เจ้าของแบรนด์และ SME จำนวนมากมักพยายามทำกลยุทธ์การขายของ เพื่อเพิ่มยอดขาย ด้วยทางลัด เช่น ลดราคาแข่ง แจกโปรทุกสัปดาห์ หรือยิงแอดแรง ๆ เพื่อหวังเห็นผลไว
แน่นอนว่ามันอาจช่วยให้ยอดขายขยับขึ้นชั่วคราว แต่ในระยะยาว นี่อาจกลายเป็น “กับดัก” ที่ทำให้แบรนด์ต้องลดราคาแข่งกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา ลูกค้าคาดหวังโปรฯ มากขึ้น กำไรหาย แถมภาพลักษณ์แบรนด์ก็เริ่มสั่นคลอน
เพราะสุดท้ายแล้ว… ยอดขายที่ยั่งยืน ไม่ได้มาจากการลดราคา แต่มาจากกลยุทธ์ที่เข้าใจลูกค้า และสร้างคุณค่าจริงให้แบรนด์
ดังนั้น ถ้าคุณอยากเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจแบบยั่งยืนไม่ต้องพึ่งแต่โปรฯ ลด แลก แจก แถม
ต่อไปนี้คือ 10 กลยุทธ์การเพิ่มยอดขายที่ SME และเจ้าของแบรนด์ยุคใหม่ต้องรู้เพื่อให้ “ยอดขาย” โตได้จริงในระยะยาว
การเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง (Customer Insight) คือรากฐานของทุกกลยุทธ์ที่ได้ผลจริงหลายธุรกิจล้มเหลวเพราะใช้เวลา “ขายของ” มากกว่า “เข้าใจคนซื้อ” ในยุคที่ลูกค้าเจอคอนเทนต์และโฆษณาหลายร้อยชิ้นต่อวัน คนจะสนใจแบรนด์ที่ “พูดกับเขาได้ตรงจุด” เท่านั้น
เริ่มจาก 3 มุมสำคัญที่ต้องรู้ให้ชัด:
เมื่อเข้าใจสิ่งเหล่านี้ คุณจะรู้ว่าต้องพูด “อะไร” กับลูกค้า และ “เมื่อไหร่” แบรนด์ที่เข้าใจลูกค้า จะขายได้ แม้ไม่พูดคำว่า ‘ลดราคา’
คอนเทนต์ที่ดีคือคอนเทนต์ที่ทำให้คน “มั่นใจ” ไม่ใช่แค่ “สนใจ”ในยุคที่ทุกคนยิงโฆษณาเหมือนกันหมด ลูกค้าไม่เชื่อข้อความที่แบรนด์พูดเอง แต่เชื่อ “คนที่เคยใช้จริง” มากกว่า
วิธีเปลี่ยนคอนเทนต์ให้สร้างความเชื่อได้จริง:
คอนเทนต์ที่คนแชร์ อาจไม่เท่าคอนเทนต์ที่ทำให้เขาตัดสินใจซื้อ
ทุกแบรนด์ขายสินค้าได้ แต่ไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่ “ทำให้คนอยากกลับมาซื้อซ้ำ”ประสบการณ์ลูกค้าหลังการขาย คือจุดที่ SME มักมองข้ามที่สุด
3 ขั้นตอนในการสร้าง Customer Experience ที่แข็งแรง:
1. ก่อนขาย – สร้างความไว้ใจ
ลูกค้าใหม่มักไม่ซื้อทันทีในครั้งแรก สร้างความเชื่อก่อน เช่น คอนเทนต์รีวิว, การรับประกัน, Chat ที่ตอบไว
คนซื้อของจากคนที่เขาไว้ใจ ไม่ใช่คนที่พูดเยอะที่สุด
2. ระหว่างขาย – ทำให้การซื้อเป็นเรื่องง่าย
3. หลังขาย – ดูแลให้รู้สึกว่า “แบรนด์จำเราได้”
ลูกค้าเก่าที่พอใจ = ยอดขายใหม่ที่ไม่ต้องจ่ายค่าแอดเพิ่ม
ยุค Digital-first, “ใครใช้ข้อมูลได้ก่อน คนนั้นได้เปรียบ” AI ไม่ได้แค่ช่วยตอบแชตหรือเขียนคอนเทนต์เร็วขึ้น
แต่มันคือเครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณ “เข้าใจ” และ “ยิงถูกจังหวะ”
ตัวอย่างการใช้ AI และ Data เพื่อเพิ่มยอดขาย
ธุรกิจที่อยู่รอดไม่ใช่ธุรกิจที่ทำถูกตั้งแต่แรกแต่คือธุรกิจที่ “เรียนรู้และปรับได้ไวที่สุด”
ทุกแคมเปญควรวัดผลชัดเจน:
อย่ารอจนแคมเปญจบแล้วค่อยสรุปผลให้ “วัดระหว่างทาง” และ “ปรับทันที”
อย่าหยุดแค่การวัดผล เริ่มวางระบบขายที่โตได้จริง หลายธุรกิจเข้าใจการวัดผล แต่ไม่รู้ว่าจะ “ต่อยอดยังไง” ให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถ้าคุณอยากรู้ว่าแบรนด์ของคุณควรปรับตรงไหน หรือวางระบบการขายให้เห็นผลได้อย่างไร ทีม WizeMoves Consult พร้อมช่วยวิเคราะห์กลยุทธ์การขายของคุณอย่างมืออาชีพ
