Header-sellsuki.webp
S E L L S U K I

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology

mdi_eye : 81 ph_share-bold : 0 charm_sound-down
อ่าน
เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-1.jpg

ในอดีตการรอคอยเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาจต้องใช้เวลานานหลายปี แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีล้ำสมัยผุดขึ้นมาแทบทุกวัน และกำลังปฏิวัติวิธีการทำงานและวิถีชีวิตของเราอย่างรวดเร็ว Disruptive Technology หรือ เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก กำลังส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เพียงแต่ภาคการแพทย์และค้าปลีกเท่านั้น แต่เทคโนโลยียังเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคการผลิต การเงิน และการเกษตร ตัวอย่างเช่น การใช้หุ่นยนต์ในโรงงาน การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบดิจิทัล และการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการพยากรณ์สภาพอากาศเพื่อช่วยเกษตรกรวางแผนการผลิต

สำหรับประเทศไทย การยอมรับและการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นำมาซึ่งทั้ง โอกาส และ ความท้าทาย ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยียังเปิดโอกาสให้เกิดธุรกิจดิจิทัลรูปแบบใหม่ ๆ และสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

วันนี้ Sellsuki จะพาคุณไปเจาะลึกเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกต่ออนาคตของธุรกิจในประเทศไทย ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Social Listening ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อให้คุณเข้าใจแนวทางในการรับมือและปรับตัว ตามหลักการของ Data Research Blueprint

5 ขั้นตอนการทำ Data Blueprint ด้วยเครื่องมือ Social Listening

Data Research Blueprint

Step 1 - Crack โจทย์ไหนที่อยากรู้

เหมือนกับในทุก ๆ ครั้ง ขั้นตอนแรกต้องกำหนดหัวข้อที่ต้องการศึกษา หรือหัวข้อที่สนใจ ซึ่งอาจจะต้องเกี่ยวกับธุรกิจที่กำลังทำอยู่ หากเป็นเรื่องที่กำลังเป็นเทรนด์ ก็จะสามารถกวาดข้อมูลได้เยอะ โดยบทความนี้ Sellsuki ต้องการศึกษาเรื่องของ Disruptive Technology ว่าจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของธุรกิจในด้านไหนบ้าง และควรเตรียมตัวรับมืออย่างไร

Step 2 - Set Keyword & Data Gathering

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-9.jpg

สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Gathering) หรือการทำ Data Research เราต้อง กำหนด Keyword ให้สอดคล้องกับหัวข้อที่ต้องการศึกษา ในครั้งนี้เราจะขอกำหนดคำว่า technology, เทคโนโลยีใหม่, อาชีพใหม่, digital transformation, new technology และ เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ที่จะใช้กวาดข้อมูลบน Social Listening และกำหนดระยะเวลาการดึงข้อมูลย้อนหลัง ตั้งแต่ 10/04/2024 - 10/06/2024 หรือเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งเราได้รับข้อมูลทั้งหมด 59,487 Mentions บนช่องทาง Facebook, X (Twitter), Instagram, Youtube และ TikTok โดยข้อมูลที่ได้มาเป็นโพสต์สาธารณะ ภายใต้นโยบาย Policy ของแพลตฟอร์ม

Step 3 - Data Analyst & Visualize

เพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและมีประโยชน์ ควรตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอย่างรอบคอบ และคัดกรองเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ต้องการศึกษาเท่านั้น

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-10.jpg

จากกราฟจะเห็นได้ชัดว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้คนนิยมพูดคุยเกี่ยวกับ เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก มากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนถึง 51.2% ของการพูดถึงทั้งหมด ซึ่งอาจเป็นเพราะ Facebook มีฐานผู้ใช้งานที่กว้างขวาง และมีเครื่องมือที่เอื้อต่อการแบ่งปันข้อมูลและความคิดเห็น

แม้ว่า Twitter จะมีสัดส่วนการพูดถึงน้อยกว่า Facebook แต่ก็ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่สนใจเทคโนโลยีโดยตรง เนื่องจาก Twitter เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการอัปเดตข้อมูลข่าวสารแบบเรียลไทม์

เหตุผลที่ผู้คนพูดถึงเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกบนโซเชียลมีเดีย

  • ความอยากรู้อยากเห็น: ผู้คนต้องการทราบว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ จะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างไรบ้าง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากแค่ไหน หรือเทคโนโลยี Blockchain จะเปลี่ยนแปลงระบบการเงินอย่างไร
  • ความกังวล: บางคนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบของเทคโนโลยี เช่น การสูญเสียงาน การละเมิดความเป็นส่วนตัว หรือความไม่เท่าเทียมทางสังคม
  • โอกาสทางธุรกิจ: ผู้ประกอบการและนักลงทุนสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจและสร้าง Innovation
  • การแบ่งปันความคิดเห็น: ผู้คนต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองเกี่ยวกับเทคโนโลยีกับผู้อื่น

