ช่วงเวลาแห่งการต้อนรับปีใหม่มักเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและอบอุ่นใจ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศที่สดใส ผู้คนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หรือวันหยุดที่เอื้อให้เราฉลองและใช้เวลากับคนที่รัก และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลนี้คือ การมอบและแลกเปลี่ยนของขวัญ กิจกรรมที่กลายเป็นธรรมเนียมสำคัญทุกปี

ไม่ว่าจะเป็นการแลกของขวัญในครอบครัว กับเพื่อนสนิท หรือกับเพื่อนร่วมงาน การเลือกของขวัญที่ "ใช่" และสร้างความประทับใจถือเป็นเรื่องสำคัญ บางคนอาจเลือกของขวัญที่มีความหมายเฉพาะตัว สะท้อนถึงความใส่ใจ บางคนเลือกสิ่งของที่ใช้งานได้จริง ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน หรือบางคนชอบมอบของขวัญที่สร้างความสุขและเสียงหัวเราะ

ความหลากหลายนี้เองที่ทำให้เทศกาลปีใหม่เต็มไปด้วยสีสันและมีความหมายมากขึ้น และในปีนี้ Sellsuki จะพาทุกคนไปเจาะลึก Insight การเลือกซื้อของขวัญปีใหม่ ผ่านบทความ Data Research ที่จะนำพาทุกท่านเพลิดเพลินไปกับการวิเคราะห์เทรนด์และข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกซื้อของขวัญปีใหม่รวมถึงไอเดียของขวัญในปัจจุบัน

ด้วยการใช้ Social Listening Tools ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัว น้องสุกิขอพาผู้ประกอบการทุกท่านมาร่วมสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศไทย เกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อของขวัญ และสำรวจว่าของขวัญแบบไหนกำลังมาแรงในโลกโซเชียล! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันว่าปีนี้คุณหรือแบรนด์ของคุณจะเลือกของขวัญแบบไหนให้ถูกใจคนรับที่สุด!

5 ขั้นตอนการทำ Data Blueprint ด้วยเครื่องมือ Social Listening

Step 1 - Crack โจทย์ไหนที่อยากรู้ 

สำหรับขั้นตอนแรกสุดนั้น เราต้องตีโจทย์ให้แตกก่อนว่าเราอยากรู้หรือศึกษาอะไรที่คนพูดถึงใน โซเชียลมีเดีย ซึ่งในบทความนี้ Sellsuki จะกำหนดหัวข้อของ Data Research ฉบับนี้เป็นเรื่อง “ของขวัญปีใหม่” เพื่อตรวจสอบดูว่า เทรนด์ และ ไอเดียของขวัญปีใหม่ โดยอ้างอิงจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศไทยบนโซเชียลมีเดียเป็นอย่างไร 

Step 2 - Set Keyword & Data Gathering

ขั้นตอนต่อมาคือ กำหนด Keyword ให้สอดคล้องกับหัวข้อที่เราต้องการศึกษา เพื่อทำการเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Gathering) ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ เรามองคำว่า “ของขวัญปีใหม่” นั้น เหมาะสมที่สุดในการดูภาพรวมของอุตสาหกรรมนี้

จากการใช้เครื่องมือ Social Listening (Social Listening Tool) ในช่วง 11 กันยายน 2024 ถึง 11 ธันวาคม 2024 หรือเป็นระยะเวลา 3 เดือน รวบรวมข้อมูลบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook, X (Twitter), Instagram และ YouTube เป็นต้น พบว่า คำว่า "ของขวัญปีใหม่" มีการกล่าวถึงกว่า 24,500 ครั้ง โดยข้อมูลที่ Sellsuki รวบรวมได้นั้น เป็นข้อมูลจากโพสต์สาธารณะ ภายใต้นโยบาย Policy ของแพลตฟอร์ม

Step 3 - Data Analyst & Visualize

ในขั้นตอนที่สาม เราจะต้องนำข้อมูลที่ได้จากแพลตฟอร์มต่างๆ มาทำการวิเคราะห์ (Data Analysis) แต่อย่าลืมตรวจสอบ และคัดกรองข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Keyword ออกก่อน เพื่อให้การวิเคราะห์ของเรานั้นมีความแม่นยำและชัดเจนมากที่สุด

หากจะกล่าวถึงไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ ก็ย่อมที่จะไม่พลาดกับการอ่านย่อหน้านี้ ซึ่งถ้าพิจารณาแผนภูมินี้อย่างละเอียด จะพบว่ามีการกล่าวถึงคำว่า "ของขวัญปีใหม่" บน Facebook มากที่สุด หรือคิดเป็นเกือบ 60% ที่มีจำนวนมากถึง 14,695 Mentions เลยทีเดียว โดยการกล่าวถึงคำดังกล่าวบน Facebook นั้นทิ้งห่างอันดับสองอย่าง Instagram อย่างไม่เห็นฝุ่น โดยที่มีการกล่าวถึงคำว่า "ของขวัญปีใหม่" อยู่ที่ 6,253 Mentions หรือคิดเป็นเพียง 25.5% เท่านั้นเอง ในขณะเดียวกัน หากกวาดสายตามาดูที่อันดับ 3 แล้วก็น่าตกใจไม่น้อย เพราะกลับเป็นทางแพลตฟอร์ม X หรือทวิตเตอร์ในชื่อเก่า ซึ่งมีการกล่าวถึงคำว่า "ของขวัญปีใหม่" อยู่ที่ 2,078 Mentions หรือคิดเป็นเพียง 8.5% เท่านั้นเอง ส่วนอันดับที่ 4, 5 และ 6 นั้น จะเป็น Tiktok, Youtube และ Forum ต่างๆ ตามลำดับ ที่มีอัตราการกล่าวถึงรวมกันเพียง 6% กว่าๆ นั่นเอง

