mdi_eye : 12 ph_share-bold : 0 charm_sound-down
อ่าน

การตลาด Influencer คืออะไร? ส่องข้อดี–ข้อเสีย และทริคทำให้ได้ผลจริง

การตลาด Influencer (influencer Marketing) คืออะไร? ข้อดีและข้อเสีย และทริคการปรับใช้ให้ได้ผลจริง

ทุกวันนี้ คนดูไม่ได้อยากฟังโฆษณา… เขาอยากฟัง “คนที่เขาเชื่อ” และนี่คือเหตุผลที่ การตลาด Influencer กลายเป็นกลยุทธ์ที่ทุกแบรนด์ต้องมีในปี2025และยังคงต้องทำในปีถัดไป

ในยุคที่ฟีดโซเชียลเลื่อนเร็วกว่าความอดทนของผู้บริโภคแบรนด์ที่ “ถูกพูดถึงโดยคนที่คนอื่นเชื่อ” จะชนะได้เร็วกว่าการพูดเองเป็นร้อยครั้ง

ข้อมูลรายงาน Insight เกี่ยวกับกาทำ การตลาด Influencer เผยว่า

  •  82% ของแบรนด์ ระบุว่าการใช้ การตลาด Influencer ให้ผลลัพธ์ทางการตลาดดีกว่าวิธีโฆษณาแบบเดิม เช่น เพิ่มยอด Lead Generation จำนวน คลิก และ Engagement โดยรวม (ข้อมูลจาก : MarketingOops )
     
  • 92% ของผู้บริโภคไทย บอกว่า “พวกเขาเชื่อคำแนะนำจาก Influencer” มากกว่าการดูโฆษณาโดยตรง (ข้อมูลจาก : MarketingOops )

รีวิวเพียง 1 คลิปจากคนที่ลูกค้าไว้ใจ อาจมีพลังมากกว่า TV ทั้งแคมเปญ เพราะสิ่งที่ Influencer ขายไม่ใช่ “สินค้า” แต่คือ “ความน่าเชื่อถือ”

การตลาด Influencer คืออะไร และทำไมแบรนด์ยุคนี้ต้องรู้จัก

ลองคิดง่าย ๆ ทุกวันนี้คนเลื่อนผ่านโฆษณาวันละกี่สิบตัว แต่กลับ “หยุดดู” ทันทีเมื่อเห็นคนที่ตัวเองติดตามพูดถึงสินค้า นั่นแหละคือพลังของ การตลาด  Influencer

นิยามแบบเข้าใจง่าย

การตลาด Influencer (Influencer Marketing ) คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ “ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์” หรือคนที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น YouTuber, TikToker, Blogger หรือ Creator บนแพลตฟอร์มต่าง ๆมาเป็นสื่อกลางในการเล่าเรื่องแทนแบรนด์

แต่สิ่งสำคัญคือ “เขาไม่ได้ขายของแบบตรง ๆ” แต่ใช้วิธีเล่าประสบการณ์จริง แชร์ความรู้สึก หรือรีวิวจากการใช้จริง ทำให้คนดู รู้สึกเชื่อมากกว่าเห็นโฆษณา

ต่างจากการตลาดแบบเดิมยังไง?

ในอดีตแบรนด์ใช้โฆษณาทีวี ป้ายบิลบอร์ด หรือยิงแอดกว้าง ๆ เพื่อให้คนเห็นเยอะ แต่ตอนนี้ผู้บริโภคไม่ได้ตัดสินใจจากการ “เห็นบ่อย” อีกต่อไป เขาตัดสินใจจาก “ใครพูดถึง” และ “พูดยังไง” มากกว่า
เพราะ Trust > Reach
“หนึ่งเสียงที่เชื่อถือได้” มีค่ามากกว่าพันวิวจากแอดที่ไม่มีอารมณ์ร่วม

ยิ่งในยุคโซเชียล คนใช้เวลาเฉลี่ยกว่า 3–5 ชั่วโมงต่อวันบนออนไลน์การตลาดที่ใช้ “คนจริง” สื่อสารแทนแบรนด์ จึงเข้าถึงใจผู้บริโภคได้เร็วกว่ามาก

การตลาด Influencer ทำงานยังไง?

