5 เหตุผลที่เจ้าของธุรกิจต้องสร้าง Personal Branding ตั้งแต่วันนี้

ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรงกว่าที่เคย Personal Branding หรือการสร้างแบรนด์ส่วนตัวกลายเป็นอาวุธลับที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจโดดเด่นและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลายคนอาจคิดว่าการสร้างแบรนด์ส่วนตัวเป็นเรื่องของเซเลบริตี้หรือ Influencer แต่ความจริงแล้วสำหรับเจ้าของธุรกิจ การสร้าง Personal Brand ที่แข็งแกร่งสามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเติบโตของธุรกิจได้อย่างมาก

วันนี้ Sellsuki จะพาทุกคนมาดู 5 เหตุผลสำคัญที่ทำไมเจ้าของธุรกิจทุกคนจึงควรเริ่มสร้าง Personal Branding ตั้งแต่วันนี้ และเทคนิคที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Sellsuki ชี้ 5 เหตุผลที่เจ้าของธุรกิจต้องสร้าง Personal Branding

เหตุผลที่ 1: สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ

ลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้เพียงแค่ซื้อแค่สินค้า แต่ซื้อความเชื่อใจในตัวผู้ขาย เมื่อเจ้าของธุรกิจมี Personal Branding ที่ชัดเจน สื่อสารคุณค่าและความเชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ ลูกค้าจะมองเห็นเราเป็น "ตัวจริง" ในวงการนั้นๆ ซึ่งจะช่วยลดความลังเลในการตัดสินใจซื้อและสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีได้ในระยะยาว

คนซื้อจากคน: สร้างความสัมพันธ์ที่จริงใจ

การทำ Personal Branding จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่ากำลังคุยกับเพื่อนหรือผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้ ไม่ใช่แค่การซื้อ ขายกับองค์กรเพียงอย่างเดียว

เหตุผลที่ 2: เพิ่มการเข้าถึงและการมองเห็น

เมื่อเรามีการทำ Personal Branding ที่แข็งแกร่ง จะทำให้เรากลายเป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดลูกค้าและโอกาสใหม่ๆ เข้ามาหาเองโดยไม่ต้องใช้การตลาดแบบ Hard sell ไม่ว่าจะเป็นการถูกเชิญไปบรรยาย ออกสื่อ หรือร่วมงานกับแบรนด์อื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าและสร้างชื่อเสียงให้ธุรกิจไปในวงกว้างได้

ช่องทางการเพิ่มการเข้าถึงและการมองเห็นสำหรับPersonal Branding

• LinkedIn : สำหรับการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ
• Facebook : สำหรับการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทั่วไป
• Instagram : สำหรับการสื่อสารด้วยภาพ
• TikTok : สำหรับการเข้าถึงกลุ่ม Gen Z และ Millennials

ประโยชน์จากการเพิ่มการเข้าถึงและการมองเห็นสำหรับ Personal Branding

• ธุรกิจได้รับการแนะนำแบบปากต่อปากมากขึ้น
• มีโอกาสได้รับข้อเสนองานหรือโปรเจกต์ใหม่ๆ
• สร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่กว้างขึ้น

เหตุผลที่ 3: สร้างความแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่ง

ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงการมีสินค้าคล้ายกันเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่คู่แข่งไม่สามารถลอกเลียนแบบได้คือตัวตนและเรื่องราวของเรา การสร้าง Personal Branding คือการสร้างความแตกต่างที่ยั่งยืน ทำให้ธุรกิจของเราไม่เหมือนใครและน่าจดจำ

วิธีการสร้างความแตกต่างผ่าน Personal Branding 

• การมีเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์ : ทุกคนมีเรื่องราวที่แตกต่างกัน การเล่าเรื่องราวอย่างน่าสนใจจะทำให้ลูกค้าจดจำเราได้
• การมีมุมมองและความคิดเห็นที่เป็นของตัวเอง : ไม่ต้องกลัวที่จะแสดงความคิดเห็น (แต่ต้องสร้างสรรค์และไม่เหยียดหยาม)
• การพัฒนาสไตล์การสื่อสารที่เป็นเอกลักษณ์ : เทคนิค Personal Branding ที่ดีคือมีการสื่อสารที่ผู้คนจดจำง่าย

เหตุผลที่ 4: เพิ่มโอกาสทางธุรกิจและการสร้างเครือข่าย

การสร้าง Personal Branding สำหรับธุรกิจที่ดีจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ที่เราอาจไม่เคยคิดถึงมาก่อนได้

โอกาสที่เพิ่มขึ้นจากการทำ Personal Branding:

การทำ Personal Branding จะช่วยให้เรามีโอกาสที่เพิ่มมากขึ้น เหมือนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการได้รับความช่วยเหลือคนอื่นๆ ทั้งการได้เป็น Partnership กับธุรกิจอื่น, การเป็น Brand Ambassador รวมถึงการได้รับเชิญเป็น Speaker หรือที่ปรึกษา พร้อมทั้งการสร้างเครือข่ายที่มีคุณค่า เพราะเมื่อเรามี Personal Brand ที่แข็งแกร่งคนที่มีอิทธิพลในวงการจะรู้จักและติดตามผลงานของเราตามไปด้วย

