Header-sellsuki.webp
S E L L S U K I
mdi_eye : 16 ph_share-bold : 0 charm_sound-down
อ่าน

ที่ปรึกษาสร้างแบรนด์ | WizeMoves Consult ช่วยให้แบรนด์คุณแข็งแรงและแตกต่าง

อยากสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง? เริ่มจากการมี ที่ปรึกษาสร้างแบรนด์ ที่ใช่

ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันสูงขึ้นทุกวัน การมีสินค้าที่ดีอาจไม่พออีกต่อไป การมีแบรนด์ที่แข็งแรงและเป็นที่จดจำคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน แต่การสร้างแบรนด์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์ที่เฉียบคมและความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง  หนึ่งในกุญแจที่จะทำให้แบรนด์แข็งแรงตั้งแต่แรกคือการมี ที่ปรึกษาการสร้างแบรนด์ (Brand Consulting) ที่รู้ทางลัดและช่วยเลี่ยงการลองผิดลองถูก 

ที่ ปรึกษา สร้าง แบรนด์ ทำอะไรบ้าง?

หลายคนอาจสงสัยว่าการจ้าง ที่ปรึกษาการสร้างแบรนด์ คุ้มค่าจริงไหม? และพวกเขาจะเข้ามาช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร? 
หน้าที่หลักของ ที่ปรึกษาการสร้างแบรนด์ Brand Consultant คือการเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยวางรากฐานและกำหนดทิศทางของแบรนด์ให้ชัดเจน

  • Brand Strategy & Brand Positioning 
    : กำหนดทิศทางชัดเจนว่าแบรนด์จะอยู่ตรงไหนของตลาด ตอบโจทย์ใคร และมีคุณค่าที่แตกต่างจากคู่แข่งยังไง
     
  • Identity Development
    : แปลงกลยุทธ์เป็นสิ่งจับต้องได้ เช่น โลโก้ ภาพลักษณ์ โทนเสียง การเลือกสื่อ เพื่อให้แบรนด์มีบุคลิกที่ชัด
     
  • Customer Experience
    : วางแผนประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับจากทุก Touchpoint เช่น โซเชียลมีเดีย, ร้านค้า, แพ็กเกจจิ้ง
     
  • Communication Plan
    : ออกแบบวิธีเล่าเรื่องและสื่อสารกับลูกค้า ให้ภาพจำและคุณค่าเชื่อมโยงกับตัวตนของแบรนด์
     

ถ้าไม่มีที่ปรึกษา เจ้าของธุรกิจมักจะมองแต่ “สิ่งที่อยากพูด” แทนที่จะคิดว่า “ลูกค้าอยากได้ยินอะไร”

อยากให้แบรนด์ของคุณมีทิศทางที่ชัดเจนตั้งแต่แรก? ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญ WizeMoves Consult ช่วยวางกลยุทธ์แบรนด์และ Positioning ที่แตกต่าง

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ที่ธุรกิจควรรู้

การสร้างแบรนด์ไม่ใช่โปรเจกต์ครั้งเดียว แต่เป็น “กระบวนการ” ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยมี 5 ขั้นตอนหลัก:

  1. วิเคราะห์ตลาดและกลุ่มเป้าหมาย

    • ศึกษาตลาด คู่แข่ง พฤติกรรมลูกค้า
       
    • หาคำตอบว่า “ลูกค้าต้องการอะไร” และ “เขามองแบรนด์เรายังไงตอนนี้”
       
    • Insight ที่แม่น คือหัวใจที่จะพาแบรนด์ไปถูกทาง
       
  2. สร้าง Brand Identity

    • โลโก้, โทนสี, ฟอนต์, ภาษาของแบรนด์ (Tone of Voice)
       
    • ออกแบบให้สะท้อนบุคลิกแบรนด์ เช่น พรีเมียม, เป็นกันเอง, หรือเชื่อถือได้
       
    • ต้องสอดคล้องกับความรู้สึกที่อยากให้ลูกค้าจดจำ
       
  3. วาง Brand Positioning

    • ระบุตำแหน่งในตลาด: เราคือ “ใคร” ที่แตกต่างจากคู่แข่ง
       
    • เช่น แบรนด์กาแฟ → จะเป็น “กาแฟหรู” หรือ “กาแฟเข้าถึงง่าย”
       