หากจะพิจารณาแค่แผนภูมิก็คงยังไม่ละเอียดมากพอในการวิเคราะห์เพื่อหา ไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ ในมุมของเจ้าของธุรกิจหรือเหล่าบรรดาผู้ประกอบการ วันนี้ทาง Sellsuki จะนำทุกท่านสู่บทวิเคราะห์เหตุผลเพิ่มเติมในการเลือกใช้ช่องทางต่างๆ ของผู้บริโภคที่ใช้ในการกล่าวถึง "ของขวัญปีใหม่" บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆดังนี้

Facebook ครองอันดับ 1 ในการพูดถึง "ของขวัญปีใหม่"

• ผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม: Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวและเพื่อนสนิทที่มักมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนของขวัญปีใหม่ ทำให้เกิดการแชร์ไอเดียของขวัญ รวมถึงการพูดคุยกันเกี่ยวกับของขวัญในวงกว้าง
• ฟีเจอร์ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วม: Facebook มีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น โพสต์, คอมเมนต์, และกรุ๊ปเฉพาะหัวข้อ (เช่น "ไอเดียของขวัญ") ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องของไอเดียของขวัญปีใหม่ได้สะดวก
• ความนิยมของการตลาดบน Facebook: แบรนด์และร้านค้าจำนวนมากใช้ Facebook ในการโปรโมตสินค้าและข้อเสนอพิเศษช่วงปีใหม่ ซึ่งดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาค้นหาและพูดคุยเกี่ยวกับของขวัญ และ ไอเดียของขวัญ เนื่องในเทศกาลปีใหม่

Instagram แหล่งรวมรูป 

• ภาพถ่ายสร้างแรงบันดาลใจ: Instagram เน้นการแชร์ภาพที่สวยงามและสร้างแรงบันดาลใจ ผู้ใช้จึงมักโพสต์ภาพของขวัญที่ได้รับหรืออยากได้ พร้อมใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือว่าส่วนนี้เป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ หรือผู้ประกอบการที่ต้องการหาไอเดียของขวัญ ไปแจกจ่ายแก่ลูกค้าของตัวเอง
• เหมาะกับสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์: สินค้าประเภทของขวัญ เช่น เครื่องประดับหรืออุปกรณ์ไลฟ์สไตล์ มักถ่ายรูปขึ้นและดึงดูดสายตาบน Instagram

X (Twitter เก่า) ศูนย์รวมของเทรนด์

• การพูดคุยแบบเรียลไทม์: ผู้ใช้มักใช้ X ในการแสดงความเห็นและแชร์ไอเดียของขวัญแบบทันที รวมถึงรีวิวสั้นๆ ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสนทนา
• ไวรัลง่าย: โพสต์ที่เกี่ยวกับของขวัญ ไอเดียของขวัญ หรือโปรโมชั่นพิเศษมีโอกาสถูกรีทวีตและกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

TikTok แหล่งรวมคลิปสั้น

• คอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจ: Tiktok เต็มไปด้วยวิดีโอรีวิวสินค้า, ไอเดีย DIY, และแนะนำของขวัญ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่
• เทรนด์เฉพาะเทศกาล: เทรนด์ที่เกี่ยวกับของขวัญปีใหม่มักเกิดขึ้นบน Tiktok เช่น การเปิดกล่องของขวัญ ทำให้เกิดการพูดถึงในช่วงเวลาสั้นๆ
• โอกาสไวรัล: คอนเทนต์ที่มีความแปลกใหม่เกี่ยวกับของขวัญปีใหม่ รวมถึงไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ นั้นมีโอกาสไวรัลหรือมีโอกาสที่คลิปจะดังสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่น

Youtube แพลตฟอร์มเบสิคของคนรักการลงคลิป

• คอนเทนต์รีวิวและ Unboxing: Youtube เน้นการสร้างวิดีโอที่มีความยาว เช่น รีวิวของขวัญ หรือวิดีโอ "ไอเดียของขวัญปีใหม่" ที่เข้าถึงผู้ชมในเชิงลึก
• การค้นหาแบบตั้งใจ: ผู้ชมมักค้นหาข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับสินค้าบน Youtube แต่การพูดถึงในวงกว้างอาจไม่เท่าแพลตฟอร์มอื่น

Forum และข่าว รั้งท้ายในการพูดถึง "ของขวัญปีใหม่"

• กลุ่มผู้ใช้งานจำกัด: Forum และข่าวออนไลน์มีกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น กลุ่มนักอ่านข่าว หรือผู้สนใจประเด็นเชิงลึก ซึ่งไม่ได้มุ่งเน้นที่การแลกเปลี่ยนไอเดียของขวัญ หรือ พูดคุยเกี่ยวกับของขวัญปีใหม่
• เนื้อหามีความจริงจัง: ข่าวและ Forum มักเน้นเนื้อหาทางวิชาการหรือประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับสังคมมากกว่าการแนะนำไอเดียของขวัญ หรือ รีวิวของขวัญ

ดังนั้น ผู้ประกอบการควรเน้นการทำการตลาดบน Facebook และ Instagram เป็นหลัก โดยนำเสนอไอเดียของขวัญที่ดึงดูดสายตา พร้อมแคปชันที่กระตุ้นการหยุดอ่านโพสต์หรือรับชมคอนเทนต์ และที่สำคัญแบรนด์ก็ไม่ควรพลาดในการลงคอนเทนต์ผ่าน Tiktok เพื่อเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ ส่วน Youtube นั้นเหมาะสำหรับการสร้างคอนเทนต์รีวิวหรือโชว์ฟังก์ชันสินค้าของแบรนด์ของคุณอย่างละเอียด

Social Data Stat Overview

จากข้อมูล Social Data Stat Overview พบว่า การพูดถึง “ของขวัญปีใหม่” เริ่มมีการขยับขึ้นตั้งแต่ กลางเดือนตุลาคม สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจและพูดถึงเรื่องของขวัญปีใหม่มากขึ้นในช่วงปลายปี แต่ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าตัวกราฟนั้นมาขยับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคมนั่นเองเนื่องจากเป็นช่วงที่ใกล้เทศกาลปีใหม่ สำหรับแบรนด์หรือธุรกิจ ช่วงเวลานี้จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่ต้องเร่งวางแผน ตั้งแต่การออกแบบ สั่งผลิต ไปจนถึงการจัดส่ง เพื่อให้ทันความต้องการของลูกค้าภายในสิ้นปี ในขณะเดียวกัน ฝั่งผู้บริโภคเองก็ต้องเร่งจัดหาของขวัญปีใหม่ล่วงหน้า เพราะหากช้าเกินไปของขวัญดีๆ ที่ต้องการอาจหมดจากตลาด หรืออาจพลาดโอกาสในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนสำคัญในช่วงเทศกาลนี้!