ประเด็นที่มักถูกพูดถึงบนโซเชียลมีเดีย

  • ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม: ผู้คนมักพูดถึงว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างไร เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์, การแพทย์, การเงิน เป็นต้น
  • นวัตกรรมใหม่ ๆ: การพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังได้รับความนิยม เช่น Blockchain, IoT, Metaverse
  • ความท้าทายและโอกาส: การอภิปรายเกี่ยวกับทั้งด้านบวกและด้านลบของเทคโนโลยี เช่น โอกาสทางธุรกิจ และความกังวลด้านความปลอดภัย
  • นโยบายและกฎหมาย: การพูดคุยเกี่ยวกับนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เช่น การกำกับดูแล AI รวมถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

Social Data Stat Overview

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-11.jpg

จากข้อมูลบนกราฟแสดงให้เห็นถึงความผันผวนของการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ หรือแคมเปญทางการตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่แบรนด์ NARS เปิดตัวผลิตภัณฑ์ NARS NEW BLUSH ทำให้เกิด จุดสูงสุด (Spike) ของการมีส่วนร่วมอย่างเห็นได้ชัด

การที่ผลิตภัณฑ์ของ NARS สร้างความสนใจได้มากขนาดนี้อาจเป็นเพราะปัจจัยหลายประการ เช่น การออกแบบแพ็กเกจที่ทันสมัย สูตรใหม่ที่พัฒนาขึ้น และการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ รวมถึงการมีอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่าง ฟรีน สโรชา และ เบคกี้ รีเบคก้า มาร่วมโปรโมทผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยขยายฐานผู้บริโภคและสร้างกระแสบนโซเชียลมีเดียได้อย่างรวดเร็ว

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่แบรนด์สามารถนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสร้างสรรค์แคมเปญทางการตลาดที่น่าสนใจ 

นอกจาก NARS BLUSH แล้ว ยังมีจุดอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น 0G Labs ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐาน Web3 ได้เปิดตัวโครงการบล็อกเชนใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะการส่งผ่านข้อมูล ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสนใจกับ Innovation และเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการที่ะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Social Data Stat by Hashtag Cloud

Sellsuki ใช้ Hashtag Cloud ฟีเจอร์ที่ช่วยค้นพบแฮชแท็กน่าสนใจ รวมไปถึงภาพรวมของข้อมูลและเทรนด์ที่สอดคล้องกับ Keyword ของเรา

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-14.jpg

จากข้อมูล Hashtag Cloud พบว่า เทคโนโลยี เป็นหัวข้อที่ผู้คนให้ความสนใจและพูดคุยกันมากที่สุดบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง #technology, #ai และ #innovation สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นของผู้คน ในการติดตามเทคโนโลยีใหม่ ๆ และ Innovation ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และการตระหนักถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-15.jpg

จากการค้นหาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ พบว่าคนส่วนจะค้นหาความหมายของ Disruptive Technology และมีการค้นหาถึงผลกระทบด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า

  • ผู้คนมีความสนใจที่จะเรียนรู้และเข้าใจเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพราะการค้นหาความหมาย แสดงให้เห็นว่าผู้คนต้องการเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดนี้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันหรือการทำงาน
  • มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยี มีผู้คนอีกส่วนหนึ่งค้นหาเกี่ยวกับผลกระทบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้คนมีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ สังคม และเศรษฐกิจ
  • ต้องการติดตามข่าวสาร: การค้นหาอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าผู้คนต้องการติดตามข่าวสารและเทรนด์ใหม่ ๆ 

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-16.jpg

เรายังสามารถใช้ Ubersuggest เพื่อค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ได้ ซึ่งในบทความนี้เราค้นหาคำว่า Disuptive Technology โดยพบกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

  • 11 ตัวอย่างอันน่าทึ่งของการเข้ามาของ Disruptive Technology
  • อุตสาหกรรมไทยอยู่อย่างไรให้รอด ในยุค “Disruptive Technology”
  • เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Disruptive Technology)

Categories Overall

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-17.jpg

หลังจากรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว เราต้องมีการแบ่งประเภทข้อมูล (Categories) จำนวน 59,487 Mentions ออกเป็นประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เราสามารถกำหนดหัวข้อหรือประเด็นเชิงลึก (Insights) ของหัวข้อที่เราต้องการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Disruptive Technology

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-18.jpg

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีที่คนไทยให้ความสนใจมากที่สุดในช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม คือ Blockchain ซึ่งครองส่วนแบ่งสูงสุดถึง 20.2% ตามมาด้วย AI ที่ 19.8% และ Robotics ที่ 10.8% สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกเหล่านี้

