Header-sellsuki.webp
S E L L S U K I

Data Research Insight สำรวจตลาดหม่าล่า

mdi_eye : 115 ph_share-bold : 0 charm_sound-down
อ่าน
Data Research Insight สำรวจตลาดหม่าล่า
Data Research Insight สำรวจตลาดหม่าล่า

หม่าล่า กลายเป็นรสชาติยอดนิยมจากประเทศจีนที่กำลังมาแรงในไทย ด้วยเอกลักษณ์ของรสชาติเผ็ดร้อน ผสมกับความชานิดๆ จากเครื่องเทศต่างๆ

ความเผ็ดชาของหม่าล่านั้นมาจากส่วนผสมหลักอย่างพริกไทยเสฉวน หรือ ฮวาเจียว ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ฮวาเจียวมีกลิ่นหอมแรงและรสเผ็ดชาลิ้นที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เพียงแค่ความอร่อย ฮวาเจียวยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

  • ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
  • กระตุ้นระบบย่อยอาหาร
  • มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
  • เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยลดการอักเสบ
  • ลดความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล

ความนิยมของหม่าล่าในไทยนั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันร้านหม่าล่ามีให้เห็นทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหม่าล่าสายพานแบบชาบู ร้านหมาล่าเสียบไม้ ร้านหม่าล่าทั่ง มีทั้งร้านใหญ่แบรนด์ดัง ไปจนถึงร้านเล็กๆ ปี 2567 คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดหม่าล่าในไทยจะแตะ 12,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้าถึง 20% การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดหม่าล่า ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

หม่าล่ายังคงเป็นอาหารยอดนิยมในประเทศไทย เนื่องจากสามารถนำไปปรับให้เข้ากับหลายๆ เมนูของไทยได้ Sellsuki จึงใช้เครื่องมือ Social Listening ในการสำรวจหา Insight ของตลาดหม่าล่า เพื่อช่วยสร้างความเข้าใจและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ตามขั้นตอนของ Data Research Blueprint

5 ขั้นตอนการทำ Data Blueprint ด้วยเครื่องมือ Social Listening

Data Research Blueprint

Step 1 - Crack โจทย์ไหนที่อยากรู้

กำหนดหัวที่ต้องการศึกษาว่า ในโลกโซเชียลกำลังผู้ถึงอะไร ซึ่งในบทความนี้ เราต้องการสำรวจตลาดหมาล่า ว่าทำไมหม่าล่าถึงได้รับความนิยมในประเทศไทย และควรทำการตลาด หรือวางแผนกลยุทธอย่างไร เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค

Step 2 - Set Keyword & Data Gathering

กำหนด Keyword และระยะเวลาในการดึงข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งบทความนี้ เรากำหนดมา 2 คำ คือ หม่าล่า และ Mala Hotpot

4_14c95ceac3.jpg

เมื่อเลือก Keyword ได้แล้ว ต่อมาเข้าสู่การเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Gathering) หรือการทำ Research โดยใช้ Keyword ในการดึงข้อมูล ซึ่งเรากำหนดระยะเวลาการดึงข้อมูลย้อนหลัง ตั้งแต่ 30/10/2023 - 30/01/2024 หรือเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งเราได้ข้อมูลทั้งหมด 57,933 Mentions บนช่องทาง Facebook, X (Twitter), Instagram, Youtube และ TikTok โดยข้อมูลที่ได้มาเป็นโพสต์สาธารณะ ภายใต้นโยบาย Policy ของแพลตฟอร์ม

Step 3 - Data Analyst & Visualize

ก่อนการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) ต้องตรวจสอบว่ามีข้อมูลแบบไหนที่สามารถใช้ประโยชน์ได้บ้าง หากพบข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องให้ทำลบออก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการนำไปใช้งานเท่านั้น