Social Data Stat by Hashtag Cloud

Sellsuki ใช้ Hashtag Cloud ฟีเจอร์ที่ช่วยค้นพบแฮชแท็กน่าสนใจ รวมไปถึงภาพรวมของข้อมูลและเทรนด์ที่สอดคล้องกับ Keyword ของเรา

หากต้องการจะสืบหาไอเดีย ของขวัญ รับปีใหม่ เราก็ต้องไม่ลืมที่จะวิเคราะห์ข้อมูลจากที่ Hashtag Cloud ด้วยเช่นเดียวกัน

แต่ก่อนที่จะลงลึกไปในส่วนของรายละเอียด วันนี้ Sellsuki จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจคร่าวๆ กันก่อนว่า แฮชแท็กสำคัญกับการตลาดออนไลน์อย่างไร โดยแฮชแท็กไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ธรรมดา แต่เป็น เครื่องมือทรงพลัง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการตลาดออนไลน์ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น

• เพิ่มการเข้าถึง (Reach): ช่วยให้โพสต์ของคุณไปไกลกว่าเดิม
• สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ (Brand Awareness): ให้คนจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
• ส่งเสริมแคมเปญ (Campaign Promotion): กระตุ้นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ
• วิเคราะห์เทรนด์ (Trend Analysis): เกาะติดกระแสที่ผู้บริโภคสนใจ
• เสริม SEO: เพิ่มโอกาสให้แบรนด์ถูกค้นพบในโลกออนไลน์

เมื่อเข้าใจความสำคัญของแฮชแท็กแล้ว ต่อไปเราจะพาทุกคนมาลงลึกในส่วนของรายละเอียดกัน 

ในส่วนนี้เราจะใช้ Hashtag Cloud ที่พบบน โซเชียลมีเดีย ซึ่งจากการสำรวจพบว่าอันดับ 1 คือ #ของขวัญปีใหม่ ซึ่งมีการกล่าวถึงอยู่ที่ราวๆ 40% หรือกว่า 9,800 ข้อความ โดย #ของขวัญ นั้นตามมาเป็นอันดับ 2 ซึ่งคิดเป็น 18% โดยประมาณ หรือกว่า 4,400 ข้อความ ส่วนอันดับ 3 นั้นคือ #ของขวัญวันเกิด ซึ่งจะคิดเป็น 1,520 ข้อความ หรือประมาณ 10% นั่นเอง ส่วน # อันดับที่ 4-10 นั้น มีการกล่าวถึงน้อยกว่า 10% บนโซเชียลมีเดีย เช่น #ปีใหม่ #ของขวัญคริสต์มาส #คริสต์มาส และ #ของขวัญวันครบรอบ เป็นต้น

การวิเคราะห์เรื่องแฮชแท็กยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ ทีมงาน Sellsuki จะพาทุกท่านไปเจาะลึกเพิ่มเติมอีกว่าทำไมแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับ “ของขวัญปีใหม่” 3 อันดับแรกนั้นติดเป็น Top Hashtags ได้อย่างไร

เหตุผลที่ #3 อันดับแรกติด Top Hashtags ในไทย

1. #ของขวัญปีใหม่ (40% หรือกว่า 9,800 ข้อความ)

• ความนิยมของเทศกาลปีใหม่: ปีใหม่เป็นเทศกาลใหญ่ที่มีการเฉลิมฉลองทั่วประเทศ การมอบของขวัญปีใหม่จึงเป็นกิจกรรมสำคัญที่ทุกคนให้ความสนใจ
• ช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง: การพูดถึง #ของขวัญปีใหม่ พุ่งสูงในช่วงเดือนสุดท้ายของปี เนื่องจากคนเริ่มหาไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ หรือ วางแผนซื้อของขวัญให้ครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมงาน
• การตลาดเชิงรุกของแบรนด์: ร้านค้าและธุรกิจมักใช้ #ของขวัญปีใหม่ ในการโปรโมตสินค้าหรือโปรโมชั่นเฉพาะเทศกาล ทำให้แฮชแท็กนี้ถูกกระตุ้นและแพร่กระจายกว้างขวาง ซึ่งการที่แบรนด์ทำแบบนี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มคนที่หาไอเดียของขวัญ ด้วยเช่นเดียวกัน

2. #ของขวัญ (18% หรือกว่า 4,400 ข้อความ)

• คำค้นหาที่กว้างและคลาสสิก: แฮชแท็ก #ของขวัญ เป็นคำทั่วไปที่เหมาะกับทุกโอกาส ไม่จำกัดแค่เทศกาลปีใหม่ เช่น วันเกิด, วันครบรอบ หรือการให้ของขวัญในชีวิตประจำวัน
• ความหลากหลายของบริบท: เนื่องจากแฮชแท็กนี้ไม่เจาะจง ผู้ใช้สามารถใช้ได้ในหลายสถานการณ์ เช่น หาไอเดียของขวัญ แนะนำสินค้าของขวัญ หรือโพสต์แชร์ของขวัญที่ได้รับ
• การใช้งานโดยผู้ขาย: ผู้ประกอบการมักใช้แฮชแท็กนี้ในการโปรโมตสินค้าเพื่อดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาของขวัญทุกประเภท

3. #ของขวัญวันเกิด (10% หรือกว่า 1,520 ข้อความ)

• วันเกิดเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นตลอดปี: แม้จะไม่ใช่ช่วงเทศกาลใหญ่ แต่วันเกิดเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้แฮชแท็กนี้ถูกพูดถึงตลอดทั้งปี
• การแชร์ของขวัญแบบเฉพาะเจาะจง: ผู้ใช้มักแชร์ไอเดียหรือภาพของขวัญที่เหมาะกับวันเกิด เช่น ของขวัญ DIY, การ์ดอวยพร หรือของขวัญที่มาจากความใส่ใจ
• ตลาดของขวัญวันเกิดยังคงเติบโตต่อเนื่อง: ธุรกิจ เช่น ร้านเค้ก, ร้านดอกไม้, และร้านเครื่องประดับ มักใช้แฮชแท็กนี้เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่กำลังมองหาของขวัญวันเกิด

นอกเหนือจาก Hashtag Cloud แล้ว ทาง Sellsuki ยังคงใช้เครื่องมือ Social Listening อย่าง Ubersuggest เพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ในส่วนของ “ของขวัญปีใหม่” โดยพบว่ากิจกรรมที่เกี่ยวข้องมากที่สุด ได้แก่
- จัดอันดับ ไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ 2024
- ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล
- รูปภาพฟรีที่เกี่ยวข้องกับของขวัญปีใหม่

Categories Overall

หลังจากที่เรารวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราต้องทำการแยกข้อมูลเหล่านี้ออกเป็นประเภทข้อมูล (Categories) เพื่อให้เราสามารถกำหนดหัวข้อหรือประเด็นเชิงลึก (Insights) ของหัวข้อที่เราต้องการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรามาดูกันว่าการกล่าวถึงที่มีมากกว่า 24,500 ครั้ง สามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้อย่างไรบ้าง 

หากต้องการที่จะหา “ไอเดียของขวัญ รับปีใหม่” ก็ย่อมพลาดไม่ได้ที่จะพิจารณาปัจจัยทั้ง 4 ดังต่อไปนี้ด้วย ซึ่งปัจจัยที่มียอดค้นหาสูงที่สุดก็คือ สิ่งที่คำนึงถึงในการเลือกซื้อของขวัญ ซึ่งจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงถึง 43.5% เมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ ส่วนอันดับ 2 ที่เป็นจุดประสงค์การค้นหาของผู้คนในโซเชียลมีเดียก็คือ ช่องทางการขาย โดยคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 27.8% ตามมาด้วย ประเภทของขวัญ ที่คิดเป็น 21.7% ในขณะที่อันดับสุดท้ายของการค้นหาคือ ปัจจัยในด้านงบประมาณในการซื้อของขวัญ โดยคิดเป็นเพียง 7.0% จากการค้นหาทั้งหมดในช่วงเวลา 3 เดือนบนโลกออนไลน์ 

สิ่งที่คำนึงถึงในการเลือกซื้อของขวัญปีใหม่

เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ หลายคนมองหา ไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ ที่เหมาะสม แต่ทราบหรือไม่ว่าปัจจัยที่คนส่วนใหญ่คำนึงถึงในการเลือกของขวัญมีอะไรบ้าง? จากข้อมูลที่กวาดยอดการค้นหาผ่านการทำ social listening พบว่า มีปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ ดังนี้:

1. ราคา (36.3%)
ราคาเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากที่สุด การตั้งงบประมาณที่เหมาะสมช่วยให้การเลือกของขวัญง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้จ่ายเกินตัว ไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ ที่ดี ควรมีความคุ้มค่าและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ให้และผู้รับ

2. ปัจจัยอื่นๆ (29.2%)
ปัจจัยเหล่านี้รวมถึงคุณภาพ ความแปลกใหม่ ความสวยงาม หรือความประทับใจที่ของขวัญจะสร้างให้ผู้รับ หากคุณกำลังมองหา ไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ ที่แตกต่าง การเลือกสินค้าที่มีความหมายพิเศษหรือทำให้ผู้รับจดจำคุณได้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเช่นกัน

3. ผู้รับ (22.6%)
ความชอบและไลฟ์สไตล์ของผู้รับเป็นสิ่งสำคัญ เช่น หากผู้รับชื่นชอบสุขภาพ อาจเลือกของขวัญประเภทอาหารเพื่อสุขภาพหรือชุดออกกำลังกาย ไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ ที่ตรงใจผู้รับจะช่วยสร้างความประทับใจและเชื่อมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

4. โปรโมชั่น (11.9%)
น่าแปลกใจไม่น้อย เมื่อผลการสืบค้นและวิเคราะห์ผ่าน Social Listening พบว่า โปรโมชั่น ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ กลับเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญน้อยที่สุดในการตัดสินใจซื้อของขวัญปีใหม่ เหตุผลนี้อาจมาจากความคาดหวังที่ว่าช่วงปลายปีมักมีโปรโมชั่นให้เลือกหลากหลายอยู่แล้ว ทำให้ผู้คนโฟกัสไปที่ปัจจัยอื่น เช่น ราคาที่เหมาะสมหรือความชอบของผู้รับมากกว่า อย่างไรก็ตาม ธุรกิจยังคงสามารถใช้โปรโมชั่นที่โดดเด่นและแตกต่าง เช่น ดีลพิเศษที่จำกัดช่วงเวลา หรือของแถมที่มีความพิเศษเฉพาะเทศกาล เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ เพราะแม้จะไม่ใช่ปัจจัยหลัก แต่โปรโมชั่น ก็ยังเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าและดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้อยู่เสมอ 

