ทำ Branding ยังไงให้ซื้อใจกลุ่ม Gen Z ได้จริง – คู่มือที่ธุรกิจต้องรู้
ในปี 2025 Gen Z (อายุ 18–28 ปี) ไม่ได้เป็นแค่ผู้บริโภครุ่นใหม่ แต่กำลังกลายเป็น “พลังขับเคลื่อนตลาด” ของไทยอย่างแท้จริง เพราะวันนี้พวกเขามีสัดส่วนถึง 35% ของประชากรไทยทั้งหมด (ข้อมูลจาก : สมาคมการพิมพ์ไทย) และยังมีกำลังซื้อที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สิ่งนี้หมายความว่า... ถ้าแบรนด์ของคุณ ยังไม่รู้วิธีทำ Branding ให้เข้าถึง Gen Z ได้จริง ๆ คุณอาจกำลังพลาดโอกาสเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้บริโภคที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอนาคตอันใกล้
ทำไม Gen Z ถึงเป็นกลุ่มที่ธุรกิจต้องโฟกัสในการทำ Branding
- ฐานลูกค้าใหม่ที่โตเร็วที่สุด
: Gen Z คิดเป็นกว่า 35% ของประชากรไทย และกำลังเข้าสู่วัยทำงานเต็มตัว กลายเป็นกำลังซื้อสำคัญที่จะเป็นฐานหลักของธุรกิจในอีก 5–10 ปีข้างหน้า - อิทธิพลต่อครอบครัว
: ไม่ใช่แค่ซื้อของให้ตัวเอง แต่ Gen Z มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจซื้อของครอบครัว เช่น ช่วยเลือกมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ของใช้ในบ้าน - ไม่ยึดติดกับแบรนด์
: งานวิจัยหลายชิ้นบอกว่า กว่า 71% ของ Gen Z ไทยสามารถ “เปลี่ยนแบรนด์ได้ทันที” ถ้าเจอข้อเสนอที่ดีกว่า (ข้อมูลจาก : The Standard)หมายความว่าการแข่งขันสูงมาก และ Branding ต้องแข็งแรงพอให้เขา “กลับมาเลือกซ้ำ” - ให้คุณค่าเหนือราคา
: แม้จะมีความระมัดระวังด้านการเงิน แต่ Gen Z พร้อมจ่ายถ้าแบรนด์นั้นสะท้อนคุณค่าหรือภาพลักษณ์ที่ตรงกับ “ตัวตน” ของพวกเขา เช่น รักษ์โลก, เท่าเทียม, หรือสนับสนุน Diversity
Gen Z มองหาอะไรจากแบรนด์? Insight ที่ธุรกิจต้องรู้ก่อนทำ Branding
- Authenticity (ความจริงใจ)
: Gen Z เกลียดการตลาดที่เฟคหรือขายตรงเกินไป พวกเขาต้องการเห็น “ความเป็นมนุษย์” ของแบรนด์ เช่น การสื่อสารที่จริงใจ การยอมรับข้อผิดพลาด และการเล่าเรื่องเบื้องหลังที่ไม่ปรุงแต่ง - Value-Driven (คุณค่าแบรนด์)
: Gen Z สนใจว่าแบรนด์ยืนอยู่ตรงไหน เช่น สนับสนุนสิ่งแวดล้อม, ความเท่าเทียม, หรือการสร้างสังคมที่ดีกว่า - Engagement (การมีส่วนร่วม)
: Gen Z อยากให้แบรนด์ “คุยด้วย ไม่ใช่พูดฝ่ายเดียว” พวกเขาชอบแบรนด์ที่โต้ตอบในคอมเมนต์ หรือเปิดโอกาสให้ร่วมออกความคิดเห็น
Tips : การทำ Poll หรือ Q&A ใน IG Stories ให้ลูกค้ารู้สึกว่าเสียงของเขามีความหมาย - Personalization (ความเฉพาะตัว)
: คาดหวังประสบการณ์ที่ตรงกับตัวเองมากกว่าเจนไหนๆ ถ้าโฆษณาที่เห็นไม่ตรงใจ = เลื่อนทิ้งทันที
1.เล่า Brand Story แบบจริงใจ ไม่ปรุงแต่ง
Gen Z เกลียดที่สุดคือการ “ขายตรง” แบบทื่อ ๆ พวกเขามี radar จับได้ทันทีว่าแบรนด์พูดเกินจริงหรือแค่สร้างภาพ
สิ่งที่ควรทำ:
- ใช้โครงสร้าง : Problem → Insight → Solution
เช่น ถ้าคุณขายสกินแคร์ →
Problem: คนรุ่นใหม่แพ้ง่ายเพราะมลภาวะ