6_19e70829ce.jpg

Social Data Stat Overview

5_68fc2d223b.jpg

สัดส่วนการพูดถึง (Mentions) พบว่า โซเชียลมีเดียที่กล่าวถึง หม่าล่า มากที่สุดคือ X (Twitter) และ Facebook โดยเกิดจากกลยุทธ์การตลาดแบบ Influencer Marketing ที่มักจะรีวิวร้านหม่าล่า และทำคอนเทนต์รีวิวที่ดึงดูดผู้ชม นอกกจากนี้ยังมีงแบรนด์ต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์เมนูพิเศษรสชาติหม่าล่าออกมา และทำ Content Marketing ที่ให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์นั้น ๆ ซึ่งสามารถสร้าง Awareness และ Engagement ได้ค่อนข้างสูง

8_0b2339e446.jpg

เมื่อดูจาก ENGAGEMENT ของแต่ละแพลตฟอร์มจะพบว่าคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมจะแตกต่างกันออกไป โดยเริ่มจากแพลตฟอร์มที่เป็นวีดีโออย่าง Reels จะเป็นวิธีการสอนทำหม่าล่าง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ส่วน X จะเป็นการทวิตถึงการให้รางวัลตัวเองด้วยหม่าล่า และใน TikTok จะเป็นการแชร์ประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจเกี่ยวกับหม่าล่า สุดท้าย Youtube จะเป็นการรีวิวร้านหม่าล่าจาก Influencer และดาราดัง

Social Data Stat by Hashtag Cloud

Hashtag Cloud คือฟีเจอร์ที่เป็นพื้นฐานในการอ่านภาพรวมของข้อมูลและเทรนด์ว่ามี Hashtag ไหนที่น่าสนใจและกำลังถูกพูดถึงมากที่สุด

11_2f8869851a.jpg

จากข้อมูลของ Hashtag Cloud จะพบว่า #หม่าล่า ถูกพูดถึงมากที่สุด ตามมาด้วย #อร่อยบอกต่อ และ #ชาบู ซึ่งแสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ผู้บริโภคชื่นชอบในการรับประทานชาบูหม่าล่า และมีการรีวิวเพื่อบอกต่อคนอื่น ๆ ผ่าน Hashtag อีกด้วย

9_7aa5f48f66.jpg

จากการสำรวจ Hashtag Cloud พบว่า คนส่วนใหญ่ค้นหาร้านหม่าล่าตามทำเลต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคต้องการรับประสบการณ์จากหม่าหลายที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งในเรื่องของเมนู รูปแบบ และความอร่อย ยิ่งร้านไหนที่ได้รับการรีวิวในด้านบวก หรือสร้างสรรค์เมนูที่มีความแตกต่าง แม้ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน ผู้บริโภคก็พร้อมที่จะไปพิสูจน์ความอร่อย

12_0c57db691d.jpg

Sellsuki ได้เลือกใช้เครื่องมือ Ubersuggest เพื่อค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ หม่าล่า โดยพบว่ากิจกรรมที่เกี่ยวข้องมากที่สุด ได้แก่

  • สินค้าน้ำซุปหม่าล่าสำเร็จรูปของร้านหม่าล่าเจ้าดัง
  • ความหมายของหม่าล่า
  • กระแสหม่าล่าในไทย

Categories Overall

13_689a51f446.jpg

เราสามารถแบ่ง Categories ได้หลังจากการวิเคราะห์เบื้องต้น ซึ่งจะช่วยให้เรากำหนดหัวข้อ และ Insight ของสิ่งที่เราต้องการศึกษาได้ เรามาดูกันดีกว่าว่า หากเราแบ่งกลุ่มข้อมูล 57,933 Mentions แล้ว จะพบข้อมูลอะไรที่น่าสนใจบ้าง

Key Factor

14_91e7b0c75f.jpg

จากข้อมูลพบว่า Key Factor ที่มีการพูดถึงมากที่สุดคือ คุณภาพ คิดเป็น 70.1% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ผู้บริโภคให้ความสนใจค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ วัตถุดิบ และความสะอาด ทุกอย่างต้องสอดคล้องกัน แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยอมเสียเงินที่มากขึ้น เพื่อรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ

ประเภทของหม่าล่า

19_b03590569b.jpg

ในปัจจุบันคนไทยนิยมรับประทานหม่าล่าอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทคือ

  • หม่าล่าชาบู
  • หม่าล่าทั่ง
  • หม่าล่าเสียบไม้

วัตถุดิบในหม่าล่า

16_5b4a2501bb.jpg

วัตถุดิบเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในหม่าล่า โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ชื่นชอบในการรับประทานหมู เนื้อ ไก่ และสัตว์น้ำ เช่น ปลา กุ้ง หรือหอย ซึ่งวัตถุเหล่านี้เป็นวัตถุดิบทั่ว ๆ ไปที่สามารถพบเจอได้ตามร้านบุฟเฟ่ต์ ซึ่งคุณภาพก็จะขึ้นอยู่กับราคาของแต่ละร้าน

รสชาติน้ำซุป

17_4bdace501c.jpg

ด้วยความเผ็ดร้อนของซุปหม่าล่าแบบดั้งเดิม ทำให้หลาย ๆ ร้านมีการเพิ่มน้ำซุปชนิดอื่นเข้ามา สำหรับคนที่ไม่ชอบอาหารเผ็ด เนื่องจากซุปหม่าล่าแบบดั้งเดิมจะผัดจากน้ำมัน สมุนไพร และเครื่องเทศต่าง ๆ ทำให้เมื่อต้มไปนาน ๆ แล้วจะยิ่งเผ็ดขึ้น และเค็มขึ้น ทำให้ไม่เหมาะกับการซดน้ำซุป โดยปกติแล้วจะเอาไว้ใช้ลวกเนื้อสัตว์และผักเท่านั้น เพราะด้วยความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศ อาจจะทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ แต่ก็ยังมีหม่าล่าอีกประเภทคือ หม่าล่าทั่ง ที่บางร้านปรับลดความเข้มข้นลง เพื่อให้รับประทานน้ำซุปได้

TOP BRAND HIGHLIGHT

21_11zon_9fb88484e7.jpg

สำหรับ Brand Highlight ที่มีการถูกพูดถึงบนโซเชียลมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ Hai Di Lao Hotpot, อี้จาสุกี้หม่าล่า, สุกี้จินดา, You&I Premium Suki Buffet และ Le Hot ซึ่งจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่เป็นชาบูหม่าล่าแบบ A La Carte และเป็นหม่าล่าสายพาน

ทำไมหม่าล่าแบบ A La Carte ถึงได้รับความนิยม

  • คุณภาพอาหารและวัตถุดิบ: ร้านส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับคุณภาพอาหารและวัตถุดิบ คัดสรรเนื้อสัตว์สดใหม่ ผักปลอดภัย และเครื่องปรุงชั้นดี ส่งผลให้รสชาติอาหารอร่อยถูกปาก
  • ความหลากหลาย: ร้านหม่าล่าแบบ A La Carte มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความชอบ ลูกค้าสามารถเลือกสั่งเฉพาะเมนูที่ต้องการ ทานเท่าที่อยากทาน
  • บรรยากาศและการบริการ: ร้านส่วนใหญ่มีบรรยากาศดี พนักงานบริการดี ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง
  • คุ้มค่าเกินราคา: แม้ราคาจะสูงกว่าแบบบุฟเฟ่ต์ แต่ลูกค้าจะได้รับอาหารคุณภาพดี บริการดี ตอบโจทย์การทานแบบพอดีอิ่ม ไม่เหลือทิ้ง

ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพและความคุ้มค่า ร้านชาบูหม่าล่าแบบ A La Carte กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ด้วยคุณภาพอาหาร บรรยากาศ และการบริการที่เหนือกว่า แม้ราคาจะสูงกว่าแบบบุฟเฟ่ต์ แต่ลูกค้าก็ยอมจ่ายเพื่อประสบการณ์การทานอาหารที่ดีกว่า