หนึ่งใน กลยุทธ์การเพิ่มยอดขาย ที่เจ้าของธุรกิจมักมองข้ามคือ “การรักษาลูกค้าเก่า” เพราะหลายแบรนด์โฟกัสที่การหาลูกค้าใหม่ จนลืมว่าลูกค้าเดิมนั้น “ซื้อซ้ำง่ายกว่า และต้นทุนต่ำกว่า”
วิธีสร้างความภักดีให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ:
อยู่ในทุกที่ที่ลูกค้าพร้อมจะซื้อ การทำการตลาดในช่องทางเดียวไม่พออีกต่อไป เพราะลูกค้าคนเดียวอาจเห็นสินค้าใน TikTok ,แอดเพื่อนใน LINE แล้วซื้อจริงใน Shopee กลยุทธ์การเพิ่มยอดขาย ที่มีประสิทธิภาพจึงต้อง เชื่อมทุกช่องทางเข้าด้วยกัน
ตัวอย่างแนวทาง:
“ผู้บริโภคเชื่อคนมากกว่าเชื่อแบรนด์” กลยุทธ์การเพิ่มยอดขาย ที่ทรงพลังที่สุดคือการใช้พลังของ “Creator Economy” แต่การทำงานกับ Influencer ให้ได้ผล ไม่ใช่แค่ “จ้างโพสต์” แล้วจบ แต่ต้องเป็นCo-Creation การร่วมกันสร้างคอนเทนต์ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์และคนพูด
วิธีใช้ Influencer ให้ยอดขายพุ่ง:
แบรนด์ที่มี “เรื่องราว” จะน่าจดจำกว่าแบรนด์ที่พูดแต่ฟีเจอร์ การใช้ Storytelling เป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงใจลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่คนอยากรู้ “Why” มากกว่า “What”
วิธีเล่าเรื่องให้ขายได้:
สุดท้ายของทุก กลยุทธ์การเพิ่มยอดขาย คือ “การตัดสินใจด้วยข้อมูล” เพราะการเดาอาจพาให้คุณเสียเงินโฆษณาโดยไม่รู้ตัว แต่ข้อมูล (Data) จะบอกคุณชัดเจนว่า “อะไรทำงาน” และ “อะไรไม่เวิร์ก”
วิธีใช้ Data ให้เพิ่มยอดขายได้จริง:
ธุรกิจที่เติบโตได้จริงไม่ใช่ธุรกิจที่ “ลดราคาบ่อยที่สุด” แต่คือธุรกิจที่ “เข้าใจลูกค้ามากที่สุด”10 กลยุทธ์การเพิ่มยอดขาย ที่พูดถึงในบทความนี้ คือแนวทางที่ช่วยให้ SME และเจ้าของแบรนด์เปลี่ยนจากการขายแบบ “หวังยอดระยะสั้น” ไปสู่การสร้าง “ยอดขายที่เติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน”
เพราะสุดท้ายแล้ว ยอดขายระยะสั้นอาจมาจากโปรโมชั่น แต่ยอดขายระยะยาวมาจากกลยุทธ์ที่เข้าใจลูกค้าและลงมือทำอย่างต่อเนื่อง
ให้ทีม WizeMoves Consult ช่วยวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์การขายของคุณแบบมืออาชีพ
เราเชี่ยวชาญทั้งการตลาดเชิงกลยุทธ์, Data Marketing, Influencer Strategy เปลี่ยน “ยอดวิว” ให้กลายเป็น “ยอดขาย” ได้ตั้งแต่วันนี้ ปรึกษาฟรีกับทีมกลยุทธ์ WizeMoves Consult
หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจที่เชี่ยวชาญต้องนึกถึง Sellsuki ผู้ช่วยธุรกิจออนไลน์ที่ครบเครื่องมากที่สุด ผู้ช่วยมองหาทางที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ
หากต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจติดต่อ Sellsuki ได้เลย เพราะเรามีบริการครบวงจรบนโลกธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น บริการที่ปรึกษาธุรกิจการตลาดแบบครบวงจร หรือ WizeMoves Consult ผู้ช่วยจัดจำหน่ายออนไลน์ครบวงจร ดูแลครอบคลุมทุกขั้นตอนการขาย หรือ WizeMoves e-Dis บริการโฆษณาออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม (WizeMoves Ads) บริการดูแล LINE Official Account ครบวงจร ที่มีลูกค้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ กว่า 9,000 บัญชี พร้อมด้วย Akita Fulfillment บริการคลังสินค้าครบวงจร และบริการด้านอื่นๆ อีกมากมายที่ Sellsuki มีพร้อมให้คุณ