Insight: Gen Z ไม่อยากฟังศัพท์วิทยาศาสตร์ยาก ๆ แต่ต้องการวิธีแก้ที่เข้าใจง่าย
Solution: คุณเลยออกแบบเซรั่มที่ “อ่อนโยนจริง ๆ” พร้อมรีวิวจริงจากผู้ใช้ - แชร์ เบื้องหลังจริง ๆ เช่น ทีมงานที่ทำงานหนัก, โรงงานที่ใช้พลังงานสะอาด, หรือ founder ที่เริ่มจากปัญหาส่วนตัวแล้วพัฒนาเป็นสินค้า
- เน้น “เรื่องราว” แทน “คุณสมบัติ” → แทนที่จะพูดว่า “เราใช้ขวดแก้วรีไซเคิล” ให้เล่าว่า “ขวดแต่ละใบคือการช่วยลดขยะจากทะเลไทย 1 ชิ้น” → ลูกค้าอินมากกว่า
2. สร้าง Brand Experience ในทุก Touchpoint
Gen Z ไม่ได้ judge คุณจาก Ads อย่างเดียว แต่จาก “ทุกจุดสัมผัส” (touchpoint) ตั้งแต่เห็นโฆษณา → ซื้อ → ใช้ → บริการหลังการขาย
ก่อนซื้อ
- Ads/คอนเทนต์ต้อง ตรง pain point เช่น ทำคลิปสั้น “ทำไมครีมซองใน 7-11 ถึงช่วยแก้ปัญหาผิวมันได้จริง”
- ใช้ภาษาง่าย ๆ + meme culture + real review
ระหว่างซื้อ
- UX เว็บไซต์/แอปต้อง เร็ว ง่าย คลิกไม่เกิน 3 ครั้ง
- Checkout ไม่ซับซ้อน รองรับ e-wallet / QR (Gen Z ชอบความเร็วมากกว่าบัตรเครดิต)
หลังซื้อ
- Follow-up : ส่งอีเมล/DM “วิธีใช้ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด”
- Content care tips : เช่น “How-to เก็บผลิตภัณฑ์ให้คงคุณภาพ”
- Community : สร้างกลุ่ม Discord/LINE OA ที่ลูกค้าแชร์ประสบการณ์ได้
Tips : “อย่าทำให้ Gen Z รู้สึกว่าคุณหายไปหลังจากได้เงินแล้ว”
3.ใช้ Influencer + Creator Economy ให้ถูกจุด
Gen Z “เชื่อเพื่อนมากกว่าเชื่อแบรนด์” อินฟลูเอนเซอร์ = ตัวกลางสำคัญ แต่ต้องเลือกถูก
สิ่งที่ควรทำ:
- เลือก Micro/Nano Influencer (ผู้ตาม 10K–100K) : คนกลุ่มนี้มี engagement rate สูงกว่า เพราะ followers เป็นแฟนจริง ๆ
- ดู demographic followers ว่าตรงกับ Gen Z หรือไม่ : เช่น อายุ 18–24, สนใจไลฟ์สไตล์/การเรียน/ความบันเทิง
- ให้อิสระ creator : แค่กำหนด key message แต่ให้เขาเล่าในสไตล์ตัวเอง คอนเทนต์จะดู real
หากคุณยังไม่รู้ว่าจะหาอินฟลูเอ็นเซอร์จากช่องทางไหนได้บ้าง สามารถอ่านบทความ : หาอินฟลูเอนเซอร์ยังไง? คู่มือเลือก Influencer รีวิวสินค้าให้ปัง
4.Personalization ที่ไม่ล้ำเส้น
Gen Z คาดหวังว่าแบรนด์ต้องเข้าใจเขา แต่ก็ไม่ชอบถูก stalk แบบ creepy
สิ่งที่ควรทำ:
- ใช้ Data segmentation เช่น
- ถ้าเคยดูสินค้ากีฬา เสนอคอนเทนต์ “5 วิธีเลือกชุดวิ่งที่เหมาะกับคุณ”
- ถ้าเคยซื้อวิตามิน ส่งคอนเทนต์ “เคล็ดลับการกินร่วมกับอาหารให้ได้ผลดีที่สุด”
- ทำให้ลูกค้ารู้ว่า “เราเห็นคุณ แต่เราเคารพคุณ” ใช้ข้อความโปร่งใส เช่น “เราแนะนำตามสิ่งที่คุณค้นหาเมื่อสัปดาห์ก่อน”
- อย่า over : ยิง ads เดิมซ้ำ ๆ จะทำให้โดน block ใช้ frequency cap หรือ rotation message
WizeMoves Consult มีผู้เชี่ยวชาญช่วยวิเคราะห์ Segment Gen Z ไม่ใช่แค่ตามอายุ/เพศ แต่ลงลึกถึง Pain Point และ Insight ที่ทำให้ Personalization “ตรงใจจริง ๆ” และช่วยทำ Branding ให้ชัดและเข้าใจ Gen Z ได้จริงๆ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