ประเภทของขวัญ

ในช่วงปีใหม่ การเลือกของขวัญที่เหมาะสมกับผู้รับถือเป็นสิ่งสำคัญ หลายคนอาจสงสัยว่าของขวัญประเภทใดที่ได้รับความนิยมที่สุดในการมอบให้กันในเทศกาลนี้ จากข้อมูลที่ได้รวบรวมมา เราสามารถจำแนก ของขวัญปีใหม่ ออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้:

1. ของใช้ (29.2%)
น่าแปลกใจอีกไม่น้อยที่กของใช้ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในหมวดหมู่ของขวัญที่ได้รับความนิยมในวันปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ในบ้าน แก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ หรือของตกแต่งโต๊ะทำงาน เพราะเป็นสิ่งที่ผู้รับสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ทันที การเลือกของใช้ที่มีดีไซน์สวยงามหรือมีฟังก์ชันพิเศษจะยิ่งเพิ่มความประทับใจ

2. ขนม (28.4%)
ไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ ที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือขนม ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน ช็อกโกแลต หรือคุกกี้ในบรรจุภัณฑ์สวยงาม ขนมถือเป็นของขวัญที่เข้าถึงได้ง่ายและเหมาะกับทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังสร้างความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง

3. เครื่องประดับ (16.2%)
เครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ กำไล หรือแหวน นั้นเป็นหมวดหมู่ที่ถูกค้นหาเป็นอันดับที่ 3 รองลงมาจากของใช้และขนม โดยเครื่องประดับนั้นถือเป็นของขวัญที่มีความพิเศษและสื่อความหมาย ผู้ให้สามารถเลือกดีไซน์ที่สะท้อนถึงบุคลิกของผู้รับได้ เป็น ไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ ที่ช่วยสร้างความทรงจำดี ๆ ในเทศกาลสำคัญได้เช่นกัน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงหากเป็นเครื่องประดับที่ทำมาจากทอง เพชร หรืออัญมณี

4. กระเช้า (11.3%)
กระเช้าของขวัญยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยม โดยเฉพาะสำหรับการมอบให้ในเชิงธุรกิจหรือในครอบครัว การเลือกกระเช้าที่จัดอย่างพิถีพิถัน เช่น กระเช้าสุขภาพหรือกระเช้าผลิตภัณฑ์พรีเมียม จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและความคุ้มค่า

5. เสื้อผ้า (9.5%)
เสื้อผ้าเป็นของขวัญที่แสดงถึงความใส่ใจในตัวผู้รับ การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์หรือสีที่ผู้รับชื่นชอบจะช่วยสร้างความประทับใจ ไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ อย่างเสื้อผ้าอาจรวมถึงผ้าพันคอหรือชุดอยู่บ้านที่น่ารักและสวมใส่สบาย

6. ของเล่น (5.4%)
ของเล่นแม้จะอยู่ในลำดับท้าย ๆ แต่ก็เป็นของขวัญที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบไอเทมที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลิน เช่น โมเดลสะสม เกมกระดาน หรือของเล่นเสริมทักษะ

ช่องทางการซื้อของขวัญปีใหม่

ในยุคที่การช้อปปิ้งกลายเป็นเรื่องสะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่าย การซื้อของขวัญปีใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จากข้อมูลพบว่าช่องทางการขายมีสัดส่วนแบ่งเป็น ออนไลน์ ถึง 58% และ ออฟไลน์ ในอัตราส่วน 42% (ข้อมูลที่ได้นั้นอ้างอิงจากการทำ social listening ซึ่งจะกวาดข้อมูลได้เฉพาะการกล่าวถึงโซเชียลมีเดียเท่านั้น มิได้เก็บข้อมูลผ่านช่องทางออฟไลน์ เช่น การทำโพลล์ หรือ แจกแบบสอบถามตามสถานที่ต่างๆแต่อย่างใด) โดยแต่ละช่องทางมีจุดเด่นและแหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจ ดังนี้: 

1. ช่องทางออนไลน์ (58%)
การซื้อของขวัญปีใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะความสะดวกสบายและตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะช้อปผ่านแพลตฟอร์มยอดฮิตหรือร้านค้าโซเชียลมีเดีย ช่องทางออนไลน์ช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดเวลาและเข้าถึงโปรโมชั่นพิเศษได้ง่าย

ตัวอย่างแหล่งขายออนไลน์ในประเทศไทย:

• E-commerce Platform: เช่น Lazada และ Shopee
  • มีสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่ของใช้ ขนม กระเช้าของขวัญ ไปจนถึงเครื่องประดับในราคาที่เข้าถึงได้
• Social Media: เช่น Facebook, Instagram และ Tiktok
  • เหมาะสำหรับการเลือกของขวัญทั่วไป หรือแม้กระทั่งสินค้าแฮนด์เมดหรือของพรีเมียมที่ผู้ขายมักจะโปรโมตผ่านภาพสวย ๆ
•  เว็บไซต์แบรนด์โดยตรง: 
  • สำหรับการสั่งกระเช้าปีใหม่หรือสินค้าพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำโดยตรง

จุดเด่น:

• ช้อปได้ตลอด 24 ชั่วโมง
• มีโปรโมชั่นลดราคาและโค้ดส่วนลดเฉพาะออนไลน์
• บริการจัดส่งถึงบ้าน

2. ช่องทางออฟไลน์ (42%)
แม้ช่องทางออฟไลน์จะมีสัดส่วนการใช้งานน้อยกว่าในยุคปัจจุบัน แต่ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสัมผัสสินค้าจริงหรือซื้อของขวัญในนาทีสุดท้าย

ตัวอย่างแหล่งขายออฟไลน์ในประเทศไทย:

• ห้างสรรพสินค้า: เช่น Central และ The Mall
  • แหล่งรวมของขวัญทุกประเภท ทั้งขนม กระเช้าสินค้า เสื้อผ้า และของใช้พรีเมียม
• ตลาดนัดและร้านค้าในชุมชน: เช่น ตลาดนัดจตุจักร และ จอร์จแฟร์
  • เหมาะสำหรับของขวัญที่มีความเฉพาะตัว เช่น งานแฮนด์เมดหรือสินค้าท้องถิ่น
• ซูเปอร์มาร์เก็ต: เช่น Lotus’s และ Big C
  • เหมาะสำหรับกระเช้าสินค้า ขนม หรือของใช้ในบ้านที่สะดวกและรวดเร็ว