ตารางเปรียบเทียบ TOP BRAND HIGHLIGHT: A LA CARTE

23_11zon_02b5844aae.jpg

ตารางเปรียบเทียบ TOP BRAND HIGHLIGHT: BUFFET

24_11zon_427d6733da.jpg

Step 4 - Summarize

ตลาดหม่าล่ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ในปี 2567 รูปแบบร้านหม่าล่าเริ่มเปลี่ยนจากหม่าล่าสายพานเป็นแบบบุฟเฟต์มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

บนโซเชียลมีเดีย ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ "คุณภาพ" ของอาหาร ร้านหม่าล่าอย่าง Haidilao Hotpot และ CQK Mala Hotpot เป็นสองแบรนด์ที่โด่งดังเรื่องคุณภาพ
นอกจากหม่าล่าหม้อไฟและชาบูที่มีวัตถุดิบ รวมถึงน้ำซุปให้เลือกอย่างหลากหลายแล้ว ยังมีหม่าล่าประเภทอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น หม่าล่าทั่งแบบจานเดี่ยวสำหรับคนเร่งรีบ หรือหม่าล่าเสียบไม้ราคาถูก รสชาติเผ็ดชา ถูกปากคนไทย

ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดหม่าล่าควรศึกษาพฤติกรรมการรับประทานหม่าล่าของผู้บริโภค พร้อมกับสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสกับประสบการณ์ที่แตกต่างจากร้านอื่น

การศึกษาข้อมูลด้านการตลาดออนไลน์ เพื่อเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย และการแข่งขันที่สูงในตลาด จะช่วยให้ผู้ประกอบการนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนและปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

Step 5 - Make Solution & Idea

ทั้งหมดนี้คือ Data Search Insight ที่เจาะลึกเพื่อสำรวจตลาดหม่าล่า โดย Facebook และ X เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกพูดถึงมากที่สุด กลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุดคือ การทำ Content Marketing ในการสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ และ Influencer Marketing ในการรีวิวคุณภาพ ราคา และความอร่อยอย่างน่าเชื่อถือ ส่งผลให้เกิดการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง หากทางร้านสามารถรักษาคุณภาพอาหารและบริการได้เป็นอย่างดี ลูกค้าจะบอกต่อผ่านโซเชียลมีเดียและแฮชแท็กต่างๆ ส่งผลให้ฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

เมื่ออ่าน Data Research Insigh จบแล้ว นักการตลาด เจ้าของธุรกิจ และบุคคลทั่วไปสามารถ Download E-Book ได้ที่ด้านล่างนี้เลย สามารถนำข้อมูลไปปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

หากเจ้าของธุรกิจต้องการผู้ช่วยในการทำธุรกิจออนไลน์ Sellsuki พร้อมให้ความช่วยเหลือ เพราะเราคือคู่หูเพื่อนคู่คิด ที่ให้บริการการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจร ตั้งแต่การวางแผน ไปจนการวิเคราะห์ผลลัพท์ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาด พร้อมช่วยหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และรักษาฐานลูกค้าเดิมให้อยู่กับแบรนด์ตลอดไป

อย่าลืมกดติดตามเราบนช่องทาง Facebook, Youtube และ TikTok เพื่อไม่ให้พลาดอัปเดตข้อมูลความรู้และสาระสำคัญแบบนี้ เพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ตลาด และความต้องของกลุ่มเป้าหมายกันด้วยนะครับ

แท็ก Data ResearchData DrivenSocial ListeningDigital Marketing

แชร์

บทความนี้มีประโยชน์กดชอบเป็นกำลังใจให้เราได้
Like this article
ลงทะเบียนเพื่อดาวน์โหลด E-Book

การตลาดวันละตอน จะใช้ข้อมูลนี้ในการส่งข้อมูลและข่าวสารความรู้ในด้าน Digital Marketing และ Sellsuki พาร์ทเนอร์ของเราจะใช้ข้อมูลนี้ในการสื่อสารการตลาดกับคุณต่อไป เราจะสื่อสารและรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของคุณอย่างโปร่งใส กรุณาเลือกให้ความยินยอมด้านล่างของแบบฟอร์มลงทะเบียน เพื่อรับทราบและยินยอมให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