Blockchain กลายเป็นที่นิยมอย่างมากจากกระแสของสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ที่ได้รับความสนใจทั่วโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยี Blockchain ที่เป็นพื้นฐานในการสร้างและทำธุรกรรมกับสกุลเงินดิจิทัล ทำให้เกิดการนำ Blockchain ไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเงิน การแพทย์ หรือโลจิสติกส์

AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็น MarTech (Marketing Technology) ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ ChatGPT กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การแปลภาษา และการสร้างสรรค์งานศิลปะ

Robotics หรือหุ่นยนต์ ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะหุ่นยนต์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการควบคุม ทำให้หุ่นยนต์มีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น หุ่นยนต์เหล่านี้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิต การแพทย์ และการบริการ

นอกจากนี้ Biotechnology และ Machine Learning ก็เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะ Biotechnology ที่มีการนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนายาใหม่ ๆ และการรักษาโรคต่าง ๆ ขณะที่ Machine Learning ถูกนำไปใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น ระบบแนะนำสินค้า และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่

เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา และมีแนวโน้มที่จะเติบโตและพัฒนาต่อไปในอนาคต การติดตามเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ดียิ่งขึ้น

Future Skill

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-21.jpg

สำหรับ ทักษะแห่งอนาคต ที่จำเป็นต่อการทำงาน เราจะเห็นได้ว่า ทักษะการนำเสนอ (Presentation Skills) ครองสัดส่วนสูงสุดถึง 31.4% สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในโลกที่ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว บุคลากรในทุกสายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ หรือแม้แต่นักศึกษา ต่างต้องมีทักษะในการนำเสนอความคิดเห็นหรือผลงานของตนเองให้ผู้อื่นเข้าใจ

นอกจากทักษะการนำเสนอแล้ว มีทักษะอื่น ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน ได้แก่ ทักษะการแก้ปัญหา (Problem Solving Skills) ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนและไม่คาดคิดในชีวิตประจำวัน และ ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ซึ่งเป็นทักษะที่ช่วยให้เราสามารถคิดค้นไอเดียใหม่ ๆ และมองเห็นโอกาสทางธุรกิจดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทักษะทางเทคโนโลยี (Technology Skills) ก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญมากในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะทักษะการเขียนโปรแกรม (Coding) และการใช้ Data Driven ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างสูงในหลายอุตสาหกรรม

ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills)ทักษะการปรับตัว (Adaptability) และ ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills) ก็เป็นทักษะที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การมีทักษะเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถปรับตัว และประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน

Future & Disappearing Careers

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-24.jpg

โลกการทำงานกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดเข้ามา Disrupt ทุกอย่าง ทำให้อาชีพบางอย่างค่อย ๆ เลือนหายไป แต่ก็สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับอาชีพอื่น ๆ จากข้อมูลจะเห็นได้ชัดเจนว่า อาชีพกว่า 6.7% อาจจะล้าสมัยและหายไปในอนาคตอันใกล้ ขณะที่อีกกว่า 93.3% ของอาชีพยังคงมีความต้องการ แต่ต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ หรือที่เรียกว่า Future Skills เพื่อก้าวให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลง แล้วอาชีพที่คุณทำอยู่จะเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่? มาหาคำตอบกัน

Future Careers

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-25.jpg

ในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาชีพในอนาคต กำลังถูกกำหนดโดยเทคโนโลยี จากกราฟจะเห็นได้ชัดเจนว่า อาชีพในสายสุขภาพยังคงมีความต้องการสูง โดยเฉพาะ แพทย์ ที่มีสัดส่วนถึง 59.8% และ พยาบาล อีก 23.4% สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพที่ยังคงเป็นปัจจัยหลักในชีวิตของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม อาชีพเหล่านี้ก็ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น เช่น การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการวินิจฉัยโรค หรือการใช้หุ่นยนต์ในการผ่าตัด

นอกจากอาชีพในสายสุขภาพแล้ว อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ก็มีความต้องการสูงเช่นกัน โดยเฉพาะ ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และ วิศวกรซอฟต์แวร์ ที่มีทักษะในการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรมต่างๆ อาชีพในสายการออกแบบ เช่น นักออกแบบ UX/UI ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากผู้คนให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้มากขึ้น

เพื่อเตรียมตัวสำหรับอนาคต เราควรพัฒนาทักษะที่จำเป็น เช่น การเรียนรู้ตลอดชีวิต, การคิดเชิงวิพากษ์, การแก้ปัญหา, การสื่อสาร และ ทักษะทางดิจิทัล นอกจากนี้ การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากโลกของเรากลายเป็นโลกที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น

