มันทำให้พวกเขามีความคิดที่ดีต่อแบรนด์เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย

“เหนือสิ่งอื่นใด การเก็บข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพราะมันจะทำให้เราให้ภาพรวมของธุรกิจเราและทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก”

สำหรับคนที่อยากได้ Data Research Insight เวอร์ชันเต็มของเดือนพฤศจิกายน สามารถดาวน์โหลดฟรี เพียงลงทะเบียนด้านล่างได้เลย!

แท็ก Data Research

แชร์

บทความนี้มีประโยชน์กดชอบเป็นกำลังใจให้เราได้
Like this article
Unlock the Power of Data
ดาวน์โหลดฟรี! คู่มือการวิจัยข้อมูล
เรียนรู้กลยุทธ์ เครื่องมือ และเคล็ดลับ
Unlock the Power of Data
ดาวน์โหลดฟรี! คู่มือการวิจัยข้อมูล
เรียนรู้กลยุทธ์ เครื่องมือ และเคล็ดลับ