แนวคิดหลักของมันคือ “Social Proof” หรือ “หลักฐานทางสังคม” เมื่อผู้คนเห็นว่าคนอื่น โดยเฉพาะคนที่พวกเขาเชื่อ ใช้สินค้าพวกเขาจะรู้สึกมั่นใจ และอยากลองใช้ตาม

Influencer จึงทำหน้าที่ “ยืมความเชื่อใจของผู้ชม” มาเชื่อมต่อกับแบรนด์

  • สื่อสารคุณค่า
  • สร้างภาพลักษณ์
  • และพาไปจนถึงการตัดสินใจซื้อ

 จาก Awareness สู่ Conversion

การตลาด Influencer  ไม่ได้จบที่ “การพูดถึง”แต่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์แบบครบ Funnel ได้เลย

  • Awareness: ให้คนรู้จักแบรนด์ผ่าน Creator ที่พูดถึงบ่อย ๆ
  • Consideration: ใช้รีวิวจริงช่วยตอบข้อสงสัย
  • Conversion: ทำคอนเทนต์รีวิวหรือ Challenge ที่ชวนคนกดซื้อ
  • Loyalty: สร้างคอมมูนิตี้ผ่าน Creator ที่สื่อสารกับแฟน ๆ อย่างต่อเนื่อง

สรุปง่าย ๆ

การตลาด Influencer = การเปลี่ยน “คำพูดของแบรนด์” ให้กลายเป็น “เสียงจากคนที่ผู้บริโภคเชื่อ”มันไม่ใช่แค่ช่องทางโฆษณาใหม่ แต่คือเครื่องมือสร้าง TrustEngagement, และ Brand Relationship ที่ยั่งยืนกว่าการยิงแอดหลายเท่า

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าแบรนด์ของคุณควรเริ่มจากจุดไหน — ทีม WizeMoves Consult สามารถช่วยวิเคราะห์ว่า Influencer Marketing ว่าควรเริ่มจาก Funnel ไหน และต้องทำ กลยุทธ์ไหนเพิ่มเติมเพื่อให้สร้างยอดขายได้จริง ปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Influencer Marketing ฟรี 30 นาที

 ข้อดีของการตลาด Influencer

1. สร้างความน่าเชื่อถือได้เร็ว

Influencer คือ “ทางลัดของความไว้ใจ”เพราะในโลกที่คนเจอโฆษณานับไม่ถ้วน ผู้บริโภคเลือกเชื่อคนที่เขารู้สึก “ใกล้ตัวกว่า” มากกว่าแบรนด์ที่พูดเอง

จุดแข็งของ การตลาด Influencer  คือการสื่อสารผ่าน “คนจริง–ชีวิตจริง” ที่ผู้ติดตามเห็นมาตลอด พวกเขาไม่ใช่ดาราในจอ แต่คือเพื่อนในฟีดที่แชร์ประสบการณ์จากมุมมองของตัวเอง

ตัวอย่าง:

  • เมื่อบิวตี้บล็อกเกอร์คนหนึ่งพูดว่า “ลองใช้ครีมนี้จริง ๆ แล้วสิวไม่ขึ้น” ผลลัพธ์คือความเชื่อที่เกิดขึ้นทันที เพราะผู้ติดตามเห็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตจริง ไม่ใช่สคริปต์โฆษณา

สรุป: Influencer คือสะพานเชื่อม “แบรนด์ → ความน่าเชื่อถือ → การตัดสินใจซื้อ” ได้เร็วกว่าโฆษณาแบบเดิมหลายเท่า

2. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด

ทุก Influencer มี “Micro Community” ของตัวเอง ซึ่งมีพลังมากกว่าที่คิด การตลาดทั่วไปยิง Ads ไปหาคนวงกว้าง แต่ Influencer ยิงตรง “ใจของกลุ่มนั้น”

เช่น:

  • แบรนด์อาหารคลีน : ใช้ Fitness Influencer หรือเทรนเนอร์
  • แบรนด์แม่และเด็ก : ใช้คุณแม่บล็อกเกอร์
  • แบรนด์แฟชั่น : ใช้ Creator ที่มี DNA ของแบรนด์ เช่น สายมินิมอล หรือสายวินเทจ

เมื่อกลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่า “เขาเหมือนเรา” ก็จะเปิดใจฟัง และมีแนวโน้มซื้อสูงขึ้นด้วยเช่นกัน  นอกจากนี้ การตลาด Influencer ยังช่วยเจาะตลาดเฉพาะทางได้ดี เช่น แบรนด์สุขภาพ, สินค้าไลฟ์สไตล์, หรือเทคโนโลยี ที่ต้องการเล่าเรื่องลึก ๆ ให้เข้าใจง่ายผ่านคนที่พูดภาษาของลูกค้าได้

หากคุณไม่รู้ว่าจะเลือก Influencer ยังไงให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : หาอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ยังไง? คู่มือเลือกรีวิวสินค้าให้เหมาะกับแบรนด์

3. สร้างไวรัล / กระแสได้

Influencer มีความสามารถในการ “ทำให้คนอยากแชร์”โพสต์หนึ่งจาก Creator ที่เข้าใจอารมณ์ของผู้ติดตาม สามารถขยายจากหลักหมื่น Reach ไปถึงหลักล้านในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

เคล็ดลับความไวรัลอยู่ที่ 3 อย่าง:

  1. Timing: โพสต์ในช่วงกระแส หรือเทรนด์ที่กำลังมา เช่น เทศกาล, Hashtag ฮิต, หรือดราม่าที่เชื่อมกับสินค้า
  2. Tone: คอนเทนต์ต้อง “เรียลแต่เฉียบ”  ไม่ขายตรง แต่พูดเหมือนเพื่อนแชร์ประสบการณ์
  3. Trigger: มีจุดให้คนอยากมีส่วนร่วม เช่น Challenge, Meme, หรือ Message ที่โดนใจ

สรุป: การตลาด Influencer ช่วยสร้าง “แรงกระเพื่อม” ให้แบรนด์เป็นที่พูดถึงได้ในเวลาอันสั้น และเมื่อกระแสมา — ยอดขายก็มักตาม

 ข้อเสียที่แบรนด์ต้องระวังของการตลาด Influencer

1. ค่าใช้จ่ายบานปลายถ้าไม่มีแผน

การตลาด Influencer ดูเหมือนเข้าถึงง่าย แต่ถ้าไม่มีแผนที่ชัดเจน งบอาจรั่วแบบไม่รู้ตัว เพราะแต่ละ Creator มีเรทราคาแตกต่างกัน ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนต่อโพสต์

ปัญหาที่เจอบ่อย:

  • จ่ายแพงแต่เลือกคนไม่ตรงกลุ่ม
  • ทำหลายโพสต์แต่ไม่มีคอนเซ็ปต์รวม
  • ไม่มีการวัดผล ซ ไม่รู้ว่าคอนเทนต์ไหนขายได้จริง

Tips :
ควรตั้งงบต่อแคมเปญ + กำหนด KPI ตั้งแต่ต้น เช่น Cost per Engagement (CPE), Cost per Conversion (CPCV) หรือ ROI ต่อโพสต์ เพื่อวัดความคุ้มค่าได้จริง

2. จ้างผิดคน = เสียทั้งเงินและแบรนด์

หนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดคือการเลือก Influencer ที่ “ไม่ใช่แบรนด์คุณ”  บางคนมีชื่อเสียงแต่ tone เสียดสี ดราม่า หรือเคยรีวิวคู่แข่งมาก่อน  ภาพลักษณ์อาจพังได้ในโพสต์เดียว

ตัวอย่าง:

  • แบรนด์อาหารเสริมจ้าง Influencer ที่ไม่ได้ทานสินค้าจริง ผลคือรีวิวโดนจับโป๊ะ  คนไม่เชื่อแบรนด์อีกต่อไป
  • แบรนด์แฟชั่นจ้างดาราที่มีพฤติกรรมสวนทางกับคุณค่าที่แบรนด์ยึด (พูดเรื่อง sustainability แต่ใส่ fast fashion ทุกวัน)  คนดูกลับรู้สึกขัดแย้งมากกว่าอิน

Tips :
ทำ Screening ก่อนจ้างทุกครั้ง ดูทั้ง tone การพูด, audience, history การรับงาน และความเข้ากันได้กับ brand value

3. วัดผลยากถ้าไม่มีระบบ

อีกปัญหาใหญ่ของแบรนด์คือ “ทำแล้วไม่รู้ผล” รีวิวดูดี ยอดไลก์เยอะ แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าขายได้จริงไหม

สิ่งที่ควรมี:

  • Tracking Link / UTM สำหรับแต่ละ Influencer
  • Promo Code เฉพาะตัวเพื่อตรวจยอดขาย
  • Dashboard รวมผลทุกโพสต์ วัด CTR, Reach, CPM, Conversion

ทริค การปรับใช้ การตลาด Influencer ให้ได้ผลจริง 

  1. อัปเดตเทรนด์และปรับตัวเร็วกว่าใคร

    • โลกของอินฟลูฯ เปลี่ยนไวทุกวัน — แพลตฟอร์มใหม่, ฟีเจอร์ใหม่, กระแสใหม่
    • แบรนด์ต้องกล้าทดลองในงบเล็ก ๆ เพื่อเรียนรู้ก่อนใคร
    • เพราะในยุคที่คนเสพคอนเทนต์เร็ว การ “ตกขบวน” หมายถึงเสียโอกาสมหาศาล
  2. สร้างความน่าเชื่อถือก่อนยอดวิว

    • วาง Guideline การร่วมงานกับอินฟลูฯ อย่างโปร่งใส
    • เปิดเผยสปอนเซอร์, ห้ามกล่าวอ้างเกินจริง, และเลือกคนที่มี Tone of Voice ตรงกับแบรนด์
    • rust สร้างยากแต่พังง่ายในพริบตา — อย่าแลกระยะสั้นกับความเสียหายระยะยาว
       
  3. ใช้ Data เป็นหัวใจของการตัดสินใจ (Data-Driven Marketing)

    • วิเคราะห์ข้อมูลจริงของผู้ติดตาม (อายุ, เพศ, ความสนใจ, Engagement rate)
    • เทียบผลของแต่ละอินฟลูฯ เพื่อสร้าง “Influencer Pool” ที่มีประสิทธิภาพ
    • อย่าดูแค่ตัวเลขเชิงปริมาณ — รวม Sentiment จากคอมเมนต์ด้วย เพื่อเข้าใจภาพลักษณ์ที่คนมีต่อแบรนด์
       
  4. ผสมผสานอินฟลูฯ หลายระดับให้ครบทุก Funnel

    • อย่าพึ่งแต่คนดัง: ใช้ Macro Influencer ดึงคนรู้จัก, Micro/Nano ปิดการขาย, และ Expert/Real User ตอกย้ำความน่าเชื่อถือ
    • เหมือนการสร้าง Funnel ที่แต่ละกลุ่มมีหน้าที่ต่างกัน
    • ช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่ม Impact รวมของแคมเปญ
       
  5. กล้าแตกต่างและสร้างสรรค์อยู่เสมอ

    • อย่าทำเหมือนคู่แข่ง คิดนอกกรอบด้วยการ Collaboration ข้ามหมวด, ทำ Challenge หรือ Story Series
    • ความแปลกใหม่ (ที่ไม่หลุดบริบทแบรนด์) คือกุญแจดึงดูดความสนใจ
    • ยุคนี้ “ความคิดสร้างสรรค์” ชนะ “งบโฆษณา”
       