จุดเด่น:

• เห็นและสัมผัสสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
• ได้ของขวัญทันทีโดยไม่ต้องรอการจัดส่ง
• มีโอกาสเจอสินค้าพิเศษในโซนโปรโมชั่น

งบประมาณในการเลือกซื้อของขวัญปีใหม่ 

การวางแผนงบประมาณสำหรับการซื้อถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการหาไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ โดยงบประมาณในการเลือกซื้อนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเลือกซื้อของขวัญเป็นไปอย่างราบรื่นและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย จากข้อมูลพบว่า คนส่วนใหญ่มีงบประมาณในการเลือกซื้อขวัญปีใหม่ อยู่ในช่วงราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้: 

 1. งบประมาณ 100-200 บาท (43.8%)
ช่วงราคานี้ได้รับความนิยมสูงที่สุด เนื่องจากเหมาะสำหรับของขวัญที่มีความเรียบง่ายและคุ้มค่า เช่น

• แก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ
• ขนมเซ็ตเล็ก ๆ
• สมุดโน้ตหรือปากกาดีไซน์เก๋

ของขวัญในช่วงราคานี้เหมาะสำหรับการมอบให้เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า หรือคนรู้จักที่ต้องการสร้างความประทับใจแบบไม่ต้องลงทุนสูง

2. งบประมาณต่ำกว่า 100 บาท (21.3%)
แม้จะเป็นงบประมาณที่น้อยที่สุด แต่ยังคงสามารถเลือกเผื่อเพื่อที่จะเป็นไอเดียของขวัญ รับปีใหม่ ที่น่าสนใจได้ เช่น

• พวงกุญแจแฮนด์เมด
• ขนมหวานห่อสวยงาม
• การ์ดอวยพรที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน

ของขวัญในกลุ่มนี้เหมาะสำหรับการมอบให้ในงานเลี้ยงหรือแจกในปริมาณมาก เช่น ของขวัญแทนคำขอบคุณ

3. งบประมาณ 200-500 บาท (17.8%)
ช่วงราคานี้เปิดโอกาสให้เลือกของขวัญที่ดูพรีเมียมมากขึ้น เช่น

• กระเช้าขนาดเล็กที่ประกอบด้วยของใช้หรือขนม
• เครื่องประดับชิ้นเล็ก ๆ เช่น ต่างหูหรือจี้ห้อยคอ
• สินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น เทียนหอม หรือผ้าพันคอดีไซน์พิเศษ

ของขวัญในช่วงราคานี้มักใช้มอบให้กับคนพิเศษ เช่น เพื่อนสนิท ญาติ หรือหัวหน้างาน

4. งบประมาณมากกว่า 500 บาท (17.1%)
ของขวัญในกลุ่มนี้เน้นที่คุณค่าและความพิเศษ เช่น

• กระเช้าปีใหม่ที่จัดด้วยสินค้าพรีเมียม
• เครื่องประดับหรือสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม
• กิฟต์เซ็ตสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก

งบประมาณนี้เหมาะสำหรับการมอบให้ญาติผู้ใหญ่ คนสำคัญในครอบครัว ผู้บริหาร ลูกค้ารายสำคัญ หรือคนพิเศษในชีวิต

สัดส่วนประชากรที่สนใจ

หากอ้างอิงข้อมูลจากเครื่องมือ Social Listening จะพบได้ว่าผู้ที่กล่าวถึง ของขวัญปีใหม่ บน โซเชียลมีเดีย นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่มีช่วงอายุ 25 ถึง 34 ปี โดยวันนี้ น้องสุกิขอสามารถสรุปข้อมูลและแนบบทวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเติมดังนี้:

1. สัดส่วนตามเพศ

• ผู้หญิง (Female): คิดเป็น 66% ของประชากรทั้งหมดที่สนใจ เนื่องจากเพศหญิงนั้นมีแนวโน้มที่จะสนใจในเรื่องของขวัญปีใหม่สูงกว่าเพศชาย อาจเพราะความใส่ใจในรายละเอียดและความต้องการสร้างความประทับใจให้ผู้รับ
• ผู้ชาย (Male): คิดเป็น 34% ของประชากรทั้งหมดที่สนใจ แม้ว่าสัดส่วนจะน้อยกว่าผู้หญิง แต่จากการสืบค้นเพิ่มเติมพบว่าผู้ชายที่สนใจมักมองหาของขวัญที่เน้นความคุ้มค่าและความเหมาะสม

2. สัดส่วนตามช่วงอายุ (ระบุเพศ)

• ช่วงอายุ 25-34 ปี: 
  • ผู้หญิงในช่วงอายุนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนสูงที่สุดในการเลือกซื้อของขวัญปีใหม่ โดยผู้หญิงในวัยนี้มักมองหาของขวัญที่เหมาะสำหรับทั้งครอบครัว เพื่อนสนิท และผู้ร่วมงาน
  • ผู้ชายในช่วงอายุนี้ก็มีกิจกรรมในการเลือกของขวัญเช่นกัน โดยเน้นที่ของขวัญสำหรับเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านาย แต่ก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เท่าผู้หญิงในช่วงอายุเดียวกัน
• ช่วงอายุ 18-24 ปี:
  • ผู้หญิงในกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีความสนใจรองลงมา โดยผู้หญิงในช่วงอายุนี้มักชื่นชอบไอเดียของขวัญที่มีความทันสมัย สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนหรือคนรู้ใจ
  • ผู้ชายในกลุ่มนี้เน้นของขวัญที่สื่อถึงความสนุกสนานและเหมาะสมกับงบประมาณที่ไม่สูงมาก
• ช่วงอายุ 35-44 ปี:
  • ผู้หญิงในช่วงอายุนี้มักเลือกของขวัญที่ดูมีคุณค่าและสะท้อนถึงความใส่ใจ เช่น กระเช้าปีใหม่หรือของขวัญเพื่อสุขภาพ
  • ผู้ชายในช่วงนี้เน้นของขวัญที่เหมาะกับผู้ใหญ่ในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานระดับสูง
• ต่ำกว่า 18 ปี และมากกว่า 45 ปี:
  • สำหรับกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายในช่วงต่ำกว่า 18 ปี ความสนใจในไอเดียของขวัญยังค่อนข้างต่ำ เพราะยังไม่ได้มีอำนาจซื้อชัดเจน
  • ในขณะที่ผู้หญิงและผู้ชายกลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไปมักโฟกัสที่การรับของขวัญมากกว่าการเลือกซื้อ