Disappear Careers

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-27.jpg

เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องกำลังเข้ามาแทนที่งาน Routine ทำให้หลายอาชีพต้องปรับตัวหรืออาจถึงขั้นหายไป จากภาพจะเห็นได้ชัดเจนว่า อาชีพพนักงานขาย มีแนวโน้มที่จะหายไปมากที่สุดถึง 45.3% เนื่องจากการเติบโตของ e-Commerce และการใช้เทคโลโลยีในการตลาด ทำให้การขายสินค้าและบริการสามารถทำได้ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

นอกจากอาชีพพนักงานขายแล้ว อาชีพที่ต้องใช้แรงงานทางกายภาพ เช่น คนงานก่อสร้าง และ อาชีพที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง เช่น นักบัญชี ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีเช่นกัน ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์ก่อสร้างสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วกว่าคนงานก่อสร้าง และซอฟต์แวร์บัญชีสามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่านักบัญชี

อาชีพในอนาคตมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น การปรับตัวและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

Step 4 - Summarize

เจาะลึกอนาคตธุรกิจไทยในยุค Disruptive Technology-38.jpg

เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกกำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมไทย การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น หุ่นยนต์, ปัญญาประดิษฐ์, และ Machine Learning กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจไทย ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมการผลิตสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมาก ด้วยการนำหุ่นยนต์มาทำงานที่ซ้ำซากและอันตราย ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมบริการก็สามารถปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าได้ด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ก็มาพร้อมกับความท้าทาย เนื่องจากธุรกิจไทยต้องปรับตัวเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาทักษะของบุคลากร ทักษะที่สำคัญในยุคดิจิทัล ได้แก่ การคิดเชิงวิพากษ์, ความคิดสร้างสรรค์, การแก้ปัญหา, และทักษะด้านเทคโนโลยี เช่น การเขียนโปรแกรมและการวิเคราะห์ข้อมูล

เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาต้องร่วมมือกันในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต, สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา, และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม นอกจากนี้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

อนาคตของอุตสาหกรรมไทย ขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ธุรกิจที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

Step 5 - Make Solution & Idea

ในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรที่ไม่ปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเสี่ยงต่อการถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง เช่นเดียวกับบริษัทค้าปลีกหลายแห่งที่ต้องปิดตัวลงเพราะไม่สามารถแข่งขันกับ e-Commerce ได้ การนำเทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์, Machine Learning, และระบบ Cloud Computing มาใช้ จะช่วยให้องค์กรเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลไม่ใช่เรื่องง่าย องค์กรต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ, การลงทุนด้านเทคโนโลยีที่สูง และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์

เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรควรเริ่มต้นจากการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของตนเอง และกำหนดกลยุทธ์ดิจิทัลที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร จากนั้นจึงลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสม และพัฒนาทักษะของบุคลากรให้มีความพร้อมในการทำงานในยุคดิจิทัล

นอกจากนี้ ภาครัฐก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้ภาคเอกชนนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยการจัดทำนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนและการพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลไม่ใช่เพียงแค่การนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรให้มีความยืดหยุ่น เปิดรับ Innovation และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ องค์กรที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

 

หากใครที่ต้องการเจาะลึกข้อมูลแบบ Insight สามารถดาวน์โหลด e-Book ฉบับเต็มของ Data Research ได้ที่ด้านล่างนี้ เพื่อเติมเต็มความรู้ และนำข้อมูลไปต่อยอดได้ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

การมีผู้ช่วยที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์อย่าง Sellsuki เข้ามาบริหารจัดการดูแลธุรกิจของคุณอย่างใกล้ชิด ด้วยระยะเวลาการเดินทางกว่า 10 ปีที่เราได้ช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ เติบโตมาแล้วกว่า 8,000 ราย 

เราเข้าใจดีว่าคุณต้องการอะไร และเรามีโซลูชันที่ครบครัน ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน สนใจปรึกษาฟรีได้เลยครับ

และหากไม่อยากพลาดความรู้ดี ๆ เพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจแบบนี้เป็นประจำ อย่าลืมกดติดตามน้องสุกิผ่านช่องทาง Facebook, Instagram, TikTok และ Youtube

แท็ก Data ResearchData DrivenSocial Listening

แชร์

บทความนี้มีประโยชน์กดชอบเป็นกำลังใจให้เราได้
Like this article
ลงทะเบียนเพื่อดาวน์โหลด E-Book

การตลาดวันละตอน จะใช้ข้อมูลนี้ในการส่งข้อมูลและข่าวสารความรู้ในด้าน Digital Marketing และ Sellsuki พาร์ทเนอร์ของเราจะใช้ข้อมูลนี้ในการสื่อสารการตลาดกับคุณต่อไป เราจะสื่อสารและรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของคุณอย่างโปร่งใส กรุณาเลือกให้ความยินยอมด้านล่างของแบบฟอร์มลงทะเบียน เพื่อรับทราบและยินยอมให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