    • Positioning ชัด ลูกค้าจะเข้าใจทันทีว่าแบรนด์คุณยืนอยู่ตรงไหน
       
  4. การสื่อสารต่อเนื่อง

    • ใช้ทุกช่องทาง (Facebook, TikTok, Website, PR) เพื่อสื่อสารภาพเดียวกัน
       
    • ไม่ใช่วันหนึ่งหรูหรา อีกวันเป็นกันเอง  ลูกค้าจะงง
       
    • consistency = ความน่าเชื่อถือ

วัดผลและปรับกลยุทธ์ในงาน Branding

1. วัดผลด้วย KPI ของแบรนด์ (Brand Metrics)

การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่เรื่องโลโก้หรือแคมเปญที่สวย แต่ต้องวัดผลได้จริงว่ามัน “สร้างคุณค่า” หรือ “สร้างการจดจำ” ได้มากน้อยแค่ไหน

  • Brand Awareness (การรับรู้แบรนด์)
    : สัดส่วนคนที่รู้จัก/นึกออกเมื่อนึกถึงหมวดสินค้า : วัดด้วยแบบสอบถาม, การค้นหา (Search Volume), Social Listening
     
  • Brand Consideration (การพิจารณา)
    : เมื่อลูกค้าจะซื้อสินค้าในหมวดเดียวกัน เขาคิดถึงแบรนด์คุณเป็นตัวเลือกหรือเปล่า : วัดด้วย Customer Survey, Poll, Market Research
     
  • Brand Preference & Loyalty (ความชื่นชอบ/ความภักดี)
    : สัดส่วนลูกค้าที่เลือกแบรนด์ซ้ำหรือแนะนำต่อ : วัดด้วย Repurchase Rate, NPS (Net Promoter Score)
     
  • Emotional Connection (ความผูกพันทางอารมณ์)
    : ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์นี้ “ใช่” สำหรับเขาหรือไม่ : วัดจากการมีส่วนร่วมเชิงบวก, UGC (User Generated Content) และการพูดถึงแบรนด์บนโซเชียล
    ใช้ Social Listening ของ WizeSight เพื่อติดตามเสียงลูกค้าและวิเคราะห์อารมณ์ที่มีต่อแบรนด์ ช่วยให้ปรับกลยุทธ์สื่อสารได้ตรงใจยิ่งขึ้น : ZOCIAL EYE - Wisesight 


2. ใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์เชิงลึก

การทำ Branding ต้องใช้ ทั้งข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative) และ เชิงคุณภาพ (Qualitative)

  • เชิงปริมาณ: Social Media Analytics, Google Trends, Website Analytics
     
  • เชิงคุณภาพ: Focus Group, Customer Interview, Review Analysis

เช่น ถ้า Awareness สูง แต่ Conversion ต่ำ อาจแปลว่าลูกค้ารู้จักแบรนด์แต่ยังไม่เชื่อถือ ต้องกลับไปปรับ Messaging หรือ Proof of Trust


3. การปรับกลยุทธ์ Branding ให้สอดคล้องกับตลาด

การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่ “ครั้งเดียวจบ” แต่เป็นการปรับภาพลักษณ์และการสื่อสารตลอดเวลา

  • เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน
    : เช่น คนเริ่มเน้น Sustainability ปรับแบรนด์ให้ชัดว่ามี Eco-Friendly Process
     
  • เมื่อคู่แข่งขยับ
    : ถ้าคู่แข่งสื่อสาร Narrative ใหม่ที่ได้ผล คุณต้องหามุมใหม่ที่แตกต่างและน่าจดจำ
     
  • เมื่อแบรนด์โตขึ้น
    : จาก Local → Regional → Global → ต้องรีแบรนด์บางจุด เช่น การสื่อสารภาษา, Tone of Voice, Visual Identity