เหตุผลที่ 5: สร้างรายได้หลากหลายช่องทาง

การมี Personal Brand ที่แข็งแกร่งเปิดโอกาสให้เราสามารถสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง ไม่ต้องพึ่งพาธุรกิจเดิมอย่างเดียว 

ช่องทางรายได้จาก Personal Branding:

• การขายหลักสูตรออนไลน์ : การขายหลักสูตรออนไลน์จะเป็นการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในรูปแบบคอร์สเพื่อให้ผู้ที่สนใจซื้อเพื่อไปศึกษาต่อได้
• การเป็นที่ปรึกษา (Consulting) : หากเรามีกลยุทธ์ Personal Branding ที่ดีจะทำให้เรากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่คนต้องการจ้างเป็นที่ปรึกษา (คอนเซาท์)
• การเขียนหนังสือหรือ E-book : เราสามารถเล่าประสบการณ์และความรู้ในรูปแบบหนังสือเพื่อสร้างรายได้ได้
• การเป็น Speaker หรือ Trainer: หากเราได้รับเชิญไปพูดในงานต่างๆ ซึ่งมีค่าตอบแทนที่ดี
• Affiliate Marketing และ Sponsored Content : เมื่อมีผู้ติดตามมากขึ้น จะได้รับข้อเสนอในการโปรโมตสินค้าหรือบริการของบริษัทอื่น ซึ่งเป็นการสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่ง

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการสร้าง Personal Branding

ข้อผิดพลาดของการสร้าง Personal Branding เลยก็คือความไม่สม่ำเสมอ โดยเราอาจโพสต์เนื้อหาไม่สม่ำเสมอหรือหายไปเป็นระยะๆ หรือการที่เราโปรโมตตัวเองมากเกินไป ซึ่งการสร้าง Personal Branding ตัวผู้ประกอบการที่ดีต้องให้ความรู้มากกว่าขาย นอกจากนี้คือเรื่องของการไม่ตอบสนองต่อ Audience การที่ไม่ตอบคอมเมนต์หรือข้อความจากผู้ติดตาม รวมถึงการขาดความเป็นตัวตนที่แท้จริง คือการที่พยายามเลียนแบบคนอื่นมากเกินไป

FAQ

Q: Personal Branding เริ่มต้นยากไหม? ใช้เวลานานแค่ไหน?
A: การเริ่มต้นสร้าง Personal Brand นั้นไม่ยากเลย แต่ต้องใช้ความอดทนและความสม่ำเสมอ เราสามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ด้วยการสร้างโปรไฟล์ที่สมบูรณ์ในโซเชียลมีเดีย, เริ่มแบ่งปันเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และตอบกลับและสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือนหากทำอย่างสม่ำเสมอ

Q: จำเป็นต้องอยู่ในทุกแพลตฟอร์มหรือไม่?
A: ไม่จำเป็นต้องอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม กลยุทธ์ Personal Branding ที่ดีคือการเน้นไป 1-2 แพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายใช้มากที่สุด เช่น  B2B: LinkedIn + Facebook
B2C Lifestyle: Instagram + TikTok
B2C ทั่วไป: Facebook + LINE Official Account
Content Creator: YouTube + Instagram

สรุป

ปัจจุบันนี้เจ้าของธุรกิจต้องเริ่มสร้าง Personal Branding เพราะจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ, เพิ่มการเข้าถึงและการมองเห็น, สร้างความแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่ง, เพิ่มโอกาสทางธุรกิจและการสร้างเครือข่าย และสร้างรายได้หลากหลายช่องทาง 

ซึ่งการทำ Personal Branding คือ สิ่งที่จะช่วยส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตาม โดยถ้าทำเรื่อง Personal Branding ดีแล้วแต่หากคุณยังไม่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจให้ Sellsuki เป็นผู้ช่วยของคุณสิ เพราะ Sellsuki เองก็มีบริการครบวงจรบนโลกธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น บริการที่ปรึกษาธุรกิจการตลาดแบบครบวงจร หรือผู้ช่วยจัดจำหน่ายออนไลน์ดูแลครอบคลุมทุกขั้นตอนการขายครบวงจรอย่าง WizeMoves หรือบริการดูแล LINE Official Account ครบวงจร ที่มีลูกค้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทย และบริการด้านอื่นๆ อีกมากมายที่ Sellsuki มีพร้อมให้คุณ 

และเพื่อไม่ให้พลาดความรู้และสาระสำคัญแบบนี้ก่อนใคร ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารหรือรายการพาโตนะ Podcast Podcast รวมถึง Suki Talk รายการดีๆ สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ อย่าลืมกดติดตามน้องสุกิบนช่องทาง Facebook, Youtube, Instagram และ TikTok

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมจาก Sellsuki ได้ที่ : บทความที่น่าสนใจ