Step 4 - Summarize

ในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในการเพิ่มยอดขายและสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ถ้าหากการเฟ้นหาไอเดียของขวัญ รวมถึงการเลือกหาของขวัญปีใหม่นั้นตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เช่น ของใช้ในชีวิตประจำวัน ขนมที่มีบรรจุภัณฑ์สวยงาม หรือเครื่องประดับดีไซน์ทันสมัย นอกจากนี้ การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าด้วยบริการเสริม เช่น การห่อของขวัญฟรี การจัดส่งที่รวดเร็ว หรือบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม จะช่วยสร้างความไว้วางใจและความประทับใจให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างฐานลูกค้าประจำที่พร้อมกลับมาซื้อซ้ำในอนาคต

นอกจากตัวสินค้าที่ดึงดูดใจแล้ว การจัดโปรโมชั่นพิเศษ ยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในช่วงเทศกาล ตัวอย่างเช่น การมอบส่วนลดสำหรับสินค้ายอดนิยม การจัดส่งฟรีสำหรับการสั่งซื้อที่มียอดขั้นต่ำ หรือการจัดแพ็กเกจของขวัญพร้อมใช้งานที่ลูกค้าสามารถนำไปมอบให้ได้ทันที โปรโมชั่นเหล่านี้ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าและสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าของคุณ

ในด้านของ การตลาดออนไลน์ การใช้ช่องทางที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มี Engagement สูงสุด เหมาะสำหรับการโปรโมตสินค้าหลากหลายประเภท ส่วน Instagram เหมาะกับสินค้าแฟชั่น ของใช้ส่วนตัว หรือขนม Homemade ที่เน้นความสวยงามของภาพถ่าย ขณะที่ TikTok โดดเด่นในการขายสินค้าราคาย่อมเยาและเป็นกระแส เช่น ของเล่นหรือของใช้จุกจิก นอกจากนี้ การร่วมมือกับ Influencers หรือการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ เช่น การรีวิวสินค้า หรือการแนะนำไอเดียของขวัญ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสให้สินค้าของคุณโดดเด่นในตลาด

สุดท้ายนี้ การจัดหมวดหมู่สินค้าตามช่วงราคา เช่น 100-200 บาท หรือ 300-500 บาท จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งเน้นใช้ คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง อย่าง #ของขวัญปีใหม่ หรือ #ของขวัญผู้ใหญ่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหาและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่วงเวลาสำคัญนี้ การใช้กลยุทธ์เหล่านี้อย่างครบถ้วนจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเพิ่มยอดขายและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ!

Step 5 - Make Solution & Idea

ถึงแม้ว่าการเลือกหาไอเดียของขวัญถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างธรรมดาที่ธุรกิจต้องทำอยู่แล้วในแต่ละปี แต่จะดีกว่าไหม หากเรามีข้อมูลมาแบ็คอัพ หรือ ทราบว่าลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของเราชอบและต้องการอะไร นอกจากการให้ของขวัญที่ตรงใจจะเป็นการสร้างความประสบการณ์ที่ดีและความประทับใจให้กับลูกค้าของเราแล้ว ยังถือเป็นการผูกมิตรและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาวอีกด้วย เหมือนเช่นเคย ทาง Sellsuki ก็ไม่พลาดที่จะนำการวิเคราะห์มาฝาก โดยจะเน้นหนักไปที่ การตลาดออนไลน์ ซึ่งคือจุดประสงค์ของบทความนี้ จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย!

1. มอบของขวัญที่มีเรื่องราว เล่าที่มาของของขวัญให้ลูกค้าประทับใจ
การมอบของขวัญให้ลูกค้าควรมาพร้อมกับเรื่องราวที่สะท้อนคุณค่าและตัวตนของแบรนด์ เช่น:

• ที่มาของของขวัญปีใหม่: บอกเล่าว่าของชิ้นนี้ผลิตจากที่ไหน หรือได้รับแรงบันดาลใจจากอะไร เช่น "แก้วเก็บความร้อนที่ใช้วัสดุรักษ์โลก"
• สัญลักษณ์ของความตั้งใจ: เน้นการเลือกของขวัญที่มีความหมาย เช่น สมุดบันทึกที่เป็นตัวแทนของการบันทึกเรื่องราวดีๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า
• เรื่องราวของการเชื่อมโยง: เล่าเรื่องที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ใส่ใจและเข้าใจพวกเขา เช่น “เรามอบปฏิทินปีใหม่เพื่อช่วยคุณวางแผนความสำเร็จตลอดทั้งปี”

2. หาไอเดียของขวัญผ่าน Social Media Social Media ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางโปรโมตสินค้า แต่ยังเป็นแหล่งหาไอเดียของขวัญที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างดี วิธีการมีดังนี้:

• สำรวจเทรนด์และกระแส: ใช้แพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ Instagram เพื่อค้นหาไอเดียของขวัญที่กำลังเป็นที่นิยมผ่านแฮชแท็ก เช่น #NewYearGift หรือ #GiftIdeas รวมถึงติดตาม Influencers ที่เชี่ยวชาญด้านการรีวิวสินค้า
• ทำแบบสอบถามหรือโพล: ใช้ Facebook, Line OA หรือ Instagram Stories ในการตั้งคำถามหรือโพลเพื่อสอบถามว่าลูกค้าต้องการอะไรในช่วงปีใหม่ วิธีนี้ไม่เพียงให้ข้อมูลเชิงลึก แต่ยังสร้าง Engagement กับผู้ติดตาม แต่อย่างไรก็ตาม แบรนด์ก็ต้องไม่ลืมที่จะคัดกรองอีกทีว่าผู้ที่โหวตคนใดเป็นหรือไม่เป็นลูกค้าของแบรนด์
• วิเคราะห์ความคิดเห็น: อ่านคอมเมนต์หรือรีวิวในโพสต์สินค้าที่คล้ายคลึงกับแบรนด์ของคุณ เพื่อค้นหาอินไซด์เกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้าชื่นชอบหรือคาดหวัง
• ใช้ฟีเจอร์ Community: เช่น การสร้างกลุ่ม Facebook หรือการเชิญลูกค้าเข้ามาร่วมแชร์ไอเดียผ่านกิจกรรม เหมือนดั่งกลุ่มดีๆ ที่ให้ทุกคนรับข่าวสารข้อมูลของเราอย่าง ร้านค้าผู้น่า like by Sellsuki ชุมชนคนขายของและบริหารธุรกิจอย่างมือโปร

3. สร้างคอนเทนต์ที่เน้นการเล่าเรื่องและเพิ่มคุณค่า

• เน้นการเล่าเรื่องราวของของขวัญ เช่น “แรงบันดาลใจเบื้องหลังสินค้า” หรือ “ความหมายที่ซ่อนอยู่ในของขวัญ”
• เพิ่มเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เช่น “5 ไอเดียเลือกของขวัญให้คนสำคัญ” หรือ “วิธีการจัดเซ็ตของขวัญที่สร้างความประทับใจ” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ content pillar ในช่วงปลายปีของแบรนด์ด้วย
• ใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง เช่น #ของขวัญปีใหม่ #ไอเดียของขวัญ เพื่อเพิ่มการมองเห็นในกลุ่มเป้าหมาย

4. การตลาดผ่าน Influencers เพื่อขยายการเข้าถึง

• มอบของขวัญที่ตั้งใจจะมอบให้แก่ลูกค้าของแบรนด์กับเหล่า influencers ที่มีคอนเน็คชั่นกับทางแบรนด์หรือเหล่า influencers ที่ทางแบรนด์ติดต่อให้รีวิวงานเป็นประจำด้วย วิธีนี้นอกจากจะเป็นการแสดงความขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกส่วนกับทางแบรนด์แล้ว แต่การรีวิวของขวัญของ influencers ยังถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ (Brand Awareness) ว่าใส่ใจและให้ความสำคัญกับลูกค้า ผ่านกลุ่มผู้ติดตามของเหล่า influencers ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์อยู่แล้วอีกด้วย

5. ยกระดับ Customer Experience ในทุกขั้นตอน

• การจัดส่งของขวัญปีใหม่ที่รวดเร็ว พร้อมบริการเสริม เช่น การเพิ่มการ์ดอวยพรลงในของขวัญปีใหม่ หรือการจัดส่งตรงถึงมือผู้รับพร้อมการ์ดปีใหม่
• ติดตามผลหลังการให้ของขวัญ เช่น สอบถามลูกค้าว่าถูกใจของขวัญปีใหม่ที่บริษัทมอบให้หรือไม่

6. ใช้ Data Insights เพื่อพัฒนากลยุทธ์ต่อไป 

• การวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า: โดยการดูข้อมูลในอดีตว่า ลูกค้าชอบของขวัญประเภทไหน เช่น ของขวัญที่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน หรือของขวัญที่เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง ช่วยให้แบรนด์เลือกไอเดียของขวัญที่ลูกค้าจะรู้สึกประทับใจได้ง่ายขึ้น
• การเก็บข้อมูลจากแคมเปญก่อนหน้า: การวิเคราะห์ผลตอบรับจากแคมเปญปีที่ผ่านมาจะช่วยให้แบรนด์เข้าใจว่า ของขวัญไหนได้รับความนิยม และ การส่งมอบแบบไหนที่ลูกค้าชอบ เช่น การจัดส่งฟรี หรือการมอบของขวัญในกล่องที่สวยงาม

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะรู้สึกยังไม่พร้อม ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร หรืออาจจะยังไม่ชำนาญในบางแพลตฟอร์ม แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะ Sellsuki อยากพาธุรกิจของเติบโตไกลไปพร้อมๆกัน โดยทางเรามีบริการครบวงจรบนโลกธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น บริการที่ปรึกษาธุรกิจการตลาดแบบครบวงจร (WizeMoves Consult) ผู้ช่วยจัดจำหน่ายออนไลน์ครบวงจร ดูแลครอบคลุมทุกขั้นตอนการขาย (WizeMoves e-Dis) บริการโฆษณาออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม (WizeMoves Ads) บริการดูแล LINE Official Account ครบวงจร (LINE Agency) และอื่นๆ อีกมากมายที่ Sellsuki มีพร้อมให้คุณ

    และเพื่อไม่ให้พลาดความรู้และสาระสำคัญแบบนี้ก่อนใคร อย่าลืมกดติดตามน้องสุกิบนช่องทาง Facebook, Youtube (ตอนนี้เรามีรายการชื่อ Patona Podcast ด้วยนะ!! เป็นรายการที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะพาธุรกิจของคุณเติบโตไปอีกวันละ 1%), Instagram และ TikTok

    สำหรับคนที่อยากได้ Data Research Insight เวอร์ชันเต็มของเดือนธันวาคม สามารถดาวน์โหลดฟรี เพียงลงทะเบียนด้านล่างได้เลย!