    4. วงจร Branding Strategy (Brand Loop)

เพื่อให้แบรนด์ไม่หยุดนิ่ง ควรทำเป็นวงจร (Cycle)

  • Define: กำหนดภาพลักษณ์และคุณค่า (Brand Value)
     
  • Execute: สื่อสารผ่าน Touchpoints ต่าง ๆ
     
  • Measure: วัดด้วย Brand Metrics
     
  • Refine: ปรับกลยุทธ์/Brand Message ให้ตรงกับ Insight ใหม่
     
  • Repeat: ทำซ้ำเป็นวงจร

การสร้างแบรนด์ที่แข็งแรงต้องอาศัยทั้งการ วางรากฐานที่ชัด และ การปรับตามตลาดอย่างยืดหยุ่น
เพราะแบรนด์ที่หยุดวัดผล = แบรนด์ที่ไม่รู้ว่ากำลัง “อยู่ในใจลูกค้า” จริงหรือไม่

วิธีสร้างแบรนด์ให้แตกต่างและน่าจดจำ

ในตลาดที่มีคู่แข่งเต็มไปหมด “การแตกต่าง” คือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าเลือกคุณ 

วิธีสร้างแบรนด์ให้แตกต่าง

  • Brand Storytelling
    : เล่าเรื่องที่สะท้อนคุณค่าของแบรนด์ ไม่ใช่ขายของตรง ๆ เช่น แบรนด์สุขภาพ → เล่าเรื่อง “การใช้ชีวิตที่ดีขึ้น”
     
  • Emotional Branding
    : ให้ลูกค้ารู้สึกว่าการใช้สินค้าคือการ “เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่า” เช่น Apple ไม่ขายแค่ iPhone แต่ขายความเป็น “นวัตกรรมที่เปลี่ยนโลก”
     
  • สร้าง Touchpoint ที่จำได้
    : ทุกการสัมผัสต้องสอดคล้อง เช่น พนักงานพูดจา, แพ็กเกจจิ้ง, หรือแม้แต่กลิ่นในร้าน → คือส่วนหนึ่งของประสบการณ์แบรนด์
     
  • ความหมายมากกว่าสินค้า
    : ลูกค้าไม่ได้ซื้อกาแฟ = เขาซื้อ “ช่วงเวลาพักผ่อน” ลูกค้าไม่ได้ซื้อครีม = เขาซื้อ “ความมั่นใจในตัวเอง”

 ถ้าแบรนด์คุณไม่สามารถบอกได้ว่า “ลูกค้าได้อะไรทางใจ” คุณยังไม่ใช่แบรนด์ที่คนจดจำ

ตัวอย่าง การ สร้าง แบรนด์ : จากแบรนด์ที่ลูกค้าจำไม่ได้  สู่แบรนด์ที่ติดอันดับ 1 บนการค้นหา และถูกพูดถึง-แชร์ต่อบนทุกแพลตฟอร์ม

ปัญหาของลูกค้า

แบรนด์สินค้าเดิม ลูกค้าจำไม่ได้ เพราะภาพจำไม่ชัด ทั้งชื่อแบรนด์และ Positioning ทำให้เวลาลูกค้าเสิร์ชหาสินค้าในหมวดเดียวกัน มักเจอแต่คู่แข่งที่สื่อสารได้ดีกว่า

ผลคือ…

  • ยอดขายไม่เติบโต แม้ลงทุนทำคอนเทนต์เอง
     
  • ลูกค้าเลื่อนผ่าน ไม่รู้ว่าสินค้านี้ต่างจากคู่แข่งยังไง
     
  • ผลการค้นหาของแบรนด์แทบไม่ติดอันดับ ทำให้เสียโอกาสทางการตลาด

กลยุทธ์ที่ WizeMoves Consult ที่ปรึกษา สร้างแบรนด์ เข้าไปช่วย

หลังจากการวิเคราะห์ Insight ของกลุ่มเป้าหมาย เราพบว่า ลูกค้าต้องการความมั่นใจและภาพลักษณ์ที่ชัดเจน แต่แบรนด์ยังไม่เคยสื่อสารในทิศทางนั้นเลย