5.ทำ Purpose-Driven Branding
Gen Z สนใจว่าแบรนด์ ยืนอยู่ข้างไหน ไม่ใช่แค่ขายอะไร
- สิ่งแวดล้อม: ใช้วัสดุรักษ์โลก, ลดคาร์บอน, ทำ refill station
- สังคม: สนับสนุน Diversity, Gender Equality, Community local
- โปร่งใส: บอกทั้งสิ่งที่ทำสำเร็จ และสิ่งที่ยังทำไม่ได้
วิธีเล่า Purpose ที่โดนใจ:
- เล่าผ่าน story เช่น “ทุกปีขวดพลาสติกของเรา 40% ไม่ได้ถูกรีไซเคิล → เราเลยตั้งจุดรับคืน 200 จุด”
- มี ตัวเลขจริง “ลดการใช้พลาสติกใหม่ไปแล้ว 12 ตัน”
- เปิดโอกาสให้ ลูกค้ามีส่วนร่วม เช่น hashtag campaign, UGC
Tips : Gen Z จะเชื่อคุณก็ต่อเมื่อ “คุณทำจริง + ทำต่อเนื่อง” ไม่ใช่โพสต์เฉพาะวันสิ่งแวดล้อม
กับดักที่หลายแบรนด์พลาดในการทำ Branding กับ Gen Z
- พูดแต่สินค้า แต่ไม่พูด “คุณค่า”
- ใช้ Influencer ดัง แต่ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
- คอนเทนต์ยาวเกิน ไม่เข้าใจพฤติกรรม “สั้น กระชับ ไว”
- Branding ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ไม่ถูกจดจำ
สรุป – ทำ Branding ให้ Gen Z ต้อง “จริงใจ + สม่ำเสมอ + มีคุณค่า”
Gen Z ไม่ต้องการแบรนด์ที่ “ขายเก่ง” แต่ต้องการแบรนด์ที่ “เข้าใจและอยู่ข้างเขา” ถ้าคุณอยากซื้อใจพวกเขา ต้องผสม Brand Story + Brand Experience + Data + Value เข้าด้วยกันและตัวเลขก็บอกชัดว่า Gen Z ไทยกำลังจะกลายเป็นกำลังซื้อหลักของประเทศ ในอีก 5–10 ปีข้างหน้า ถ้ายังแข่งด้วย “ราคา” คุณอาจพลาดโอกาสสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้บริโภคกลุ่มนี้
ถ้าไม่อยากให้แบรนด์คุณ “หลุดเรดาร์” ของ Gen Z ลองปรึกษา WizeMoves Consult เราช่วยออกแบบ Branding ที่จริงใจ สอดคล้องกับคุณค่า และสร้างประสบการณ์ที่ Gen Z อยากเลือกซ้ำ ปรึกษาฟรี 30 นาที แล้วคุณจะเห็นว่า Branding ที่ดี = กำไรระยะยาว
หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจที่เชี่ยวชาญต้องนึกถึง Sellsuki ผู้ช่วยธุรกิจออนไลน์ที่ครบเครื่องมากที่สุด ผู้ช่วยมองหาทางที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ
หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจติดต่อ Sellsuki ได้เลย เพราะเรามีบริการครบวงจรบนโลกธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น บริการที่ปรึกษาธุรกิจการตลาดแบบครบวงจร หรือ WizeMoves Consult ผู้ช่วยจัดจำหน่ายออนไลน์ครบวงจร ดูแลครอบคลุมทุกขั้นตอนการขาย หรือ WizeMoves e-Dis บริการโฆษณาออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม (WizeMoves Ads) บริการดูแล LINE Official Account ครบวงจร ที่มีลูกค้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ กว่า 9,000 บัญชี พร้อมด้วย Akita Fulfillment บริการคลังสินค้าครบวงจร และบริการด้านอื่นๆ อีกมากมายที่ Sellsuki มีพร้อมให้คุณ