  6. เตรียมแผนรับมือวิกฤตและทำงานแบบ Omnichannel

    • มีแผนสำรองหากอินฟลูฯ ทำผิดพลาดหรือเกิดกระแสลบ
    • ตอบสนองเร็ว โปร่งใส และยึดความถูกต้องเป็นหลัก
    • ผสาน Influencer Marketing เข้ากับกลยุทธ์หลัก เช่น Boost Post, PR, UGC Repurpose
    • เพื่อให้คอนเทนต์มีอายุยืน และคุ้มค่ากว่าการโพสต์ครั้งเดียว

สรุป: การตลาด Influencer จะ “ได้ผลจริง” ก็ต่อเมื่อแบรนด์เข้าใจ “ความสัมพันธ์”

การตลาด Influencer ไม่ใช่แค่การจ้างคนดังมาโพสต์สินค้าแต่คือ “ศิลปะของความสัมพันธ์” ระหว่างแบรนด์ – อินฟลูฯ – และผู้บริโภค

ถ้าแบรนด์เข้าใจว่า

  • อินฟลูฯ คือ “ตัวกลางแห่งความเชื่อใจ”
  • คอนเทนต์คือ “เครื่องมือสร้างความรู้สึก”
  • และข้อมูลคือ “เข็มทิศของทุกการตัดสินใจ”

คุณจะไม่แค่ได้ยอดวิวหรือยอดไลก์ แต่จะได้ Brand Trust + Brand Loyalty ที่อยู่กับคุณระยะยาว

จำไว้เสมอ — คนอาจลืมโฆษณา แต่ไม่ลืม “ความรู้สึกดี” ที่มีต่อแบรนด์ และ Influencer คือสะพานเชื่อมความรู้สึกนั้นให้เกิดขึ้นจริง

อยากเริ่มทำการตลาด Influencer อย่างมืออาชีพ?

หากคุณไม่อยากเสียงบไปกับการลองผิดลองถูก และต้องการทีมที่เข้าใจทั้ง กลยุทธ์, ครีเอทีฟ, และการวัดผลจริง (ROI)

WizeMoves Consult พร้อมช่วยคุณวางระบบ การตลาด Influencer ครบวงจร ตั้งแต่

  •  วิเคราะห์สินค้าและกลุ่มเป้าหมาย
  •  คัดเลือก Influencer ที่ตรงกลุ่มจริง ๆ
  • วางแผน Storytelling + Content Direction
  • ติดตามผล วัด ROI และจัดทำรายงานโปร่งใส

เพราะเราเชื่อว่า “การตลาด Marketing ที่ดี ไม่ใช่แค่ทำให้คนพูดถึงแบรนด์แต่ต้องทำให้คน ‘เชื่อ’ และ ‘ซื้อ’ ด้วยใจจริง” ปรึกษาฟรี 30 นาที กับทีมผู้เชี่ยวชาญ WizeMoves Consultพร้อมช่วยคุณออกแบบแคมเปญที่สร้างผลลัพธ์ วัดได้ และคุ้มทุกบาทของงบโฆษณา

หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจที่เชี่ยวชาญต้องนึกถึง Sellsuki ผู้ช่วยธุรกิจออนไลน์ที่ครบเครื่องมากที่สุด ผู้ช่วยมองหาทางที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ

หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจติดต่อ Sellsuki ได้เลย เพราะเรามีบริการครบวงจรบนโลกธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น บริการที่ปรึกษาธุรกิจการตลาดแบบครบวงจร หรือ WizeMoves Consult ผู้ช่วยจัดจำหน่ายออนไลน์ครบวงจร ดูแลครอบคลุมทุกขั้นตอนการขาย หรือ WizeMoves e-Dis บริการโฆษณาออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม (WizeMoves Ads) บริการดูแล LINE Official Account ครบวงจร ที่มีลูกค้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ กว่า 9,000 บัญชี พร้อมด้วย Akita Fulfillment บริการคลังสินค้าครบวงจร และบริการด้านอื่นๆ อีกมากมายที่ Sellsuki มีพร้อมให้คุณ

แท็ก Influencer MarketingMarketing

แชร์

บทความนี้มีประโยชน์กดชอบเป็นกำลังใจให้เราได้
Like this article