สิ่งที่เราลงมือทำคือ:

  1. Brand Insight & Positioning

    • รีเซ็ตภาพจำแบรนด์ใหม่ให้ชัดเจนขึ้น
       
    • สร้าง Key Message ที่ตอบ Pain Point ของลูกค้า
       
  2. Influencer Marketing ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายจริง

    • เลือก Influencer ที่ตรงกับ Persona ไม่ใช่แค่ดัง
       
    • วาง Storytelling ที่ทำให้รีวิวดูจริง แต่เชื่อมโยงกับจุดแข็งของแบรนด์

       
  3. SEO Integration

    • ทำคอนเทนต์คู่กับคีย์เวิร์ดของหมวดสินค้านั้น ๆ
       
    • สร้าง Traffic ที่มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่ View
       

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

  • แบรนด์เริ่มถูกพูดถึงและจดจำได้มากขึ้น : เพราะ Influencer เล่าเรื่องในมุมที่ตรงกับกลุ่มเป้า
  • ยอด Search เพิ่มขึ้น : ลูกค้าเสิร์ชชื่อแบรนด์เองมากขึ้น
  • ติดอันดับ 1 ในการพูดถึงบนแพลตฟอร์มต่างๆ  ในหมวดสินค้านั้น (ปี 2022) : จากที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงบนโซเชียล สู่อันดับหนึ่งที่คนพูดถึงและแชร์บนแพลตฟอร์มต่างๆ
  • ยอดขายเติบโตขึ้น : เพราะลูกค้าเชื่อมโยงแบรนด์กับความน่าเชื่อถือและรีวิวจริง
     

บทเรียนจากเคสนี้

 “แบรนด์ที่จำไม่ได้ = แบรนด์ที่ลูกค้าไม่ซื้อ”  การสร้างภาพจำต้องใช้ทั้ง Insight + Influencer + SEO ทำงานร่วมกัน ถึงจะเปลี่ยนแบรนด์จากที่ลูกค้ามองข้าม สู่แบรนด์ที่อยู่ในใจและเจอบนหน้าจอ

การเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือสร้างยอดขาย แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างแบรนด์ให้ “ชัดเจนและน่าจดจำ” อีกด้วย เพราะเมื่ออินฟลูฯที่ใช่ ถ่ายทอดเรื่องราวและคุณค่าของแบรนด์ในมุมที่ลูกค้าสนใจ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่แค่ Reach แต่คือ “ภาพจำ” ที่อยู่ในใจกลุ่มเป้าหมาย

ถ้าหากคุณกำลังเจอปัญหาในการสร้างแบรนด์สินค้าอยู่ ให้ทีมที่ปรึกษาการสร้างแบรนด์ WizeMoves ช่วยคุณในการสร้างแบรนด์ให้เป็น Top of mind ของลูกค้า

หากคุณอยากรู้ว่าแบรนด์จะเลือก Influencer ยังไงให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจ และช่วยยกระดับภาพลักษณ์ได้จริง
แนะนำให้อ่านบทความนี้ต่อ: หาอินฟลูเอนเซอร์ อย่างไรให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจ


ที่ปรึกษาสร้างแบรนด์ vs ลงมือทำเอง : อะไรคุ้มค่ากว่ากัน?

  • ทำเอง:

    • แน่นอนว่า ประหยัดงบ
       
    • แต่เสี่ยงหลงทาง ลองผิดลองถูก เสียทั้งเวลาและโอกาส
       
    • ขาดมุมมองจากคนนอกที่เป็นกลาง

       
  • ที่ปรึกษาสร้างแบรนด์:

    • ได้กลยุทธ์ที่ชัดเจนและเป็นระบบ
       
    • ลดความเสี่ยงจากการเดินทางผิด
       
    • ได้ Insight และเทคนิคที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว
       
    • ทำให้ SME ใช้งบอย่างคุ้มค่า ไม่เปลืองไปกับการลองผิดลองถูก

การลงทุนกับที่ปรึกษา = การซื้อเวลา + ซื้อความมั่นใจ ว่าก้าวที่คุณเดินจะไม่สูญเปล่า

ถ้าไม่อยากเสียเวลาและงบไปกับการลองผิดลองถูก ถึงเวลาคุยกับทีมที่ปรึกษาของ WizeMoves Consult ที่ปรึกษาสร้างแบรนด์ ที่จะช่วยให้ทุกก้าวของคุณแม่นยำกว่าเดิม

ทำไมต้อง WizeMoves Consult

  • เราไม่ใช่แค่ ที่ปรึกษา แต่เป็น เพื่อนร่วมทีมธุรกิจ
     
  • เชี่ยวชาญหลายอุตสาหกรรม: อาหารเสริม, สกินแคร์, F&B, e-Commerce
     
  • ทำงานแบบ Data-driven  วางกลยุทธ์จากข้อมูลจริง ไม่ใช่แค่ความรู้สึก
     
  • ทีมครบ: Branding + Influencer Marketing + Digital Strategy  ช่วยให้แบรนด์คุณชัดเจน + ถูกจดจำ + ขายได้จริง
     

สรุป – ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจคุณควรมี ‘ที่ ปรึกษา การ สร้าง แบรนด์’

       การสร้างแบรนด์ไม่ใช่เรื่องของโลโก้สวย ๆ หรือแพ็กเกจจิ้งเท่านั้น แต่คือการวางกลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจ ชัดเจนในตลาด และ อยู่ในใจลูกค้า อย่างต่อเนื่อง หากคุณยังเดินเกม Branding ด้วยการลองผิดลองถูก นั่นคือการเสียเวลาและโอกาสที่อาจทำให้คู่แข่งวิ่งแซงไปก่อน
        ถึงเวลาที่คุณควรให้ผู้เชี่ยวชาญที่ ปรึกษา สร้าง แบรนด์ช่วยวางกลยุทธ์ ตั้งแต่ การหาตำแหน่งแบรนด์ (Positioning), การเล่าเรื่อง (Storytelling), การใช้ Influencer ที่ตรงกลุ่ม ไปจนถึงการ ต่อยอดด้วย SEO และ Data-driven Marketing เพื่อให้แบรนด์ของคุณเป็นมากกว่า “สินค้า” แต่เป็น “ตัวเลือกแรกในใจลูกค้า”
ถ้าคุณอยากให้แบรนด์ของคุณแข็งแรง แตกต่าง และเติบโตจริง
        อย่าปล่อยให้แบรนด์ของคุณเป็นเพียงชื่อในตลาด แต่ให้มันกลายเป็น ‘ตัวเลือกแรกในใจลูกค้า’ เริ่มต้นวันนี้กับ WizeMoves Consult

หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจที่เชี่ยวชาญต้องนึกถึง Sellsuki ผู้ช่วยธุรกิจออนไลน์ที่ครบเครื่องมากที่สุด ผู้ช่วยมองหาทางที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ

 

หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจติดต่อ Sellsuki ได้เลย เพราะเรามีบริการครบวงจรบนโลกธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น บริการที่ปรึกษาธุรกิจการตลาดแบบครบวงจร หรือ WizeMoves Consult ผู้ช่วยจัดจำหน่ายออนไลน์ครบวงจร ดูแลครอบคลุมทุกขั้นตอนการขาย หรือ WizeMoves e-Dis บริการโฆษณาออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม (WizeMoves Ads) บริการดูแล LINE Official Account ครบวงจร ที่มีลูกค้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ กว่า 9,000 บัญชี พร้อมด้วย Akita Fulfillment บริการคลังสินค้าครบวงจร และบริการด้านอื่นๆ อีกมากมายที่ Sellsuki มีพร้อมให้คุณ

 

 

 

 

แท็ก BrandingCase Study

แชร์

บทความนี้มีประโยชน์กดชอบเป็นกำลังใจให้เราได้
Like this article